พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273-274/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางการจำนอง: การนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์สภาพที่แท้จริงของสัญญา
โจทก์จำนองที่ดินไว้เป็นประกันเงินกู้แต่ทำหลักฐานทางทะเบียนเป็นการขายฝากและโจทก์คงครอบครองที่ดินมาดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบว่าสัญญาขายฝากที่ทำต่อเจ้าพนักงานว่าเป็นนิติกรรมอำพรางการจำนองได้ไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร อันต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะถ้าสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางการจำนองก็เป็นโมฆะเสียเปล่าใช้บังคับไม่ได้(ฎีกา 272/2498ประชุมใหญ่4/2498)
เมื่อคู่ความยังโต้เถียงข้อเท็จจริงกันว่ามีการทำนิติกรรมอำพรางนิติกรรมที่แท้จริงไว้และยังไม่ได้ความที่จะฟังว่าเป็นไปในทางใดศาลชั้นต้นก็สั่งงดสืบพยานเสียดังนี้ ศาลฎีกามีอำนาจให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
เมื่อคู่ความยังโต้เถียงข้อเท็จจริงกันว่ามีการทำนิติกรรมอำพรางนิติกรรมที่แท้จริงไว้และยังไม่ได้ความที่จะฟังว่าเป็นไปในทางใดศาลชั้นต้นก็สั่งงดสืบพยานเสียดังนี้ ศาลฎีกามีอำนาจให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขยายเวลาไถ่ถอนขายฝากเกินกำหนดตามกฎหมาย มิชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกันถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี ในวันครบกำหนดได้ตกลงขยายการไถ่ถอนกันด้วยปากเปล่าต่อไป 1 ปี ครั้นครบกำหนดได้ตกลงทำหนังสือว่ายอมให้ต่อการไถ่ถอนกันไปอีก 1 ปี ต่อมาภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนครั้งที่ 2 ผู้ขายฝากไปขอไถ่ถอนดังนี้ ถือว่าข้อตกลงนั้นเป็นการขยายเวลาการไถ่ถอนการขายฝาก ไม่ใช่เป็นเรื่องคำมั่นจะขายทรัพย์ที่ขายฝาก
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขยายเวลาไถ่ถอนการขายฝากเกินกำหนดตามกฎหมาย มิชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 496
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกันถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี ในวันครบกำหนดได้ตกลงขยายการไถ่ถอนกันด้วยปากเปล่าต่อไป 1 ปี ครั้งครบกำหนดได้ตกลงทำหนังสือว่ายอมให้ต่อการไถ่ถอนกันไปอีก 1 ปี ต่อมาภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนครั้งที่ 2 ผู้ขายฝากไปขอไถ่ถอน ดังนี้ ถือว่าข้อตกลงนั้นเป็นการขยายเวลาไถ่ถอนการขายฝาก ไม่ใช่เป็นเรื่องคำมั่นจะขายทรัพย์ที่ขายฝาก
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อป.พ.พ. มาตรา 496
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อป.พ.พ. มาตรา 496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าเช่าที่ดินหลังทำสัญญาขายฝาก ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิรับค่าเช่าจนกว่าจะมีการไถ่ถอน
ผู้ขายฝากได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินบ้านเรือนไว้แก่ผู้ซื้อ และได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อไว้ด้วย ต่อมาผู้ขายขอไถ่ถอนภายในกำหนดสัญญาขายฝาก ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ ผู้ขายฝากจึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ ในที่สุดศาลบังคับให้ผู้ซื้อรับไถ่การขายฝากหลังจากนั้นต่อมาอีกผู้ขายฝากจึงได้ชำระ(วางเงิน) ค่าไถ่ถอนการขายฝากต่อศาล เช่นนี้ ผู้ขายฝากต้องรับผิดชำระค่าเช่าและค่าเสียหายตั้งแต่วันเริ่มต้นเช่าจนถึงวันที่ชำระ(วางเงิน) ค่าไถ่ถอนการขายฝาก(ไม่ใช่เพียงถึงวันที่ศาลพิพากษาให้รับไถ่ถอนการขายฝาก) เพราะระหว่างที่ยังไม่ได้ว่างเงินค่าไถ่ถอนการขายฝาก ยังต้องถือว่าที่ดินบ้านเรือนที่ขายฝากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากและการเกิดสิทธิในทรัพย์สินเช่า: ค่าเช่าค้างชำระจนกว่าจะวางเงินไถ่ถอน
ผู้ขายฝากได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินบ้านเรือนไว้แก่ผู้ซื้อและได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อไว้ด้วย ต่อมาผู้ขายขอไถ่ถอนภายในกำหนดสัญญาขายฝาก ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ผู้ขายฝากจึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ ในที่สุดศาลบังคับให้ผู้ซื้อรับไถ่การขายฝาก หลังจากนั้นต่อมาอีกผู้ขายฝากจึงได้ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝากต่อศาล เช่นนี้ผู้ขายฝากต้องรับผิดชำระค่าเช่าและค่าเสียหายตั้งแต่วันเริ่มต้นเช่าจนถึงวันที่ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝาก(ไม่ใช่เพียงถึงวันที่ศาลพิพากษาให้รับไถ่ถอนการขายฝาก) เพราะระหว่างที่ยังไม่ได้วางเงินค่าไถ่ถอนการขายฝาก ยังต้องถือว่าที่ดินบ้านเรือนที่ขายฝากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากที่ปรากฏเจตนาลวง: การทำสัญญาโดยมิได้โอนกรรมสิทธิ์และไม่มีการชำระเงิน
แม้ตามหนังสือสัญญาจะกล่าวว่าเป็นสัญญาขายฝากเครื่องสียนต์ก็ตามแต่ระบุว่าเมื่อมาไถ่ต้องคิดดอกเบี้ยให้ ก็เห็นเจตนาว่ามิได้ทำโอนกรรมสิทธิขายฝากกันจริงและผู้ขายฝากก็ไม่เคยครอบครองทรัพย์นั้นเลย ทั้งมิได้จ่ายเงินให้กันจริงด้วยแล้ว พฤติการณ์ เหล่านี้แสดงว่าไม่มีการขายฝากกัน เป็นการกระทำเพื่อแสดงเจตนาลวงเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากที่เป็นโมฆะ: เจตนาลวงและการไม่ได้รับเงินจริง
แม้ตามหนังสือสัญญาจะกล่าวว่าเป็นสัญญาขายฝากเครื่องสียนต์ก็ตามแต่ระบุว่าเมื่อมาไถ่ต้องคิดดอกเบี้ยให้ ก็เห็นเจตนาว่ามิได้ทำโอนกรรมสิทธิขายฝากกันจริงและผู้ขายฝากก็ไม่เคยครอบครองทรัพย์นั้นเลย ทั้งมิได้จ่ายเงินให้กันจริงด้วยแล้ว พฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าไม่มีการขายฝากกันเป็นการกระทำเพื่อแสดงเจตนาลวงเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝากเป็นการจำนอง สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์อื่นที่ไม่ใช่ที่ดิน
โจทก์ขอให้บังคับตามสัญญาฝากขายเรือนและห้องพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าเจตนาแท้นั้นตกลงกันทำจำนองสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางจึงเป็นโมฆะบังคับไม่ได้
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อผากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรามการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม พ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492.
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อผากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรามการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม พ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่เจตนาแท้จริงเป็นการจำนอง ศาลต้องบังคับตามจำนอง
โจทก์ขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าเจตนาแท้นั้นตกลงกันทำจำนองสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางจึงเป็นโมฆะบังคับไม่ได้
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากนอกสถานที่: ใช้ยันระหว่างคู่กรณีได้ แม้ไม่ได้จดทะเบียน
การไถ่ถอนการขายฝากที่ดินมือเปล่าซึ่งได้จดทะเบียนการขายฝากไว้ต่ออำเภอแล้วนั้น แม้จะไม่ได้ไปทำกันที่อำเภอ ก็ใช้ยันระหว่างกันเองได้