พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งธนาคารระงับการจ่ายเช็คเนื่องจากผู้ขายผิดสัญญา สัญญาประมูลอาหารในงานราชทัณฑ์ ไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
จำเลยออกเช็คให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ที่ บ.ประมูลเป็นผู้ขายอาหารในงานแสดงผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ผู้เสียหายโดยตกลงกันว่านอกจากผู้ที่ประมูลได้แล้ว บุคคลอื่นจะนำอาหารและเครื่องดื่มมาขายบริเวณงานไม่ได้ เมื่อจัดงานแล้วปรากฏว่ามีบุคคลอื่นมาขายอาหารและเครื่องดื่มในบริเวณงาน บ.จึงขอลดจำนวนเงินที่จะเรียกเก็บตามสัญญาลงแต่ผู้เสียหายไม่ตกลงจำเลยจึงได้สั่งธนาคารมิให้ใช้เงินเพราะจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายผิดสัญญา กรณีมีมูลให้จำเลยเชื่อว่าตนมีสิทธิสั่งธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3(1)(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2498/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทเกิดจากการข่มขู่และแจ้งอายัดธนาคาร การออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้เงิน ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทเพราะถูกข่มขู่ วันรุ่งขึ้นจำเลยได้ไปแจ้งอายัดต่อธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็ค เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยออกเช็คไปโดยไม่มีเจตนาที่จะให้นำเช็คไป เรียกเก็บเงิน ทั้งการที่จำเลยสั่งธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็คก็มิใช่เป็นการทุจริต แม้ผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินไม่ได้จำเลยก็ไม่มีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5116/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คต้องพิสูจน์เจตนาหรือเงินในบัญชีวันออกเช็ค ไม่ใช่แค่วันปฏิเสธการจ่ายเงิน
สาระสำคัญของความผิดฐานออกเช็คตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)(2) นั้น ถือว่าวันที่ออกเช็คเป็นวันที่ผู้ออกเช็คมีเจตนากระทำผิดและความผิดสำเร็จครบองค์ประกอบความผิดในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์นำสืบแต่เพียงวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นซึ่งเป็นวันหลังออกเช็คหลายเดือน โดยธนาคารให้เหตุผลว่ายังไม่มีการตกลงกับธนาคาร เนื่องจากขณะนั้นจำเลยเป็นหนี้ธนาคารอยู่เต็มวงเงินเบิกเกินบัญชี มิได้นำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินอยู่ในบัญชีไม่พอจะใช้เงินได้ตามเช็ค และหรือหากผู้เสียหายนำเช็คตามฟ้องไปเบิกเงินธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คพิพาทนอกจากมีข้อความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 (1) (2) (3) (5) (6) และ (7) แล้วยังมีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า "จ่าย....หรือผู้ถือ" จึงเป็นเช็คที่มีรายการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 (4) อีกด้วย เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า "ผู้ถือ" ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า "ผู้ถือ" ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเพื่อไม่ให้ใช้เงินได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คพิพาทนอกจากมีข้อความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988(1)(2)(3)(5)(6) และ(7) แล้วยังมีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า'จ่าย....หรือผู้ถือ' จึงเป็นเช็คที่มีรายการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988(4) อีกด้วย เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า 'ผู้ถือ' ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3(1)
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า 'ผู้ถือ' ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงิน หรือขัดขวางการใช้เงิน ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียหาย โดยระบุว่าจ่ายเงินสด แต่จำเลยได้ขีดคำว่า 'หรือผู้ถือ'ออก ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายทราบหรือได้ยินยอมด้วยกับการขีดคำดังกล่าว การกระทำของจำเลยเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3(1) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่มีเงินในบัญชีเป็นองค์ประกอบความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ใช่ความผิดเสมอไป
การเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค มิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วเกิดเป็นความผิดเสมอไป กรณีจะต้องประกอบด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเช่นนั้น จำเลยได้ออกโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน เจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าเช็คนั้นถูกนำไปขึ้นเงินภายหลังจากวันที่ที่จำเลยสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงจะฟังว่าในวันที่ที่สั่งธนาคารจ่ายเงิน จำเลยไม่มีเงินในบัญชีและมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นยังไม่แน่นอน จำเลยยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยรู้ว่าไม่มีเงิน: องค์ประกอบความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต
การจะเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คมิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็เกิดเป็นความผิดเสมอไป กรณีจะต้องประกอบด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเช่นนั้น จำเลยได้ออกโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน เจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าเช็คนั้นถูกนำไปขึ้นเงินภายหลังจากวันที่ที่ จำเลยสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงจะฟังว่าในวันที่ที่สั่งธนาคารจ่ายเงินจำเลยไม่มี เงินในบัญชีและมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นยังไม่แน่นอน จำเลยยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่มีเงินในบัญชี ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค และการนับอายุความ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์เป็นประเด็น 3 ข้อว่า จำเลยชำระเงินให้แก่ผู้เสียหายไปแล้ว การออกเช็คนี้เป็นการค้ำประกันเงินกู้ และคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยออกเช็ค เพื่อเป็นประกันเงินกู้ พิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยประเด็นอื่น โจทก์ฎีกา เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยออกเช็คเป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่เพื่อประกันการกู้ยืม ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยประเด็นอีก 2 ข้อ ที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้ไว้ในชั้นอุทธรณ์ด้วย แล้วจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลย
จำเลยกู้ยืมเงินผู้เสียหายโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้ออกเช็คล่วงหน้าให้ไว้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ และตกลงกันว่าเมื่อเช็คถึงกำหนด ให้นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคารได้ เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ มิใช่เพื่อประกันการกู้ยืม ครั้นถึงกำหนดวันทีสั่งจ่าย ผู้เสียหายไปถามธนาคาร ธนาคารบอกว่าเงินในบัญชีจำเลยไม่มี ต่อมาอีกเกือบ 1 เดือน ผู้เสียหายจึงนำเช็คนี้ไปเข้าบัญชีธนาคาร ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 3(3) ด้วย
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เข็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จะเป็นความผิดต่อเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และจะถือว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินได้ก็ต่อเมื่อได้มีการยื่นเช็คต่อธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เพียงแต่ผู้เสียหายไปถามธนาคาร ธนาคารบอกว่าเงินในบัญชีจำเลยไม่มี ยังถือไม่ได้ว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน อายุความจึงยังไม่เริ่มนับ
จำเลยกู้ยืมเงินผู้เสียหายโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้ออกเช็คล่วงหน้าให้ไว้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ และตกลงกันว่าเมื่อเช็คถึงกำหนด ให้นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคารได้ เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ มิใช่เพื่อประกันการกู้ยืม ครั้นถึงกำหนดวันทีสั่งจ่าย ผู้เสียหายไปถามธนาคาร ธนาคารบอกว่าเงินในบัญชีจำเลยไม่มี ต่อมาอีกเกือบ 1 เดือน ผู้เสียหายจึงนำเช็คนี้ไปเข้าบัญชีธนาคาร ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 3(3) ด้วย
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เข็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จะเป็นความผิดต่อเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และจะถือว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินได้ก็ต่อเมื่อได้มีการยื่นเช็คต่อธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เพียงแต่ผู้เสียหายไปถามธนาคาร ธนาคารบอกว่าเงินในบัญชีจำเลยไม่มี ยังถือไม่ได้ว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน อายุความจึงยังไม่เริ่มนับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2511 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็คในคดีล้มละลาย: การฟ้องคดีอาญาไม่สะดุดอายุความแพ่ง
การยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามเช็คในคดีล้มละลาย (หรือการฟ้องเรียกเงินตามเช็คเป็นคดีแพ่ง) ไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญาฐานออกเช็คนั้นโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฉะนั้นการฟ้องคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ทำให้อายุความของคดีแพ่งนั้นสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 ดังนั้น เมื่อเช็คที่นำมาขอรับชำระหนี้มีอายุเกิน 1 ปี นับจากวันสั่งจ่ายจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7 - 8 /2511)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7 - 8 /2511)