คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 263 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางมัดจำซื้อขายที่ดิน สัญญาแปลงเป็นกู้ยืม การระงับเช็คเพื่อป้องกันความเสียหายจากการผิดสัญญา ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยวางมัดจำในวันทำสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นเงินสดส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งจ่ายเป็นเช็คพิพาทให้โจทก์พร้อมทั้งทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์โจทก์นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากจำเลยมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯการที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาซื้อขายจำเลยมีสิทธิสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คจำเลยกระทำโดยสุจริตจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องเป็นการใช้ดุลพินิจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา227มิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น โจทก์จำเลยทำสัญญากู้ยืมเป็นการแปลงหนี้ใหม่เพราะเป็นการเปลี่ยนสาระสำคัญแห่งหนี้จากเงินมัดจำเป็นหนี้เงินกู้แม้เช็คพิพาทจำเลยจะสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมแต่ก็เป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากการวางเงินมัดจำตามสัญญาซื้อขายเมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่โอนที่ดินให้การที่จำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คก็เพื่อมิให้ต้องสูญเสียเงินเพิ่มขึ้นจากการผิดสัญญาของโจทก์จำเลยจึงไม่มีเจตนาทุจริตและไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเช็ค – การสั่งระงับการจ่ายเช็คเมื่อคู่สัญญาผิดสัญญาซื้อขาย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยตกลงซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์แต่ในวันทำสัญญาจำเลยชำระค่ามัดจำให้โจทก์ไม่ครบส่วนที่ขาดอยู่จำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้พร้อมทั้งออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวการออกเช็คพิพาทจึงเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากการวางเงินมัดจำตามสัญญาซื้อขายเมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมโอนที่ให้จำเลยการที่จำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4574/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับจากเหตุสุดวิสัย (รถถูกปล้น) เช็คที่ออกก่อนเหตุไม่มีมูลหนี้
รถแทรกเตอร์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากโจทก์ร่วมถูกผู้ก่อการร้ายปล้นเอาไปจากจำเลยที่ 1 เป็นผลทำให้สัญญาเช่าซื้อระงับไปตั้งแต่วันก่อนถึงกำหนดที่จำเลยที่ 1ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดแรก จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้ออีก เช็คทั้งสองฉบับที่จำเลยที่ 1 ออกให้เพื่อชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วมจึงไม่มีมูลหนี้ ทั้งไม่ได้ความว่าโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้ตกลงให้เอาเช็คดังกล่าว เป็นการชำระหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากรถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อสูญหายหรือเสียหาย จำเลยที่ 1กับจำเลยที่ 2 ผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้ลงลายมือชื่อในเช็คแทนจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4421/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและผลกระทบต่อการดำเนินคดีอาญา: ภาระการพิสูจน์ของผู้ฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วคดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลยจำเลยส่งหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยต่อศาลและแถลงว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว โจทก์ร่วมรับว่าทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจริง แต่ทำด้วยความสำคัญผิดแต่โจทก์ก็ไม่ได้แถลงขอสืบพยานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานให้เห็นว่าทำสัญญานั้นโดยสำคัญผิดก็ต้องฟังว่าสัญญานั้นสมบูรณ์
การยอมความกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้น ไม่จำเป็นต้องกระทำต่อหน้าศาลเสมอไปอาจกระทำกันนอกศาลก็ได้แต่กรณีที่โจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมถูกหลอกให้ทำสัญญา และไม่นำสืบให้เห็นว่าผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วมไม่ยอมรับข้อสัญญาโดยที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์จึงต้องฟังว่าสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานในคดีอาญา โจทก์ต้องนำสืบข้อเท็จจริงสาระสำคัญด้วยตนเอง การเบิกความรับสารภาพจากการซักค้านไม่ใช่การนำสืบ
ในการพิจารณาคดีอาญา โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ฟังได้ว่าจำเลย กระทำผิดตามฟ้อง
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ข้อเท็จจริงที่ว่าวันที่จำเลยออกเช็คจำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์ประกอบความผิด เกิดขึ้นจากการที่จำเลยตอบคำถามค้านของโจทก์ถือไม่ได้ว่าโจทก์นำสืบถึง ข้อเท็จจริงนั้นไม่พอฟังลงโทษจำเลย (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 540/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อเท็จจริงในคดีอาญา โจทก์ต้องนำสืบเอง การเบิกความรับสารภาพจากการซักค้านไม่ใช่การนำสืบ
ในการพิจารณาคดีอาญา โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ฟังได้ว่าจำเลย กระทำผิดตามฟ้อง
ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ข้อเท็จจริงที่ว่าวันที่จำเลยออกเช็ค จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์ประกอบความผิด เกิดขึ้นจากการที่จำเลยตอบคำถามค้านของโจทก์ถือไม่ได้ว่าโจทก์นำสืบถึงข้อเท็จจริงนั้น ไม่พอฟังลงโทษจำเลย
(เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 540/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาในกำหนดระยะเวลาฎีกาและการระงับสิทธิเรียกร้อง
ในคดีอาญาแม้จะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็มิได้ห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย และอาจมีการอนุญาตหรือรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ได้ คดีจึงถึงที่สุดเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยมิต้องคำนึงว่ามีการยื่นฎีกาแล้วหรือไม่
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องภายในกำหนดระยะเวลาฎีกา แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ก็เป็นการถอนฟ้องก่อนที่คดีจะถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรคสอง แล้วเมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
เมื่อปรากฏว่าคดีได้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสั่ง
เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)อันมีผลให้คำพิพากษาของศาลล่างระงับไปด้วยในตัว ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2528)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาภายในกำหนดระยะเวลาฎีกา แม้ไม่มีการฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจอนุญาตได้
ในคดีอาญาแม้จะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็มิได้ห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย และอาจมีการอนุญาตหรือรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ได้คดีจึงถึงที่สุดเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสองประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยมิต้องคำนึงว่ามีการยื่นฎีกาแล้วหรือไม่
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องภายในกำหนดระยะเวลาฎีกา แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ก็เป็นการถอนฟ้องก่อนที่คดีจะถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรคสอง แล้ว เมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
เมื่อปรากฏว่าคดีได้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสั่ง
เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) อันมีผลให้คำพิพากษาของศาลล่างระงับไปด้วยในตัว ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2528 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดีอาญา แม้มิได้โต้แย้ง
ในคดีอาญาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลยนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาแม้โจทก์จะไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดีอาญา แม้ไม่ได้โต้แย้ง
ในคดีอาญาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลยนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาแม้โจทก์จะไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
of 27