คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุมิตร ฟักทองพรรณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 474 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ้นสุดแล้ว การรับเงินค่าเช่าภายหลังถือเป็นการทำสัญญาเช่าใหม่ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ฟ้องขับไล่ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าว
การที่โจทก์รับเงินจากจำเลยไว้เมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยแล้ว เงินดังกล่าวไม่ว่าจะเรียกเงินค่าเช่าหรือค่าเสียหายก็จะถือว่าโจทก์จำเลยเป็นอันทำสัญญาเช่ากันใหม่ต่อไป ไม่มีกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 ไม่ได้ ในเมื่อไม่มีข้อเท็จจริงที่จะปรับกับบทกฎหมายดังกล่าวได้ และเมื่อสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยมีกำหนดเวลาเช่ากันไว้แน่นอน สัญญาเช่าสิ้นกำหนดแล้ว โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยมิพักต้องบอกกล่าวก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเพิกถอนนิติกรรมยกที่ดิน: ศาลวินิจฉัยนอกฟ้องเรื่องการแบ่งมรดก
เมื่อฟ้องโจทก์เป็นเรื่องขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกที่ดินให้ ส. ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยโดยอ้างว่าเดิม ส. ได้หลอกลวงให้โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือในแบบพิมพ์เพื่อไปถอนชื่อสามีโจทก์ซึ่งถึงแก่กรรมออกจาก ส.ค.1 และขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในชื่อโจทก์ แล้ว ส. กลับไปกรอกข้อความยกที่ดินโจทก์ให้แก่ ส. เอง ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นมารดาของ ส.และเป็นทายาทโดยธรรมของส. จำเลยเป็นคู่สมรสพิพากษาให้แบ่งที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยคนละครึ่งนั้น ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งมรดกของส. ในฐานะทายาทโดยธรรม คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมของ ส. จะมีส่วนแบ่งในที่พิพาทคนละเท่าใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีขับไล่ - การขาดนัดยื่นคำให้การ
คดีฟ้องขับไล่จากห้องเช่า ค่าเช่าเดือนละ 150 บาทเรียกค่าเสียหายในอนาคตเดือนละ 10,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จำเลยอุทธรณ์ข้อที่ว่าขาดนัดไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การ เป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเช่าและฟ้องซ้อน: การฟ้องคดีใหม่กับจำเลยที่ไม่เคยเป็นคู่ความเดิมไม่ถือเป็นการฟ้องซ้อน
ค้างค่าเช่าผ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2516 ฟ้องวันที่ 31 กรกฎาคม 2517 ไม่ขาดอายุความ ซึ่งเริ่มนับเมื่อใช้สิทธิเรียกร้องได้ไม่เกิน 2 ปี
คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีใหม่ จำเลยที่ 1 ไม่ใช่คู่ความในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โอนที่ดินหลีกเลี่ยงหนี้ เจ้าหนี้เสียเปรียบ เพิกถอนการฉ้อฉลได้
โอนที่ดินทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบโดยไม่ได้รับชำระหนี้ไม่ต้องวินิจฉัยว่าเป็นการยกให้ หรือตีใช้หนี้ ก็เพิกถอนการฉ้อฉลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคืนภาษีเกิน ต้องมีการประเมินภาษีก่อน
โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีการค้าตามที่เจ้าพนักงานสรรพากรแนะนำและเรียกเก็บ ไม่มีการประเมินจึงไม่มีการอุทธรณ์ที่จะต้องทำก่อนฟ้องขอเรียกเงินที่เสียภาษีเกินไปคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฟ้องคดี สมบูรณ์เมื่อผู้มอบอำนาจลงลายมือชื่อ แม้ผู้รับมอบอำนาจไม่ลงชื่อ
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: หนังสือมอบอำนาจที่ผู้มอบอำนาจลงนามเพียงฝ่ายเดียวสมบูรณ์ และข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีฟ้องขับไล่
การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เมื่อโจทก์ได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้มอบอำนาจแล้ว ย่อมสมบูรณ์ หาจำต้องลงชื่อผู้รับมอบอำนาจอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแข่งขันขนส่งประจำทาง: ใบอนุญาตขนส่งสาธารณะจำกัดสิทธิในการแข่งขันกับผู้มีใบอนุญาตขนส่งประจำทางได้
บริษัทขนส่งจำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งประจำทางระหว่างกรุงเทพฯกับเชียงใหม่ ส่วนบริษัทจำเลยได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งสาธารณะ บริษัทจำเลยได้จัดรถรับส่งคนโดยสารในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯกับลำปางและเชียงใหม่ โดยมีกำหนดวันเวลาที่รถออกแน่นอนเป็นประจำ มีการขายตั๋วโดยสารเป็นรายบุคคลให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทาง แต่บริการของบริษัทจำเลยมีข้อที่แตกต่างกับของบริษัทขนส่งจำกัด คือ รถของบริษัทจำเลยหยุดรับส่งคนโดยสารระหว่างทางเฉพาะที่ลำปางเพียงแห่งเดียว ส่วนรถของบริษัทขนส่งจำกัดหยุดรับส่งคนโดยสารตามรายทางที่ใบอนุญาตกำหนดไว้ ค่าโดยสารของบริษัทจำเลยแพงกว่าค่าโดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด และกำหนดอัตราไว้เพียง 2 อัตรา คือ ระหว่างกรุงเทพฯกับลำปางและระหว่างกรุงเทพฯกับเชียงใหม่ ส่วนบริษัทขนส่งจำกัดคิดค่าโดยสารตามระยะทาง บริษัทจำเลยให้บริการที่ดีกว่าบริษัทขนส่งจำกัด รถของบริษัทจำเลยมีที่นั่งที่สะดวกสบายรวมทั้งมีห้องน้ำอยู่ในรถ ระหว่างทางก็มีอาหารและเครื่องดื่มเลี้ยงผู้โดยสารด้วย ดังนี้ การประกอบการขนส่งของบริษัทจำเลยมีลักษณะเป็นการแข่งขันกับบริษัทขนส่งจำกัด เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแข่งขันด้านการขนส่ง: ผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งสาธารณะกระทำการแข่งขันกับผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งประจำทาง
บริษัทขนส่งจำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งประจำทางระหว่างกรุงเทพฯ กับเชียงใหม่ ส่วนบริษัทจำเลยได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งสาธารณะ บริษัทจำเลยได้จัดรถรับส่งคนโดยสารในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ กับลำปางและเชียงใหม่ โดยมีกำหนดวันเวลาที่รถออกแน่นอนเป็นประจำ มีการขายตั๋วโดยสารเป็นรายบุคคลให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทาง แต่บริการของบริษัทจำเลยมีข้อที่แตกต่างกับบริษัทขนส่งจำกัด คือ รถของบริษัทจำเลยหยุดรับส่งคนโดยสารระหว่างทางเฉพาะที่ลำปางเพียงแห่งเดียว ส่วนรถของบริษัทขนส่งจำกัดหยุดรับส่งคนโดยสารตามรายทางที่ใบอนุญาตกำหนดไว้ ค่าโดยสารของบริษัทจำเลยแพงกว่าค่าโดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด และกำหนดอัตราไว้เพียง 2 อัตรา คือ ระหว่างกรุงเทพฯ กับลำปางและระหว่างกรุงเทพฯ กับเชียงใหม่ ส่วนบริษัทขนส่งจำกัดคิดค่าโดยสารตามระยะทาง บริษัทจำเลยให้บริการที่ดีกว่าบริษัทขนส่งจำกัด รถของบริษัทจำเลยมีที่นั่งที่สะดวกสบายรวมทั้งมีห้องน้ำอยู่ในรถ ระหว่างทางก็มีอาหารและเครื่องดื่มเลี้ยงผู้โดยสารด้วย ดังนี้ การประกอบการขนส่งของบริษัทจำเลยมีลักษณะเป็นการแข็งขันกับบริษัทขนส่งจำกัด เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการขนส่งพ.ศ. 2497 มาตรา 14
of 48