คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุดม ทันด่วน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 421 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่นาให้แล้วเรียกคืนภายใต้เงื่อนไขเนรคุณ: ไม่เข้าข่ายผู้ยากไร้จึงไม่สามารถเรียกคืนได้
โจทก์ยกที่นาให้จำเลย ต่อมาโจทก์ขออาศัยทำนาเพื่อขายผลิตผลชำระหนี้ซึ่งโจทก์เป็นหนี้ผู้อื่น จำเลยไม่ยอมโจทก์ขอยืมเงิน จำเลยก็ไม่ให้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยไม่ช่วยเหลือโจทก์ในการชำระหนี้สินของโจทก์เท่านั้นมิใช่เป็นการที่ผู้รับบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(3) จึงไม่เป็นเหตุอันจะเรียกถอนคืนการให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์: ผู้ตรวจสอบสินค้าไม่มีอำนาจครอบครอง จึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
ผู้ควบคุมสาขาของบริษัทผู้เสียหายมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลสินค้าในโกดังและจะต้องรับผิดชอบในกรณีที่สินค้าขาดหายไปจำเลยเป็นเพียงผู้ตรวจสอบสินค้าและทำรายงานยอดสินค้าประจำวัน ไม่มีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลสินค้าแต่อย่างใดจำเลยจึงไม่ใช่ผู้ครอบครองสินค้าในโกดัง จะเอาผิดจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย ได้ยักยอกสินค้าของผู้เสียหายไปมิได้กล่าวหาว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วกระทำผิดหน้าที่จนเกิดความเสียหายขึ้นและที่โจทก์บรรยายว่าจำเลยมีอำนาจครอบครองดูแลรักษาและสั่งจำหน่ายสินค้าในโกดังนั้น ก็เป็นการบรรยายถึงอำนาจหน้าที่ของลูกจ้างตำแหน่งผู้ตรวจสอบสินค้าว่ามีอะไรบ้างเท่านั้นฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดผู้ครอบครองทรัพย์สินและการพิสูจน์อำนาจหน้าที่เพื่อความรับผิดฐานยักยอกทรัพย์
ผู้ควบคุมสาขาของบริษัทผู้เสียหายมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลสินค้าในโกดัง และจะต้องรับผิดชอบในกรณีที่สินค้าขาดหายไป จำเลยเป็นเพียงผู้ตรวจสอบสินค้าและทำรายงานยอดสินค้าประจำวัน ไม่มีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลสินค้าแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ครอบครองสินค้าในโกดัง จะเอาผิดจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย ได้ยักยอกสินค้าของผู้เสียหายไป มิได้กล่าวหาว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับมอบหมายว่าจำเลยมีอำนาจครอบครองดูแลรักษาและสั่งจำหน่ายสินค้าในโกดังนั้น ก็เป็นการบรรยายถึงอำนาจหน้าที่ของลูกจ้างตำแหน่งผู้ตรวจสอบสินค้าว่ามีอะไรบ้างเท่านั้น ฟ้องโจทก์ไม่ครอบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขในคดีขับไล่และค่ารื้อถอน
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจากที่เช่าจำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเลิกสัญญาเช่าและฟ้องแย้งว่าหากศาลพิพากษาขับไล่ขอให้โจทก์ใช้เงินค่ารื้อถอนห้องแถวดังนี้ เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขศาลรับคำให้การแต่ไม่รับฟ้องแย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททั้งสองฝ่าย ศาลพิจารณาความประมาทของจำเลยแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้
กรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างประมาทในลักษณะเดียวกันจนเกิดเหตุขึ้น การใช้ดุลพินิจจะพิจารณาแต่ความประมาทของจำเลยฝ่ายเดียวไม่ได้ เมื่อต่างประมาทไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันตัวจำเลยเองบาดเจ็บสาหัสศาลลงโทษจำคุกจำเลยแต่รอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือตัดมรดกมีผลบังคับใช้ได้แม้ทำนอกสถานที่ราชการ และไม่มีสิทธิรับมรดกแทนทายาทที่ถูกตัด
การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้องทำในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้วพนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนในวันหยุดราชการเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผนก็ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่นนี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายการที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไปทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย
ท. มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท. จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท. จึงไม่มีที่(ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตรา ใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรมที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดกจึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายหาใช่จะมีผลต่อเมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยชอบธรรมไม่ใช่พินัยกรรมส่วนการที่การแสดงเจตนาตามหนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือตัดมรดกมีผลทันทีเมื่อทำถูกต้องตามกม. แม้ทายาทถูกตัดก่อนตาย สิทธิรับมรดกแทนไม่มี
การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้องทำ ในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้ว พนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนในวันหยุดราชการ เมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผน ก็ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบ ข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่นนี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไปทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบ มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย
ท.มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท.จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท.จึงไม่มีที่ (ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตราใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรมที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใดๆ ของเจ้ามรดก จึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย หาใช่จะมีผลต่อเมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยธรรมไม่ใช่พินัยกรรม ส่วนการที่การแสดงเจตนาตามหนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคืนของกลาง: ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากไม่มีประเด็นให้วินิจฉัยเพิ่มเติมหลังศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว
++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ (ชั้นขอคืนของกลาง) ++
++ โจทก์ฎีกา ++
++
++ คำพิพากษาสั่งออก - รอย่อ
++ แจ้งการอ่านแล้ว / โปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++
ผู้ร้องร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ โจทก์คัดค้านเป็นคดีพิพาทกันเรื่องขอให้คืนของกลาง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้องเพราะในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นมิได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลางและผู้ร้องก็ไม่ได้ฎีกาต่อมา คดีเรื่องที่ผู้ร้องขอคืนของกลางย่อมเป็นอันยุติ ไม่มีข้อที่โจทก์จะต้องพิพาทโต้แย้งต่อไปอีกในชั้นนี้ ถ้าหากคำพิพากษาในคดีอาญาเดิมของศาลชั้นต้นมีข้อผิดพลาดบกพร่องอย่างไรก็ชอบที่โจทก์จะต้องไปว่ากล่าวในคดีเดิมนั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ในคดีนี้ไม่ได้
หมายเหตุ : ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลาง คดีไม่มีความจำเป็นต้องวินิจฉัย พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ตลอดจนถึงคำร้องของผู้ร้องด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนของกลาง: ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อศาลอุทธรณ์ยกคำร้องและไม่มีการฎีกาต่อ คดีขอคืนของกลางย่อมยุติ
ผู้ร้องร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ โจทก์คัดค้านเป็นคดีพิพาทกันเรื่องขอให้คืนของกลาง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้องเพราะในคดีอาญาเดิมศาลชั้นต้นมิได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลางและผู้ร้องก็ไม่ได้ฎีกาต่อมาคดีเรื่องที่ผู้ร้องขอคืนของกลางย่อมเป็นอันยุติไม่มีข้อที่โจทก์จะต้องพิพาทโต้แย้งต่อไปอีกในชั้นนี้ ถ้าหากคำพิพากษาในคดีอาญาเดิมของศาลชั้นต้นมีข้อผิดพลาดบกพร่องอย่างไรก็ชอบที่โจทก์จะต้องไปว่ากล่าวในคดีเดิมนั้นศาลฎีกาวินิจฉัยให้ในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามคำพิพากษาและการนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาหักล้าง การฟ้องล้มละลายต้องมีหนี้ถึงเกณฑ์
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 30,550 บาท แก่โจทก์เป็นค่าธรรมเนียมและค่าทนายความ 3,020 บาท จำเลยวางค่าธรรมเนียมและค่าทนายความต่อศาลแล้ว แม้โจทก์ยังไม่ได้รับไปจากศาลก็ถือว่าหนี้ค้างชำระไม่ถึง 30,000 บาท ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายไม่ได้
of 43