พบผลลัพธ์ทั้งหมด 263 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความระหว่างโจทก์ร่วมและจำเลยในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว ทำให้สิทธิในการฟ้องระงับ
คดีความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ทนายโจทก์ร่วมซึ่งมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาไปในทางจำหน่ายสิทธิของโจทก์ร่วมได้ เช่นการถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิยื่นคำร้องว่า จำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ร่วมเรียบร้อยแล้วโจทก์ร่วมไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยต่อไปขอถอนคำฟ้องของโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นสอบคู่ความแล้ว โจทก์จำเลยไม่ค้าน ดังนี้พฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าโจทก์ร่วมและจำเลยได้ยอมความกันแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1755/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเช็คและการเป็นผู้เสียหาย: เมื่อมอบเช็คให้ตัวแทน สิทธิและความเสียหายย่อมตกแก่ผู้รับมอบ
โจทก์ออกเช็คชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์แก่ ว. โดยมอบเช็คนั้นให้แก่ ฮ.ตัวแทนของว.สิทธิในเช็คย่อมตกแก่ว. แล้วตั้งแต่เวลาที่โจทก์มอบเช็คให้แก่ ฮ. โจทก์หามีสิทธิในเช็คดังกล่าวอีกต่อไปไม่ การที่ ฮ. ทำเช็คตกหาย และมีผู้เก็บได้แล้วเบียดบังเป็นของตนโดยทุจริต โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นยอมความในคดีอาญา สิทธิฟ้องระงับเมื่อชำระหนี้ครบถ้วน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยินยอมชำระเงินให้โจทก์จำนวนหนึ่งภายใน 6 เดือน โดยจำเลยจะผ่อนชำระเป็นรายเดือน หากจำเลยผิดนัดงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด ยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้และให้คิดดอกเบี้ยในเงินที่ค้างชำระนับแต่วันผิดนัด เมื่อจำเลยชำระเงินครบถ้วนแล้วโจทก์จะถอนฟ้องจำเลยในคดีอาญาในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ ดังนี้ แม้จำเลยจะผิดนัดชำระเงิน 2 งวดไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้บังคับคดีหรือคิดดอกเบี้ยจากจำเลยถือได้ว่าโจทก์จำเลยต่างมีเจตนาระงับข้อผูกพันเดิมโดยไม่ถือว่าการไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเป็นการผิดสัญญา และไม่ติดใจเรื่องดอกเบี้ยกันแล้ว เมื่อจำเลยชำระหนี้งวดสุดท้ายให้โจทก์โจทก์จะไม่รับโดยเกี่ยงจะคิดดอกเบี้ยด้วยหาได้ไม่ การที่จำเลยนำเงินนั้นไปวางที่กรมบังคับคดีภายในกำหนดตามสัญญาจึงเป็นการชำระหนี้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ต้องถอนฟ้องคดีอาญาให้จำเลย และมีผลเป็นการยอมความในคดีอาญาสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นยอมความในคดีอาญา สิทธิฟ้องย่อมระงับเมื่อเงื่อนไขครบถ้วน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยินยอมชำระเงินให้โจทก์จำนวนหนึ่งภายใน 6 เดือน โดยจำเลยจะผ่อนชำระเป็นรายเดือน หากจำเลยผิดนัดงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด ยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้และให้คิดดอกเบี้ยในเงินที่ค้างชำระนับแต่วันผิดนัด เมื่อจำเลยชำระเงินครบถ้วนแล้วโจทก์จะถอนฟ้องจำเลยในคดีอาญาในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ ดังนี้ แม้จำเลยจะผิดนัดชำระเงิน 2 งวดไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้บังคับคดีหรือคิดดอกเบี้ยจากจำเลยถือได้ว่าโจทก์จำเลยต่างมีเจตนาระงับข้อผูกพันเดิมโดยไม่ถือว่าการไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเป็นการผิดสัญญา และไม่ติดใจเรื่องดอกเบี้ยกันแล้ว เมื่อจำเลยชำระหนี้งวดสุดท้ายให้โจทก์โจทก์จะไม่รับโดยเกี่ยงจะคิดดอกเบี้ยด้วยหาได้ไม่ การที่จำเลยนำเงินนั้นไปวางที่กรมบังคับคดีภายในกำหนดตามสัญญาจึงเป็นการชำระหนี้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ต้องถอนฟ้องคดีอาญาให้จำเลย และมีผลเป็นการยอมความในคดีอาญาสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3979/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความไม่ถือเป็นการร้องทุกข์ หากยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวน ทำให้คดีขาดอายุความ
ผู้แทนโจทก์แจ้งต่อพนักงานตำรวจว่า 'จึงให้ผู้แจ้งมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทนิติสิทธิ์ จำกัด โดยนายวรนิติ ส่งสวัสดิ์ และนายสิทธิพงษ์ สุขะวิมลาภทั้งทางนิติบุคคลและส่วนตัว ข้อหาออกเช็คโดยมีเจตนามิให้มีการใช้เงินตามเช็คจนคดีถึงที่สุด แต่ผู้แจ้งขอรับเช็คดังกล่าวไปดำเนินการอีกทางหนึ่งก่อน ยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใด' คำของผู้แทนโจทก์ที่ว่ายังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใดนั้น ไม่ต้องกับลักษณะการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (7) คำแจ้งความดังกล่าวจึงไม่เป็นการร้องทุกข์
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด โดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด โดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3979/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความไม่ถือเป็นการร้องทุกข์หากยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวน คดีขาดอายุความตาม ป.อ.มาตรา 96
ผู้แทนโจทก์แจ้งต่อพนักงานตำรวจว่า 'จึงให้ผู้แจ้งมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทนิติสิทธิ์ จำกัด โดยนายวรนิติส่งสวัสดิ์และนายสิทธิพงษ์สุขะวิมลาภทั้งทางนิติบุคคลและส่วนตัว ข้อหาออกเช็คโดยมีเจตนามิให้มีการใช้เงินตามเช็คจนคดีถึงที่สุด แต่ผู้แจ้งขอรับเช็คดังกล่าวไปดำเนินการอีกทางหนึ่งก่อน ยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใด' คำของผู้แทนโจทก์ที่ว่ายังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใดนั้น ไม่ต้องกับลักษณะการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7)คำแจ้งความดังกล่าวจึงไม่เป็นการร้องทุกข์
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด โดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด โดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด โดยไม่ต้องเลื่อนคดีหรือออกหมายจับ
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วมิให้มีการประวิงคดีจึงได้กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2530).
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2530).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด แม้จำเลยไม่มาด้วย
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดีจึงได้ กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2530).
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2530).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการร้องทุกข์สำคัญกว่าการฟ้องเอง การแจ้งความต้องประสงค์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
การร้องทุกข์ที่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องเป็นการแจ้งความในลักษณะของการกล่าวหาโดยมีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี เมื่อบันทึกการแจ้งความมีข้อความแสดงชัดว่าในขณะที่แจ้งโจทก์ไม่มีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลย ซึ่งถือว่าไม่เป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมาย การที่โจทก์มาฟ้องคดีเองในภายหลัง ก็หามีผลให้คำร้องทุกข์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวกลับกลายเป็นชอบด้วยกฎหมายขึ้นมาไม่ โจทก์แจ้งความว่า จึงมอบอำนาจให้ผู้แจ้งมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อประสงค์ให้จำเลยได้รับโทษตามกฎหมายและโจทก์ประสงค์ขอรับเช็คของกลางคืนไปเพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับจำเลยและผู้เกี่ยวข้องในทางศาลเองต่อไป โดยไม่ขอมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแต่อย่างใด ดังนี้แม้แจ้งความดังกล่าวมีข้อความว่า มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อประสงค์ให้จำเลยรับโทษตามกฎหมาย แต่ก็มีข้อความต่อไปว่าโจทก์ขอรับเช็คคืนเพื่อดำเนินการฟ้องร้องเองจึงเห็นเจตนาของโจทก์ได้ว่าไม่ประสงค์ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลย แจ้งความดังกล่าวจึงไม่ใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแจ้งความร้องทุกข์ต้องมุ่งหวังให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี แม้ฟ้องเองภายหลังก็ไม่ทำให้การแจ้งความไม่ชอบด้วยกฎหมายกลับเป็นชอบ
การร้องทุกข์ที่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องเป็นการแจ้งความในลักษณะของการกล่าวหาโดยมีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี เมื่อบันทึกการแจ้งความมีข้อความแสดงชัดว่าในขณะที่แจ้งโจทก์ไม่มีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลย ซึ่งถือว่าไม่เป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมาย การที่โจทก์มาฟ้องคดีเองในภายหลัง ก็หามีผลให้คำร้องทุกข์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวกลับกลายเป็นชอบด้วยกฎหมายขึ้นมาไม่ โจทก์แจ้งความว่า จึงมอบอำนาจให้ผู้แจ้งมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อประสงค์ให้จำเลยได้รับโทษตามกฎหมายและโจทก์ประสงค์ขอรับเช็คของกลางคืนไปเพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับจำเลยและผู้เกี่ยวข้องในทางศาลเองต่อไป โดยไม่ขอมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแต่อย่างใด ดังนี้แม้แจ้งความดังกล่าวมีข้อความว่า มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อประสงค์ให้จำเลยรับโทษตามกฎหมาย แต่ก็มีข้อความต่อไปว่าโจทก์ขอรับเช็คคืนเพื่อดำเนินการฟ้องร้องเองจึงเห็นเจตนาของโจทก์ได้ว่าไม่ประสงค์ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลย แจ้งความดังกล่าวจึงไม่ใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(7)