พบผลลัพธ์ทั้งหมด 762 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างก่อสร้าง & การรับมอบงานชำรุด/ล่าช้า: สิทธิเรียกร้องค่าปรับระงับเมื่อเจ้าหนี้รับมอบโดยไม่สงวนสิทธิ
จำเลยจ้างโจทก์สร้างตึกแถว โจทก์ส่งมอบล่าช้าแต่จำเลยรับมอบโดยไม่สงวนสิทธิปรับตามสัญญาจำเลยบังคับเรียกเบี้ยปรับไม่ได้ตาม มาตรา 381 วรรคท้าย
โจทก์โอนสิทธิการเช่าตึกแถวแก่จำเลย แต่โจทก์ใส่กุญแจประตูตึกแถวเสีย จำเลยเข้าครอบครองไม่ได้ ไม่เป็นละเมิด ตามสัญญาสิทธิที่จำเลยได้จากสัญญาคือสิทธิการเช่าตึกเท่านั้น
โจทก์โอนสิทธิการเช่าตึกแถวแก่จำเลย แต่โจทก์ใส่กุญแจประตูตึกแถวเสีย จำเลยเข้าครอบครองไม่ได้ ไม่เป็นละเมิด ตามสัญญาสิทธิที่จำเลยได้จากสัญญาคือสิทธิการเช่าตึกเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับรองการชำระหนี้ไม่ใช่สัญญาค้ำประกัน แต่มีผลให้เรียกร้องค่าเสียหายจากผู้รับรองได้
ธนาคารโจทก์ได้ทำหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1 ต่อองค์การสะพานปลา ยินยอมใช้เงินให้แก่องค์การสะพานปลาในกรณีที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติผิดสัญญา ในการนี้จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาไว้แก่ธนาคารโจทก์มีข้อความว่าตามที่ธนาคารโจทก์ได้ทำหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1ไว้กับองค์การสะพานปลานั้น ถ้าองค์การสะพานปลาเรียกร้องให้ธนาคารโจทก์ชำระเงินจำนวนที่ค้ำประกัน จำเลยที่ 2 ยอมรับผิดชอบให้ธนาคารโจทก์ไล่เบี้ยจากจำเลยที่ 2 ได้ในจำนวนเงินที่ชำระไปนั้น เอกสารดังกล่าวมิใช่สัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 หากแต่เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเท่านั้น จึงไม่เป็นตราสารที่ต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งต้องเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เชื่อมโยงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทรัพย์สินที่เช่าและเรียกค่าเสียหายเพราะครบกำหนดการเช่าตามสัญญาและโจทก์บอกกล่าวแก่จำเลยแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยเสีย จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่มีอำนาจฟ้อง. การบอกเลิกการเช่าไม่ชอบโจทก์ไม่เสียหาย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การโดยฟ้องแย้งมาในคำร้องว่า เมื่อโจทก์ต้องการให้จำเลยออกจากที่ดิน โจทก์ต้องชดใช้ค่าถมที่ดินให้จำเลยเป็นเงิน 55,000 บาท กับให้โจทก์ใช้เงินที่ยืมจำเลยไปอีก 5,000 บาท ที่จำเลยยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การก็เพื่อให้ศาลสั่งรับฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ใช้เงินค่าถมที่ดินให้จำเลย เมื่อจำเลยต้องออกไปจากที่ดินนั้น เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ใช้เงินยืมให้จำเลยก็เป็นเรื่องอื่นคำฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวข้องกันกับฟ้องเดิม พอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมฟ้องแย้งในคดีเช่า: ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมจึงจะรวมพิจารณาได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทรัพย์สินที่เช่าและเรียกค่าเสียหายเพราะครบกำหนดการเช่าตามสัญญาและโจทก์บอกกล่าวแก่จำเลยแล้วแต่จำเลยเพิกเฉยเสีย จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่มีอำนาจฟ้องการบอกเลิกการเช่าไม่ชอบ โจทก์ไม่เสียหาย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การโดยฟ้องแย้งมาในคำร้องว่า เมื่อโจทก์ต้องการให้จำเลยออกจากที่ดิน โจทก์ต้องชดใช้ค่าถมที่ดินให้จำเลยเป็นเงิน 55,000 บาท กับให้โจทก์ใช้เงินที่ยืมจำเลยไปอีก 5,000 บาท ที่จำเลยยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การก็เพื่อให้ศาลสั่งรับฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ใช้เงินค่าถมที่ดินให้จำเลย เมื่อจำเลยต้องออกไปจากที่ดินนั้น เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ใช้เงินยืมให้จำเลยก็เป็นเรื่องอื่น คำฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวข้องกันกับฟ้องเดิม พอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมรดกหนี้จำนอง: สิทธิและหน้าที่ของผู้รับมรดกตามกฎหมายลักษณะมรดก
เมื่อ อ.สามีโจทก์ตายทรัพย์สินของอ. ตลอดจนสิทธิหน้าที่ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งหนี้จำนองที่จำเลยจำนองไว้กับอ. ย่อมเป็นมรดกตกทอดได้แก่โจทก์และทายาทตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะมรดก กรณีมิใช่อยู่ในบังคับเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนภายหลังการกระทำผิด ศาลฎีกามีอำนาจปรับคดี แม้ไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นประเด็น
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาติ นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้จึงไม่ถูกต้อง และในปัญหาดังกล่าวนี้แม้จะไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.ฉบับแก้ไข และการปรับใช้กฎหมายอาญาตามหลักกฎหมายที่เปลี่ยนแปลง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้จึงไม่ถูกต้อง และในปัญหาดังกล่าวนี้แม้จะไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2512/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงท้ากันทางศาล: การกำหนดประเด็นข้อพิพาท และผลผูกพันตามข้อตกลง
คู่ความตกลงท้ากันเป็นการกำหนดประเด็นข้อพิพาท อาจสละประเด็นข้ออื่นเสียได้ เมื่อไม่นอกฟ้องและคำให้การ ก็ต้องพิจารณาพิพากษาไปตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ทำร้ายร่างกาย: เจตนาและกรรมเดียว
จำเลยทั้งสามเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดแกล้งจับผู้เสียหายอ้างว่า กระทำผิดฐานเมาสุราอาละวาดทั้งที่ไม่เป็นความจริง อันเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และนำตัวผู้เสียหายออกจากบ้านไปไว้ที่แห่งหนึ่ง แล้วจึงปล่อยตัวผู้เสียหายไป อันเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพตามมาตรา 310ดังนี้ แม้การกระทำของจำเลยทั้งสามจะเป็นการกระทำหลายอย่าง แต่ก็ด้วยเจตนาอันเดียวกัน คือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นการกระทำต่อเนื่องกันการกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำเลยที่ 1 จับมือผู้เสียหายกระชากโดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางซ้ายและหัวเข่าซ้าย แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลต้องใช้เวลารักษาประมาณ 5 วัน ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 295
จำเลยที่ 1 จับมือผู้เสียหายกระชากโดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางซ้ายและหัวเข่าซ้าย แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลต้องใช้เวลารักษาประมาณ 5 วัน ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 295
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2352/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาข้อหาเบียดบังทรัพย์ ต้องระบุรายละเอียดการกระทำที่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยครอบครองเรือยนต์ของผู้เสียหายโดยผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยนำไปทำการดูดแร่ในทะเลแล้วจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์นั้นเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ดังนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่าจำเลยเบียดบังนั้น โจทก์มิได้ระบุ การกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยกระทำการอย่างไรที่พอจะถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์ไปเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สาม โดยทุจริต เมื่อโจทก์ไม่บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1057/2514)