คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 491

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่แท้จริงไม่ใช่ขายฝาก สัญญาขายฝากที่ไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า ขายฝากที่ดินไว้ แต่ได้ทำสัญญาเป็นซื้อขายกรรมสิทธิ์ต่อกัน โดยไม่มีเจตนาจะผูกพัน หากสัญญาขายฝากที่อ้างไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เพราะการขายฝากที่อ้างนั้นเป็นโมฆะ (อ้างฎีกาที่ 352/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ถือเป็นขายฝาก ต้องบังคับตามกฎหมายจำนอง
ภายหลังใช้ ป.พ.พ. บรรพ 3 การจำนองที่ดินและมอบที่นาให้ผู้รับจำนองทำกินต่างดอกเบี้ย จะแปรรูปเป็นการขายฝากไม่ได้ ต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการจำนอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ไม่ถือเป็นการขายฝาก ต้องบังคับตามกฎหมายจำนอง
ภายหลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 การจำนองที่ดินและมอบที่นาให้ผู้รับจำนองทำกินต่างดอกเบี้ย จะแปรรูปเป็นการขายฝากไปไม่ได้ ต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการจำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนอง vs. ขายฝาก: การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมเป็นจำนองใหม่ ไม่ถือเป็นการขายฝาก
โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่นาไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ต้องการเงิน ได้ตกลงจะขายที่นาให้แก่จำเลย แต่การขายต้องรังวัดและประกาศโฆษณา โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรม์สัญญา เป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้และเลิกข้อความตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จำนำสืบถึงการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการทำให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนอง vs. ขายฝาก: การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงจากซื้อขายเป็นจำนองมีผลอย่างไร
โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่นาไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ต้องการเงิน ได้ตกลงจะขายที่นาให้แก่จำเลย แต่การขายต้องรังวัดและประกาศโฆษณา โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรมสัญญา เป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้และเลิกข้อความตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จะนำสืบถึงการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์คดีที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์การกู้เงินและเงื่อนไขก่อนอ้างกรรมสิทธิ์
ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่าและอยู่ในความครอบครองของฝ่ายจำเลย ซึ่งอ้างว่าได้มาโดยการสละกรรมสิทธิต่อเนื่องจากที่ได้รับซื้อฝากไว้เมื่อโจทก์อ้างว่าได้กู้เงินจำเลยไป และให้ที่ไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยไม่ใช่การซื้อฝาก ดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีครอบครองปรปักษ์ - การซื้อฝาก vs. กู้เงิน
ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่าและอยู่ในความครอบครองของฝ่ายจำเลย ซึ่งอ้างว่าได้มาโดยการสละกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากที่ได้รับซื้อฝากไว้ เมื่อโจทก์อ้างว่าได้กู้เงินจำเลยไปและให้ที่ไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยไม่ใช่การซื้อฝาก ดังนี้เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากที่มีข้อความให้เช่าที่ดินได้ ถือเป็นสัญญาเช่าได้ หากมีเจตนาและพฤติการณ์สนับสนุน แม้ข้อความในสัญญาจะดูเป็นเพียงคำเสนอ
ในสัญญาขายฝากข้อ 4 มีว่าผู้ซื้อฝากยอมให้ผู้ขายฝากเช่าทรัพย์ที่ขายฝากและระบุค่าเช่าไว้ด้วยและภายหลังก็มีการเช่าต่อกันดังนี้ ถือว่าข้อความเช่นนั้นเป็นสัญญาเช่า มิใช่เป็นเพียงคำเสนอ
ผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่าเป็นข้าวเปลือกให้แก่ผู้ให้เช่า และต้องคิดราคาในขณะที่ผู้ให้เช่าฟ้องผู้เช่า (อ้างฎีกาที่ 143/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากที่มีข้อตกลงให้เช่าที่ดิน ถือเป็นสัญญาเช่าได้หากมีเจตนาและพฤติการณ์สนับสนุน
ในสัญญาขายฝากข้อ 4 มีว่าผู้ซื้อฝากยอมให้ผู้ขายฝากเช่าทรัพย์ที่ขายฝากและระบุค่าเช่าไว้ด้วยและภายหลังก็มีการเช่าต่อกันดังนี้ถือว่า ข้อความเช่นนั้นเป็นสัญญาเช่า มิใช่เป็นเพียงคำเสนอ.
ผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่าเป็นข้าวเปลือกให้แก่ผู้ให้เช่า และต้องคิดราคาในขณะที่ผู้ให้เช่าฟ้องผู้เช่า.
(อ้างฎีกาที่ 143/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์จากนิติกรรมขายฝากไม่สมบูรณ์: เจตนาคู่กรณีและการแสดงสิทธิของเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์ ได้เอามาขายฝากโดยทำสัญญากันเองไว้แก่บิดามารดาจำเลย บิดามารดาจำเลยตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเกิน 10 ปีแล้ว และเมื่อบิดามารดาโจทก์ตายโจทก์ก็มิได้จัดการจดทะเบียนรับมรดกปล่อยให้ฝ่ายจำเลยครอบครองมาเกิน 10 ปี จนจำเลยได้มาร้องต่อศาลให้แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของจำเลย ศาลก็ได้สั่งแสดงกรรมสิทธิ์ไปแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้นิติกรรมการขายฝากไม่สมบูรณ์ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่า บิดามารดาโจทก์มอบที่ดินให้บิดามารดาจำเลยดังเช่นขาย แต่สงวนไว้เพียงสิทธิไถ่ถอน ฉะนั้นจะเรียกว่าบิดามารดาจำเลยยึดถือที่ดินไว้ในฐานผู้แทนผู้ครอบครองตามมาตรา1381 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยังไม่ได้ กรณีเช่นนี้เรียกได้ว่าบิดามารดาจำเลยเข้าครอบครองเพื่อตนโดยอาศัยการอนุญาตของเจ้าของ จึงมีปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาว่าฝ่ายจำเลยได้ครอบครองมาโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาจนเกิน 10 ปีหรือไม่ การที่จะแสวงหาความจริงข้อนี้ ต้องพิเคราะห์กิริยาอาการของฝ่ายโจทก์ผู้มอบที่ดินให้นั้นด้วยเพราะถ้าเจ้าของเดิมไม่แสดงอาการเป็นเจ้าของเกี่ยวข้องกับที่นั้นเลย สละละทิ้งไปจนเกินเวลาอันสมควรแล้ว ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมให้ฝ่ายครอบครองทำการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเพื่อผู้ครอบครองนั้นเองตั้งแต่ต้นมาทั้งนี้ได้เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าทำสัญญากันเองเป็นทำนองขายฝากนั้นเจ้าของเดิมจะมาฟ้องเอาที่คืนโดยอ้างข้อสัญญาที่ให้ไถ่นั้นหาได้ไม่ (ฎีกาที่ 5/2465,352/2492) สำหรับคดีนี้โจทก์จะชนะคดีได้ก็ด้วยการแสดงว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าตามข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น แต่คดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์ยังคงแสดงสิทธิเป็นเจ้าของอยู่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเสียนั้นยังไม่สมควรจึงต้องพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินต่อไป
of 38