พบผลลัพธ์ทั้งหมด 268 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าทดแทนจากชู้ แม้ไม่ได้ฟ้องหย่า: การล่วงเกินในทำนองชู้สาวครอบคลุมการทำชู้
สามีฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้โดยไม่ได้ฟ้องขอหย่าภรรยากรณีไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505วรรคแรกแต่สามีมีสิทธิตามวรรคสองของมาตราเดียวกันนี้ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าทดแทนจากชายชู้ แม้ไม่ได้ฟ้องหย่า: การล่วงเกินในทำนองชู้สาวครอบคลุมการทำชู้
สามีฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้โดยไม่ได้ฟ้องขอหย่าภรรยากรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1505 วรรคแรก แต่สามีมีสิทธิตามวรรคสองของมาตราเดียวกันนี้ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2639/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขไม่ตกลงกัน และผู้เสนอขายเพิ่มราคา
โจทก์เสนอขายและติดตั้งเครื่องปรับอากาศแก่จำเลยจำเลยมีหนังสือถึงโจทก์แสดงความประสงค์จะทำสัญญากับโจทก์แต่โจทก์จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยโจทก์จะต้องยื่นแบบรูปเครื่องปรับอากาศและการติดตั้งพร้อมด้วยร่างสัญญาเพื่อให้จำเลยพิจารณาเห็นชอบเสียก่อน ถ้าโจทก์ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้จึงให้โจทก์ส่งคำสั่งไปยังตัวการผู้ขายเครื่องปรับอากาศ คำสนองของจำเลยดังกล่าว เป็นคำสนองอันมีข้อจำกัด ถือว่าเป็นคำบอกปัดไม่รับทั้งเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ด้วยในตัว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 359 วรรคสอง แต่โจทก์มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของจำเลยแม้จำเลยเพียงฝ่ายเดียวได้แสดงไว้ว่า เงื่อนไขในสัญญาเป็นสารสำคัญอันจะต้องตกลงกันหมดทุกข้อ เมื่อโจทก์จำเลยยังไม่ตกลงกันหมดทุกข้อ จึงถือว่าโจทก์จำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366
โจทก์ส่งแบบแปลนให้จำเลยเพื่อเพิ่มเติมคำเสนอของโจทก์ให้สมบูรณ์ เพื่อจำเลยจะได้พิจารณาสนองรับหรือไม่ แต่โจทก์กลับเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นจากที่จำเลยกำหนด และไม่ยอมลดให้จำเลยย่อมมีสิทธิไม่ซื้อ หรือไม่สนองรับได้
โจทก์ส่งแบบแปลนให้จำเลยเพื่อเพิ่มเติมคำเสนอของโจทก์ให้สมบูรณ์ เพื่อจำเลยจะได้พิจารณาสนองรับหรือไม่ แต่โจทก์กลับเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นจากที่จำเลยกำหนด และไม่ยอมลดให้จำเลยย่อมมีสิทธิไม่ซื้อ หรือไม่สนองรับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2639/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเครื่องปรับอากาศไม่สมบูรณ์ - เงื่อนไขสารสำคัญ - การเสนอราคาใหม่
โจทก์เสนอขายและติดตั้งเครื่องปรับอากาศแก่จำเลย จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์แสดงความประสงค์จะทำสัญญากับโจทก์ แต่โจทก์จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยโจทก์จะต้องยื่นแบบรูปเครื่องปรับอากาศและการติดตั้งพร้อมด้วยร่างสัญญาเพื่อให้จำเลยพิจารณาเห็นชอบเสียก่อน ถ้าโจทก์ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ จึงให้โจทก์ส่งคำสั่งไปยังตัวการผู้ขายเครื่องปรับอากาศ คำสนองของจำเลยดังกล่าวเป็นคำสนองอันมีข้อจำกัด ถือว่าเป็นคำบอกปัดไม่รับทั้งเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ด้วยในตัว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 359 วรรคสอง แต่โจทก์มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของจำเลย แม้จำเลยเพียงฝ่ายเดียวได้แสดงไว้ว่า เงื่อนไขในสัญญาเป็นสารสำคัญอันจะต้องตกลงกันหมดทุกข้อ เมื่อโจทก์จำเลยยังไม่ตกลงกันหมดทุกข้อ จึงถือว่าโจทก์จำเลยยังมิได้มีสัญญาต่อกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366
โจทก์ส่งแบบแปลนให้จำเลยเพื่อเพิ่มเติมคำเสนอของโจทก์ให้สมบูรณ์ เพื่อจำเลยจะได้พิจารณาสนองรับหรือไม่ แต่โจทก์กลับเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นจากที่จำเลยกำหนด และไม่ยอมลดให้จำเลยย่อมมีสิทธิไม่ซื้อ หรือไม่สนองรับได้
โจทก์ส่งแบบแปลนให้จำเลยเพื่อเพิ่มเติมคำเสนอของโจทก์ให้สมบูรณ์ เพื่อจำเลยจะได้พิจารณาสนองรับหรือไม่ แต่โจทก์กลับเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นจากที่จำเลยกำหนด และไม่ยอมลดให้จำเลยย่อมมีสิทธิไม่ซื้อ หรือไม่สนองรับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2509/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์เครื่องยนต์เช่าซื้อ: การโอนสิทธิโดยผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ และผลกระทบต่อผู้รับซื้อฝาก
โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดเครื่องเรือยนต์ซึ่งประกอบติดตั้งไว้สำหรับเรือยนต์ประมงอวนลากซึ่งมีระวางเกินกว่า 5 ตันผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์เครื่องเรือยนต์ดังกล่าว ในฐานะเป็นผู้รับซื้อฝากเรือยนต์ไว้จากภริยาจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ได้ให้จำเลยเช่าซื้อเครื่องยนต์ดังกล่าวและยังมิได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน กรรมสิทธิ์จึงยังไม่โอนไปยังจำเลยและกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1332 ผู้ร้องจึงย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในเครื่องเรือยนต์ซึ่งตนจะมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2509/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์เครื่องยนต์เช่าซื้อ - การโอนสิทธิโดยผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ - สิทธิของผู้รับซื้อฝาก
โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดเครื่องเรือยนต์ซึ่งประกอบติดตั้งไว้สำหรับเรือยนต์ประมงอวนลากซึ่งมีระวางเกินกว่า 5 ตัน ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์เครื่องเรือยนต์ดังกล่าวในฐานะเป็นผู้รับซื้อฝากเรือยนต์ไว้จากภริยาจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ได้ให้จำเลยเช่าซื้อเครื่องยนต์ดังกล่าวและยังมิได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน กรรมสิทธิ์จึงยังไม่โอนไปยังจำเลยและกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1332 ผู้ร้องจึงย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในเครื่องเรือยนต์ซึ่ง ตนจะมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่เกินสมควรแก่เหตุ: กรณีจำเลยถูกกลุ่มบุคคลรายล้อมทำร้ายและใช้ปืนยิงตอบโต้
ผู้ตายกับพวกซึ่งมีจำนวนมากคน ได้รายล้อมเข้าไปโดยอาการที่เห็นได้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยมีแต่ตัวคนเดียวและเป็นเวลากลางคืน จำเลยยิงปืนขึ้นสองนัดนัดแรกเป็นการยิงขู่ แต่ผู้ตายกับพวกก็มิได้หยุดยั้งคงรายล้อมเข้าไปในลักษณะอาการที่จะกลุ้มรุมทำร้ายจำเลยอีก จำเลยใช้ปืนยิงไปนัดที่สองถูกนายเล็กและผู้ตาย ย่อมถือได้ว่าจำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึงการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกัน
แม้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย แต่พวกผู้ตายไม่มีปืน การที่จำเลยใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
แม้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย แต่พวกผู้ตายไม่มีปืน การที่จำเลยใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: กรณีตำรวจยิงเพื่อป้องกันตัวจากกลุ่มผู้ทำร้ายร่างกาย
ผู้ตายกับพวกซึ่งมีจำนวนมากคน ได้รายล้อมเข้าไปโดยอาการที่เห็นได้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยมีแต่ตัวคนเดียวและเป็นเวลากลางคืน จำเลยยิงปืนขึ้น สองนัดนัดแรกเป็นการยิงขู่ แต่ผู้ตายกับพวกก็มิได้หยุดยั้ง คงรายล้อมเข้าไปในลักษณะอาการที่จะกลุ้มรุมทำร้ายจำเลยอีก จำเลยใช้ปืนยิงไปนัดที่สองถูกนายเล็กและผู้ตาย ย่อมถือได้ว่าจำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึงการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกัน
แม้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย แต่พวกผู้ตายไม่มีปืน การที่จำเลยใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
แม้ว่าผู้ตายกับพวกจะเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย แต่พวกผู้ตายไม่มีปืน การที่จำเลยใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของนำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากรแต่ไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ หากตกแก่บุคคลภายนอก ถือหลีกเลี่ยงอากร
ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรในนามของทางการทหารสหรัฐอเมริกา แม้จะได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียอากรตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าปรากฏว่าเมื่อนำเข้ามาแล้ว มิได้นำไปใช้ในทางการทหารของสหรัฐอเมริกา หากแต่ไปตกอยู่แก่บุคคลภายนอก ของนั้นย่อม ไม่ได้รับยกเว้น ไม่ ต้องเสียอากร เมื่อของมาตกอยู่ในครอบครองของจำเลย โดยยังมิได้มีการเสียอากร ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของนำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากร แต่ไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์เดิม และตกอยู่กับบุคคลภายนอก ถือเป็นการหลีกเลี่ยงอากร
ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรในนามของทางการทหารสหรัฐอเมริกา แม้จะได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียอากรตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแต่ถ้าปรากฏว่าเมื่อนำเข้ามาแล้ว มิได้นำไปใช้ในทางการทหารของสหรัฐอเมริกา หากแต่ไปตกอยู่แก่บุคคลภายนอกของนั้นย่อม ไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรเมื่อของมาตกอยู่ในครอบครองของจำเลย โดยยังมิได้มีการเสียอากร ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร