พบผลลัพธ์ทั้งหมด 263 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการประนีประนอมยอมความในคดีเช็ค: การระงับหนี้และผลกระทบต่อคดีอาญา
หลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ โจทก์ร่วมได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระบุว่าจำเลยทั้งสองกับพวก เป็นหนี้โจทก์ร่วมทั้งหมดเป็นเงิน 6,500,000 บาท และโจทก์ร่วมลดหนี้ให้เหลือเป็นจำนวนเงิน 4,600,000 บาทเช็คฉบับพิพาทเป็นเช็คที่อยู่ในจำนวนหนี้ 6,500,000 บาท หนี้ตามเช็คพิพาทจึงระงับไปแล้วตามสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 4 ระบุว่า คู่สัญญาคือโจทก์และจำเลยทั้งสองจะถอนฟ้องซึ่งกันและกันซึ่งหมายถึงถอนฟ้องจำเลยในคดีนี้ด้วย ถือได้ว่าเป็นการยอมความในคดีอาญาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความต่อคดีอาญาเช็ค และการถอนฟ้องซึ่งกันและกัน
หลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ โจทก์ร่วมได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระบุว่าจำเลยทั้งสองกับพวก เป็นหนี้โจทก์ร่วมทั้งหมดเป็นเงิน 6,500,000 บาท และโจทก์ร่วมลดหนี้ให้เหลือเป็นจำนวนเงิน 4,600,000 บาทเช็คฉบับพิพาทเป็นเช็คที่อยู่ในจำนวนหนี้ 6,500,000 บาท หนี้ตามเช็คพิพาทจึงระงับไปแล้วตามสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 4 ระบุว่า คู่สัญญาคือโจทก์และจำเลยทั้งสองจะถอนฟ้องซึ่งกันและกันซึ่งหมายถึงถอนฟ้องจำเลยในคดีนี้ด้วย ถือได้ว่าเป็นการยอมความในคดีอาญาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4736/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ศาลอนุญาตได้ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็คฯ จำเลยฎีกา ระหว่างการพิจารณา ของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้าน เมื่อเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวโจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดี ถึงที่สุดก็ได้ ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญา มาฟ้องจึงเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4447/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา กรณีจำเลยร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ชอบแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมกันออกเช็ค โดยจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย จำเลยที่ 2 เป็นผู้กรอกรายการในเช็คชำระหนี้ ให้ อ.แล้วอ. นำมาชำระหนี้ให้โจทก์ ทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ดังนี้ เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ต้องรับฟังไว้ดำเนินการต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ แม้สัญญาถูกบอกเลิก ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็คยังคงสำเร็จ
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อในขณะที่ออกเช็คและในขณะที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยยังคงมีหน้าที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ตามสัญญาจึงเป็นเช็คที่ออกโดยมีมูลหนี้ที่มีผลผูกพันกันตามกฎหมายแม้ต่อมาโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้ออันจะมีผลทำให้จำเลยไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างให้แก่โจทก์อีกต่อไปก็หาทำให้ความผิดอาญาที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้วระงับไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คเพื่อนำไปใช้โดยที่ไม่มีเงินในบัญชี แม้ไม่ได้ลงวันเดือนปีด้วยตนเองก็ยังมีความผิด
ขณะจำเลยนำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์เช็คพิพาทมีวันเดือนปีที่ออกเช็คครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมายจำเลยผู้ออกเช็คย่อมทราบได้ว่าจะต้องมีการใช้เงินตามเช็คนั้นในวันใด เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าบัญชีปิดแล้ว จำเลยจึงต้องมีความผิด ส่วนจำเลยจะเป็นผู้ลงวันเดือนปีที่ออกเช็คด้วยลายมือของจำเลยเองหรือไม่ ไม่เป็นข้อสำคัญ และไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไปได้กรณีมิใช่เป็นเรื่องไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้โอนเช็คหลังสลักหลังไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีเช็คพิพาท ผู้รับโอนเช็คเป็นผู้เสียหาย
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ร่วมสลักหลังมอบให้น. นำไปเข้าบัญชีของน. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต้องถือว่าน. เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายฉะนั้นการที่โจทก์ร่วมมอบอำนาจให้น.ไปร้องทุกข์แทนการร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้โอนสลักหลังเช็คไม่เป็นผู้เสียหาย การฟ้องคดีอาญาเช็คต้องเป็นของผู้ทรงเช็คที่แท้จริง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ร่วมสลักหลังมอบให้น.นำไปเข้าบัญชีของน.เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต้องถือว่าน.เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายฉะนั้นการที่โจทก์ร่วมมอบอำนาจให้น.ไปร้องทุกข์แทนการร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะทางการเงิน ณ วันออกเช็ค: โจทก์ต้องพิสูจน์เองว่าเงินในบัญชีจำเลยมีไม่พอ ณ วันที่ออกเช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่19เมษายน2526โจทก์นำเช็คพิพาทเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่20เมษายน2526โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าในวันที่19เมษายน2526ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกเช็คเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายดังนี้จะฟังว่าการที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่20เมษายน2526นั้นในวันที่19เมษายน2526เงินในบัญชีของจำเลยก็มีไม่พอจ่ายด้วยหาไม่ได้จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะทางการเงิน ณ วันออกเช็ค: จำเลยต้องรับผิดเมื่อโจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าเงินในบัญชีไม่พอ ณ วันออกเช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่19เมษายน2526โจทก์นำเช็คพิพาทเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่20เมษายน2526โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าในวันที่19เมษายน2526ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกเช็คเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายดังนี้จะฟังว่าการที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่20เมษายน2526นั้นในวันที่19เมษายน2526เงินในบัญชีของจำเลยก็มีไม่พอจ่ายด้วยหาได้ไม่จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้.