พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่การขายฝากและการฟ้องร้องเมื่อเกินกำหนดสัญญา
คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้ แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝากทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มาผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี
ขายฝากทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มาผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของลายมือชื่อในเช็ค หากพิสูจน์ไม่ได้ ธนาคารต้องรับผิดชอบ
ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสพัดของผู้เคยค้าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนการขายฝากโดยคู่กรณีมีผลบังคับใช้ได้
แม้การขายฝากจะได้ไปทำกันที่อำเภอโดยจดทะเบียนกันถูกต้องแล้วการไถ่ถอนโดยทำกันเอง ก็ย่อมเป็นการใช้ได้ในระหว่างคู่กรณี คือมีผลบังคับได้ในระหว่างคู่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝาก: ผลบังคับใช้ระหว่างคู่กรณี แม้ไม่ได้จดทะเบียน
แม้การขายฝากจะได้ไปทำกันที่อำเภอโดยจดทะเบียนกันถูกต้องแล้ว การไถ่ถอนโดยทำกันเอง ก็ย่อมเป็นการใช้ได้ในระหว่างคู่กรณี คือมีผลบังคับได้ในระหว่างคู่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากที่ดินของบุตรโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ผู้รับซื้อฝากอ้างอายุความมิได้ คดีไม่ผูกพันบุตร
บิดาเอาที่ดิน (ไม่มีโฉนด) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้ จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้ และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีก เพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปีฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก (ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว) ขอให้ศาลขับไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์มาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดาเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก (ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว) ขอให้ศาลขับไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์มาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดาเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ สัญญาไม่ผูกพันบุตร และการครอบครองปรปักษ์ที่ต้องเจตนาเป็นเจ้าของ
บิดาเอาที่ดิน ( ไม่มีโฉนด ) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน 10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีกเพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปี ฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละที่ดินจากการไม่ไถ่ถอนขายฝากและการครอบครองในฐานะผู้เช่าทำให้เสียสิทธิในที่ดิน
เจ้าของที่ดินมือเปล่ายอมให้เจ้าของร่วมอีกคนซึ่งเอาที่ดินไปขายฝากแก่+ไว้ทั้งแปลงครบกำหนดถอนตามสัญญาก็ไม่ไถ่ถอน+และเจ้าของร่วมผู้ขายผู้เช่าที่ดินนี้จากเขาทำกินดังนี้ ถือได้ว่าเจ้าของที่ดินคนละที่ดินนั้นแล้ว ที่ยังคงครอบครองที่ดินอยู่ ก็เป็นเรื่องครอบครองในฐานะเป็นผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมขายฝากแล้วไม่ไถ่ถอน ถือสละที่ดิน สิทธิคงเหลือเป็นผู้เช่า
เจ้าของที่ดินมือเปล่ายินยอมให้เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งเอาที่ดินไปขายฝากแก่เขาไว้ทั้งแปลง ครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาก็ไม่ไถ่ถอนทั้งตนและเจ้าของร่วมผู้ขายได้เช่าที่ดินนี้จากเขาทำกินดังนี้ ถือได้ว่าเจ้าของที่ดินสละที่ดินนั้นแล้ว ที่ยังคงครอบครองที่ดินอยู่ ก็เป็นเรื่องครอบครองในฐานะเป็นผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาไถ่ในสัญญาขายฝาก: ข้อความในวงเล็บถือเป็นอายุสัญญาและกำหนดเวลาไถ่
หนังสือสัญญาขายฝากบรรทัดต้นที่หัวเรื่องมีความบันทึกว่า หนังสือสัญญาขายฝากกรรมสิทธิที่ดิน ต่อจากนั้นมีวงเล็บ ในวงเล็บมีบันทึกว่า มีกำหนด 18 เดือน ต่อจากบรรทัดนั้นลงมามีข้อความในเรื่องการขายฝากแต่ไม่มีข้อความกำหนดเวลาไถ่กัน ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อความในวงเล็บที่ว่ามีกำหนด 18 เดือนนั้น คือเป็นอายุของสัญญา นัยหนึ่งก็คือกำหนดเวลาไถ่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาไถ่ในสัญญาขายฝาก: ข้อความในวงเล็บเป็นอายุสัญญา
หนังสือสัญญาขายฝากบรรทัดต้นที่หัวเรื่องมีความบันทึกว่า หนังสือสัญญาขายฝากกรรมสิทธิ์ที่ดิน ต่อจากนั้นมีวงเล็บในวงเล็บมีบันทึกว่ามีกำหนด 18 เดือน ต่อจากบรรทัดนั้นลงมามีข้อความในเรื่องการขายฝากแต่ไม่มีข้อความกำหนดเวลาไถ่กัน ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อความในวงเล็บที่ว่ามีกำหนด18 เดือนนั้น คือเป็นอายุของสัญญา นัยหนึ่งก็คือกำหนดเวลาไถ่