พบผลลัพธ์ทั้งหมด 317 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งริบของกลางในคดีการค้าข้าว แม้โจทก์มิได้อ้างบทบัญญัติโดยตรง
พระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 มาตรา 21 ทวิพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 12 เป็นบทบัญญัติให้ริบข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว เมื่อปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์มีคำขอให้ศาลสั่งริบข้าวของกลางแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างบทมาตราของพระราชบัญญัติการค้าข้าวดังกล่าว ที่บัญญัติให้ริบของกลางมาในคำฟ้องด้วย ศาลก็มีอำนาจสั่งริบข้าวของกลางตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้ (อ้างฎีกา 485/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งริบของกลางในคดีการค้าข้าว แม้โจทก์มิได้อ้างมาตราที่บัญญัติการริบโดยตรง
พระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 มาตรา 21 ทวิพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 12 เป็นบทบัญญัติให้ริบข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดตามพระราชบัญญัติ การค้าข้าว เมื่อปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์มีคำขอให้ศาลสั่งริบข้าวของกลางแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างบทมาตราของพระราชบัญญัติการค้าข้าวดังกล่าว ที่บัญญัติให้ริบของกลางมาในคำฟ้องด้วย ศาลก็มีอำนาจสั่งริบข้าวของกลางตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้ (อ้างฎีกา 485/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินที่ถูกล้อม การชดใช้ค่าทดแทนไม่ใช่เงื่อนไขเบื้องต้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1349 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้เจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมมีสิทธิผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้ก็เนื่องจากถือเอาความจำเป็นของเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมเป็นสำคัญ ส่วนค่าทดแทนตามวรรคสี่เป็นเพียงค่าชดเชยการใช้ทางผ่านเท่านั้นและก็มิได้บังคับให้เจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมต้องปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน แล้วจึงจะใช้สิทธิได้ ฉะนั้น โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นได้โดยมิจำต้องเสนอชดใช้ค่าทดแทน เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องเรียกร้องขึ้นมาเอง การใช้สิทธิของโจทก์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หาอาจถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยมิชอบและไม่สุจริตไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: ผู้ขายไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของขณะทำสัญญา หากสามารถจัดการโอนได้
ผู้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในขณะทำสัญญาก็ได้ เพราะสารสำคัญที่เป็นวัตถุประสงค์ของการซื้อขายก็คือให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ไปโดยชำระราคาตามที่ตกลง หากผู้ขายสามารถจัดการให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์โดยชำระราคาตามที่ตกลงไว้สัญญาจะซื้อขายนั้นก็ใช้ได้แล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1214/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: ผู้ขายไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของขณะทำสัญญา หากสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
ผู้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในขณะทำสัญญาก็ได้ เพราะสารสำคัญที่เป็นวัตถุประสงค์ของการซื้อขายก็คือให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ไปโดยชำระราคาตามที่ตกลง หากผู้ขายสามารถจัดการให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์โดยชำระราคาตามที่ตกลงไว้สัญญาจะซื้อขายนั้นก็ใช้ได้แล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1214/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งทอดสุดท้ายในกรณีสินค้าสูญหายหรือเสียหาย และอายุความฟ้องร้อง
ผู้ขายสินค้าในต่างประเทศว่าจ้างบริษัท ฟ.และบริษัทว. ซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในต่างประเทศ ทำการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาให้ผู้ซื้อในประเทศไทย บริษัท ฟ.และบริษัท ว. ไม่มีสาขาในประเทศไทย จึงว่าจ้างจำเลยทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลมาที่หน้าการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยเป็นผู้ติดต่อกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยขออนุญาตนำเรือเข้าจอดเทียบท่าและจัดการหาคนหรือเครื่องมือขนถ่ายสินค้าออกจากเรือเดินทะเลนำไปที่หน้าท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยจำเลยมีหน้าที่ลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ให้ผู้รับตราส่งทราบและผู้รับตราส่งต้องนำใบตราส่งมาแลกกับใบปล่อยสินค้าซึ่งจำเลยเป็นผู้ออก เพื่อนำไปรับสินค้าจากคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย การดำเนินการของจำเลยดังกล่าวมีลักษณะร่วมกันขนส่งสินค้ากับบริษัท ฟ.และบริษัทว. และเป็นการขนส่งหลายทอดโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จำเลยจึงต้องรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี การฟ้องให้ผู้ขนส่งรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายจึงมีอายุความ 10ปี นับแต่ผู้รับตราส่งได้รับสินค้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี การฟ้องให้ผู้ขนส่งรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายจึงมีอายุความ 10ปี นับแต่ผู้รับตราส่งได้รับสินค้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งทอดสุดท้ายในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและการกำหนดอายุความ
ผู้ขายสินค้าในต่างประเทศว่าจ้างบริษัท ฟ. และบริษัท ว.ซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในต่างประเทศ ทำการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาให้ผู้ซื้อในประเทศไทย บริษัท ฟ. และ บริษัท ว.ไม่มีสาขาในประเทศไทย จึงว่าจ้างจำเลยทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือเดินทะเลมาที่หน้าการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยเป็นผู้ติดต่อกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยขออนุญาตนำเรือเข้าจอดเทียบท่าและจัดการหาคนหรือเครื่องมือขนถ่ายสินค้าออกจากเรือเดินทะเลนำไปที่หน้าท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยจำเลยมีหน้าที่ลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ให้ผู้รับตราส่งทราบและผู้รับตราส่งต้องนำใบตราส่งมาแลกกับใบปล่อยสินค้าซึ่งจำเลยเป็นผู้ออก เพื่อนำไปรับสินค้าจากคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย การดำเนินการของจำเลยดังกล่าวมีลักษณะร่วมกันขนส่งสินค้ากับบริษัท ฟ. และบริษัท ว.และเป็นการขนส่งหลายทอดโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้ายจำเลยจึงต้องรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี การฟ้องให้ผู้ขนส่งรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายจึงมีอายุความ 10 ปี นับแต่ผู้รับตราส่งได้รับสินค้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ปัจจุบันกฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี การฟ้องให้ผู้ขนส่งรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายจึงมีอายุความ 10 ปี นับแต่ผู้รับตราส่งได้รับสินค้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ใช้น้ำบาดาลไม่เกี่ยวข้องกับคดีโอนกิจการ ผู้ร้องสอดไม่มีส่วนได้เสียจึงร้องสอดไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบกิจการน้ำบาดาลที่จำเลยรับโอนไปจากโจทก์คืนแก่โจทก์ ผู้ร้องอยู่ในฐานะเป็นผู้ใช้น้ำบาดาล ซึ่งโจทก์มีหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายหรือเช่าซื้อต้องจัดบริการให้ผู้ร้องดังนี้ การโอนกิจการน้ำบาดาลระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการได้สิทธิหรือเสียสิทธิของผู้ร้อง หากโจทก์แพ้คดีสิทธิของผู้ร้องสอดในเรื่องใช้น้ำบาดาลหาได้กระทบกระเทือนโดยผลแห่งคดีนี้ไม่ ผู้ร้องจึงมิได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ไม่ เป็นการจำเป็นเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ จึงร้องสอดเข้ามาในคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องผู้รับประกันภัยในฐานะผู้รับช่วงสิทธิ ไม่ต้องบรรยายกรมธรรม์และส่งเอกสาร
ผู้รับประกันภัยรถคันที่ถูกชนเป็นโจทก์ฟ้องในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิบังคับให้จำเลยรับผิดด้วยในมูลละเมิด มิได้ฟ้องขอให้บังคับตาม กรมธรรม์ประกันภัยโดยตรง โจทก์จึงไม่จำต้องบรรยายเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยมากับฟ้อง ทั้งจำเลยก็ให้การได้ถูกว่าโจทก์ไม่ได้รับช่วงสิทธิฟ้องคดีนี้ คำฟ้องของโจทก์ จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 และมิได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาประกันภัย จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องส่งกรมธรรม์ประกันภัยต่อศาล
กรมธรรม์ประกันภัยโจทก์หาไม่พบ และต้นฉบับอยู่ที่สำนักงานประกันภัยซึ่งเป็นบุคคลภายนอก โจทก์จึงไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(2) ศาลย่อมรับฟังเอกสารได้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 และมิได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาประกันภัย จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องส่งกรมธรรม์ประกันภัยต่อศาล
กรมธรรม์ประกันภัยโจทก์หาไม่พบ และต้นฉบับอยู่ที่สำนักงานประกันภัยซึ่งเป็นบุคคลภายนอก โจทก์จึงไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(2) ศาลย่อมรับฟังเอกสารได้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ที่ดินของผู้อื่นเพื่อวางสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องเสนอค่าทดแทนตามสมควร มิฉะนั้นไม่มีสิทธิ
จำเลยเจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของตนต่อเมื่อได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้จำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิกระทำดังกล่าวได้ และคดีไม่มีประเด็นเรื่องค่าทดแทน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้โจทก์ชำระค่าตอบแทนแก่จำเลย จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น