คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยงยุทธ เลอลภ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 762 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากับผู้รับโอนกรรมสิทธิ์: ผู้รับโอนไม่ผูกพันสัญญาเช่าระยะยาวเกินกว่าสัญญาเดิม
เสียเงินช่วยค่าก่อสร้างตึกแล้วทำสัญญาเช่า 4 ฉบับๆ ละ 3 ปี สัญญาเช่าสมบูรณ์แค่ 3 ปี ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ให้เช่าไม่ผูกพันตามสัญญาต่างตอบแทนที่จะให้เช่า 12 ปีด้วย แม้จะรู้ว่ามีสัญญาเช่าอยู่ 4 ฉบับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรม และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย หลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านนั้น เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไปและการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องให้จัดการแบ่งมรดกตาม คำสั่งของศาลชั้นต้นอีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสถานะผู้จัดการมรดกเมื่อผู้รับมอบหมายถึงแก่กรรม และผลกระทบต่อคดีความ
ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ ตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านนั้น เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไป และการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องให้จัดการแบ่งมรดกตามคำสั่งของศาลชั้นต้นอีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมฯ 3 ปี และอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องมีใจความว่า ตำราเรียนภาษาอังกฤษรายพิพาทนั้นโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จำเลยปลอมแปลงลอกเลียนออกจำหน่าย เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องเรียกค่าเสียหายในการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 มาตรา 24 อันเป็นบทบัญญัติอยู่ในส่วนแพ่ง คือส่วนที่ 4 ว่าด้วยสิทธิแก้ในทางแพ่งซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์บัญญัติว่า "คดีละเมิดลิขสิทธิ์นั้นท่านมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสามปีนับแต่วันละเมิด" จึงต้องใช้อายุความสามปีดังกล่าวมาบังคับ จำเลยการทำการละเมิดลิขสิทธิ์คือขายหนังสือที่คัดลอกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2515 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2516 คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมฯ และอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องมีใจความว่า ตำราเรียนภาษาอังกฤษรายพิพาทนั้นโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จำเลยปลอมแปลงลอกเลียนออกจำหน่าย เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องเรียกค่าเสียหายในการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพ.ศ.2474 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 มาตรา 24 อันเป็นบทบัญญัติอยู่ในส่วนแพ่ง คือส่วนที่ 4 ว่าด้วยสิทธิแก้ในทางแพ่งซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์บัญญัติว่า "คดีละเมิดลิขสิทธิ์นั้นท่านมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสามปีนับแต่วันละเมิด" จึงต้องใช้อายุความสามปีดังกล่าวมาบังคับ จำเลยกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์คือขายหนังสือที่คัดลอกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2515 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2516 คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2357/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริษัทต่างประเทศประกอบธุรกิจในไทย: การจดทะเบียนพาณิชย์
บริษัทจำกัดจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายในต่างประเทศไม่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย ประกอบกิจการพาณิชย์ได้ภายในขอบข่ายที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ต่อสำนักงานกลางทะเบียนพาณิชย์เช่นเดียวกับนิติบุคคลตามกฎหมายไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2350/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ต้องเสียภาษีและการเรียกคืนเงินกรณีสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อการผลิต ไม่ใช่ทดแทน
โจทก์สั่งเครื่องตักฝุ่นและแผงสวิทซ์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการผลิต ไม่ใช่สั่งเข้ามาภายหลังแทนของเดิม โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล โจทก์เรียกคืนได้ ไม่ใช่เงินที่โจทก์ชำระหนี้ไปตามอำเภอใจหรือชำระหนี้ที่ผิดกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทที่เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณสมบัติ
จำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2)สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่าที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือหนองน้ำสาธารณะจึงอาศัยเหตุแต่เพียงว่าหนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ: การคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
จำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้ จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือหนองน้ำสาธารณะจึงอาศัยเหตุแห่งเพียงว่า หนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2096/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขายของรัฐวิสาหกิจ: การมอบอำนาจและการรักษาการแทน
โรงงานกระสอบป่านไม่เป็นนิติบุคคล อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรมโจทก์ โจทก์ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านมีอำนาจทำนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขาย และตามข้อบังคับว่าด้วยการบริหารโรงงานกระสอบป่านกรมโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2515 ข้อ 17 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการไว้ว่า ให้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการบริหารงานโดยทั่วไปของโรงงาน ทั้งนี้เพื่อให้โรงงานดำเนินกิจการไปตามวัตถุประสงค์ในขณะที่ทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยผู้อำนวยการโรงงานกระสอบป่านผู้ได้รับมอบอำนาจจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ทำสัญญาได้ไปราชการต่างประเทศคณะกรรมการอำนวยการโรงงานกระสอบป่าน กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีมติให้ผู้จัดการโรงงานกระสอบป่านเป็นผู้รักษาการแทนและลงนามแทนผู้อำนวยการ ผู้จัดการโรงงานจึงลงนามแทนในสัญญาซื้อขายกับจำเลยได้ ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามสัญญาซื้อขายที่ผู้จัดการโรงงานลงนามไว้ได้
of 77