คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.พนักงานอัยการ พ.ศ.2498 ม. 11 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5167/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการดำเนินคดีแทนเจ้าพนักงานต้องมีการแต่งตั้งทนายความถูกต้องตามกฎหมาย
ในการดำเนินคดีแพ่งแทนรัฐบาล หรือในการดำเนินคดีแพ่งหรือคดีอาญาแทนเจ้าพนักงานผู้ซึ่งถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ ฯลฯ ซึ่งพนักงานอัยการรับแก้ต่างตาม พ.ร.บ. พนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11 (2) (3) พนักงานอัยการมีฐานะอย่างเดียวกับทนายความตาม พ.ร.บ. ทนายความ พ.ศ. 2528 ที่จะมีอำนาจดำเนินคดีในศาลได้ก็ต่อเมื่อดำเนินการตั้งทนายความให้ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5167/2548 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความของพนักงานอัยการต้องมีการแต่งตั้งทนายความตามกฎหมาย
ในการดำเนินคดีแพ่งแทนรัฐบาล หรือในการดำเนินคดีแพ่งหรือคดีอาญาแทนเจ้าพนักงานผู้ซึ่งถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ ฯลฯ ซึ่งพนักงานอัยการรับแก้ต่างตาม พ.ร.บ.พนักงานอัยการฯ มาตรา 11 (2) (3) พนักงานอัยการมีฐานะอย่างเดียวกับทนายความตาม พ.ร.บ.ทนายความฯ ที่จะมีอำนาจดำเนินคดีในศาลได้ก็ต่อเมื่อดำเนินการตั้งทนายความให้ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3920/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการรับแก้ต่างให้เจ้าพนักงานที่ถูกฟ้อง ย่อมเป็นไปตามดุลพินิจที่กฎหมายให้อำนาจ แม้โจทก์มิได้ระบุฐานะเจ้าพนักงานในฟ้อง
แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องว่าได้ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่เมื่อเจ้าพนักงานอัยการพิจารณาเห็นว่าจำเลยถูกฟ้องเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่และเห็นสมควรรับแก้ต่างให้แล้ว พนักงานอัยการก็มีอำนาจรับเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาใด เพราะมาตรา 11(3) แห่งพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2494 ให้อำนาจแก่พนักงานอัยการที่จะใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนทางกฎหมายและการยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาทเมื่อมีการตอบโต้การใส่ร้าย
ข้อความที่จำเลยโฆษณาออกอากาศทางวิทยุและพิมพ์แถลงการณ์ออกแจกจ่ายจะเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ต่อเมื่อเป็นการใส่ความหากข้อความนั้นเป็นการชี้แจงแก้ข่าวหรือบทความซึ่งโจทก์ตำหนิจำเลยก่อนอย่างรุนแรง และทำโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนตามคลองธรรมโดยสุภาพแล้ว ก็ได้รับยกเว้นโทษ
เมื่อมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็พิพากษายกฟ้อง
พนักงานอัยการมีอำนาจเข้าเป็นทนายแก้ต่างนายกเทศมนตรีซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ได้ แม้จะเป็นการแก้ต่างจำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของศาลแขวงเพราะกฎหมายมิได้กำหนดอำนาจหน้าที่ผู้ว่าคดีให้เป็นทนายแก้ต่างจำเลยดังเช่นที่กล่าวไว้ชัดในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาทเมื่อเป็นการป้องกันตนและชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหา
ข้อความที่จำเลยโฆษณาออกอากาศทางวิทยุและพิมพ์แถลงการณ์ออกแจกจ่าย จะเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ต่อเมื่อเป็นการใส่ความหากข้อความนั้นเป็นการชี้แจงแก้ข่าวหรือบทความซึ่งโจทก์ตำหนิจำเลยก่อนอย่างรุนแรงและทำโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนตามคลองธรรมโดยสุภาพแล้ว ก็ได้รับยกเว้นโทษ
เมื่อมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็พิพากษายกฟ้อง
พนักงานอัยการมีอำนาจเข้าเป็นทนายแก้ต่างนายกเทศมนตรีซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ได้ แม้จะเป็นการแก้ต่างจำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของศาลแขวง เพราะกฎหมายมิได้กำหนดอำนาจหน้าที่ผู้ว่าคดีให้เป็นทนายแก้ต่างจำเลยดังเช่นที่กล่าวไว้ชัดในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ