คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
แผ้ว ศิวะบวร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 396 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การกระทำโดยบันดาลโทสะแม้ผู้เสียหายไม่ได้ร่วมวิวาทโดยตรง แต่สนับสนุนฝ่ายตรงข้าม
แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ร่วมกับพี่สาวด่าว่าและแสดงกิริยาหยาบคายต่อจำเลย แต่ผู้เสียหายก็มาพัวพันอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุเสมือนเป็นกำลังสนับสนุนในฐานะเป็นพวกของฝ่ายพี่สาวเพื่อให้ฮึกเหิมยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อจำเลยบันดาลโทสะคว้ามีดไล่ฟันพี่สาวผู้เสียหายและฟันผู้เสียหายจึงถือได้ว่าจำเลยกระทำต่อผู้เสียหายโดยบันดาลโทสะด้วย
เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนกันมาให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยซึ่งแต่ละกระทงความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การพัวพันในเหตุการณ์แม้ไม่ได้ร่วมทะเลาะวิวาท ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะได้
แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ร่วมกับพี่สาวด่าว่าและแสดงกิริยาหยาบคายต่อจำเลย แต่ผู้เสียหายก็มาพัวพันอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุเสมือนเป็นกำลังสนับสนุนในฐานะเป็นพวกของฝ่ายพี่สาวเพื่อให้ฮึกเหิมยิ่งขึ้น ดังนั้น เมื่อจำเลยบันดาลโทสะคว้ามีดไล่ฟันพี่สาวผู้เสียหายและฟันผู้เสียหาย จึงถือได้ว่าจำเลยกระทำต่อผู้เสียหายโดยบันดาลโทสะด้วย
เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนกันมาให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยซึ่งแต่ละกระทงความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1650/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ: การปลอมบัตรอนุญาตขึ้นเขาศูนย์และการประทับตราต่ออายุปลอม
บัตรอนุญาตของเจ้าหน้าที่ให้ขึ้นเขาศูนย์ได้ ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามตามประกาศของผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ
ขายบัตรอนุญาตการขึ้นเขาศูนย์ซึ่งปลอมการต่ออายุโดยประทับตรายางและลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ปลอม เป็นการปลอมเอกสารราชการแก่ผู้ที่มาซื้อหลายคนในคราวเดียวกัน เป็นความผิดกรรมเดียว การมอบหลายคราวเป็นต่างกระทงเป็นแต่ละคราว การประทับตราและลงลายมือชื่อปลอมลงในบัตร 6 ฉบับในวันเดียวต่อเนื่องกันไป เป็นต่างกระทงกัน 6 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ค้ำประกันรับผิดร่วมกับลูกหนี้: ฟ้องก่อนหลังก็ได้ การชำระหนี้ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ผู้ค้ำประกันลูกหนี้ซึ่งทำหนังสือรับสภาพหนี้โดยรับผิดร่วมกับลูกหนี้นั้นอาจถูกฟ้องก่อนหรือหลังลูกหนี้ก็ได้ การชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้นั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีใบรับเป็นหนังสือ จึงนำสืบพยานบุคคลแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างส้วมใกล้เขตที่ดิน: ห้ามตามกฎหมาย แม้จะถูกสุขลักษณะ
ถังส้วมที่ใช้เป็นที่เก็บอุจจาระก็มีสภาพและลักษณะเช่นเดียวกับหลุมรับน้ำโสโครกนั่นเอง จึงรวมอยู่ในความหมายของคำว่า หลุมรับน้ำโสโครกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 ด้วย
เจ้าของที่ดินหรือเจ้าของอาคารไม่มีสิทธิจะสร้างหลุมส้วมใกล้แนวเขตที่ดินข้างเคียงภายในระยะสองเมตร ไม่ว่าจะสร้างให้แข็งแรงถูกสุขลักษณะอย่างไรก็ตาม เพราะเป็นการต้องห้ามโดยเด็ดขาดตามมาตรา 1342 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1598/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามี แม้ภริยาอยู่ต่างประเทศและมีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย
สามีภริยาที่ยังมิได้หย่าขาดจากกันแต่แยกกันอยู่โดยฝ่ายสามีแสดงเจตนาไม่ต้องการให้ภริยาอยู่ร่วมด้วย และฝ่ายภริยามีรายได้ไม่พอจ่ายเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด กับไม่ปรากฏว่ามีทรัพย์สินอื่นพอเป็นรายได้เลี้ยงดูตนเอง เช่นนี้ภริยาย่อมมีสิทธิรับการช่วยเหลือเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1594 และมีสิทธิฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามีได้ เพราะสามีอยู่ในฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1453

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดะโต๊ะยุติธรรมในการวินิจฉัยข้อกฎหมายอิสลาม และการฟ้องอาญามาตรา 157
จำเลยดำรงตำแหน่งเป็นดะโต๊ะยุติธรรมประจำศาลจังหวัดปัตตานีได้วินิจฉัยชี้ขาดและลงลายมือชื่อในคำพิพากษาที่วินิจฉัยข้อกฎหมายอิสลามเรื่องมรดกของศาลดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามฯ จำเลยจึงมีฐานะเป็นผู้พิพากษา มีอำนาจหน้าที่ที่จะนั่งพิจารณาร่วมกับผู้พิพากษาศาลชั้นต้น และวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายนั้นได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นดะโต๊ะยุติธรรม ได้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามในเรื่องสละมรดกของโจทก์ที่ 1 แตกต่างไปจากคำแปลหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวมรดกมาตรา 194 วรรค 1 ซึ่งทางราชการกระทรวงยุติธรรมได้จัดทำขึ้น หากจำเลยวินิจฉัยชี้ขาดตามคำแปลดังกล่าว มรดกที่โจทก์ที่ 1 สละ ย่อมตกได้แก่โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทของโจทก์ที่ 1 การกระทำของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติ ทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วยข้อวินิจฉัยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แม้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านคำวินิจฉัยนั้นไม่ได้ ก็เป็นเรื่องกฎหมายวิธีสบัญญัติ เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอย่างไรเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟ้องของโจทก์จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการละเมิด: การคำนวณค่าเสียหายต่อทรัพย์สินและขอบเขตค่าชดเชย
ค่าเสียหายเพราะละเมิดทำให้บุตรของโจทก์ตาย ต้องบังคับตามมาตรา 443 ไม่มีบัญญัติให้เรียกค่าชอกช้ำระกำใจด้วย
ค่าเสียหายแก่รถยนต์ที่ถูกชนเกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดคิดราคาในกรณีนี้ตั้งแต่เวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการประมาณราคา คือเวลาทำละเมิด กับดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนั้น ไม่ใช่ราคารถในปัจจุบัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์ที่เจ้าของเดิมทำสัญญาเช่าซื้อไว้แล้ว โจทก์ซื้อโดยสุจริต ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
รถยนต์ของจำเลยให้ พ.เช่าซื้อ.พ มอบรถแก่ ม. ร้านบริการรถยนต์ตั้งแสดงเพื่อขายโดยคนของจำเลยแนะนำ ม.ให้โจทก์เช่าซื้อรถ โจทก์ซื้อโดยสุจริตจากพ่อค้าตามมาตรา 1332 ศาลบังคับให้จำเลยโอนทะเบียนรถแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก แม้มีพินัยกรรม และผลของการประนีประนอมยอมความต่อการเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ชี้แนวทางให้ศาลปฏิบัติในการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก หาใช่เป็นบทบังคับให้ศาลจำต้องตั้งผู้จัดการมรดกตามที่ระบุในพินัยกรรมไม่ แม้ผู้ร้องจะร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายโดยอ้างว่ามีพินัยกรรมระบุไว้ก็ตาม แต่เมื่อผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องคัดค้าน และขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก จึงเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่าผู้ใดในระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้าน และขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อศาลได้ดำเนินการพิจารณาอย่างคดีมีข้อพิพาท เป็นการเปิดโอกาสให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านก่อนได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการสืบพยานไปบ้าง แต่ยังไม่หมดปาก และแต่ละฝ่ายต่างอ้างสำนวนคดีอื่นที่คู่ความในคดีนั้นได้ประนีประนอมยอมความกันในเรื่องทรัพย์มรดกผู้ตาย พร้อมพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเป็นพยาน เมื่อได้มีการเปิดโอกาสให้คู่ความคัดค้านก่อนได้แล้ว การที่ศาลพิพากษาตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกก็เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
of 40