พบผลลัพธ์ทั้งหมด 348 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติบุคคลทำละเมิด: ฟ้องจำเลยโดยตรงได้ แม้ไม่ได้ระบุตัวผู้กระทำละเมิดเฉพาะเจาะจง การนำสืบไม่ถือว่านอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลว่าทำละเมิดต่อโจทก์ให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้
คนงานบริษัทจำเลยทำท่อน้ำประปาของโจทก์แตกในระหว่างบริษัทจำเลยรับเหมาก่อสร้างถนน โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดทำท่อประปาของโจทก์แตกเสียหาย โจทก์ได้ทำการซ่อมท่อประปาที่แตกเสียหายแล้วตามคำร้องของเจ้าหน้าที่จำเลย โจทก์นำสืบว่าคนงานของจำเลยทำละเมิดได้ไม่ เป็นการนำสืบนอกฟ้อง
คนงานบริษัทจำเลยทำท่อน้ำประปาของโจทก์แตกในระหว่างบริษัทจำเลยรับเหมาก่อสร้างถนน โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดทำท่อประปาของโจทก์แตกเสียหาย โจทก์ได้ทำการซ่อมท่อประปาที่แตกเสียหายแล้วตามคำร้องของเจ้าหน้าที่จำเลย โจทก์นำสืบว่าคนงานของจำเลยทำละเมิดได้ไม่ เป็นการนำสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติบุคคลทำละเมิด: ฟ้องจำเลยโดยตรงได้ แม้ไม่ได้ระบุตัวผู้กระทำละเมิด และการนำสืบไม่ถือว่านอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลว่าทำละเมิดต่อโจทก์ให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้
คนงานบริษัทจำเลยทำท่อน้ำประปาของโจทก์แตกในระหว่างบริษัทจำเลยรับเหมาก่อสร้างถนน โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดทำท่อประปาของโจทก์แตกเสียหาย โจทก์ได้ทำการซ่อมท่อประปาที่แตกเสียหายแล้วตามคำร้องของเจ้าหน้าที่จำเลย โจทก์นำสืบว่าคนงานของจำเลยทำละเมิดได้ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้อง
คนงานบริษัทจำเลยทำท่อน้ำประปาของโจทก์แตกในระหว่างบริษัทจำเลยรับเหมาก่อสร้างถนน โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดทำท่อประปาของโจทก์แตกเสียหาย โจทก์ได้ทำการซ่อมท่อประปาที่แตกเสียหายแล้วตามคำร้องของเจ้าหน้าที่จำเลย โจทก์นำสืบว่าคนงานของจำเลยทำละเมิดได้ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าจากพฤติกรรมร้ายแรงของสามี: ทำร้ายร่างกาย, ด่าทอ, คบชู้ และผลกระทบต่อบุตร
สามีตีภริยาบาดเจ็บ ด่าว่าโคตรพ่อโคตรแม่ เป็นการด่าภริยากับบุพการี มีสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรง ศาลพิพากษาให้หย่าตามคำฟ้องของภริยา บุตรหญิงอายุ 15 ปีควรอยู่ในปกครองมารดา ทั้งบิดาและมารดามีหน้าที่อุปการะบุตรด้วยกัน ศาลกำหนดให้สามีจ่ายเดือนละ 250 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1632/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพินัยกรรม: การยกบ้านและที่ดิน vs. การยกเฉพาะวัสดุ
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองยกที่ 2 แปลงให้บุคคลหลายคนโดยให้แบ่งแปลงแรกไว้เป็นถนนทางเข้าออกก่อน ส่วนที่เหลือยกให้บุคคล 3 คนโดยวัดยาวจากถนน 16 เมตรครึ่งบ้านพัก 3 ห้องซึ่งอยู่ในที่แปลงแรกยกให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ส่วนที่เหลือนอกจากที่กล่าวทั้งหมดยกให้จำเลยดังนี้ ถ้าจะยกเฉพาะวัสดุที่ปลูกสร้างให้รื้อเอาไป คำสั่งในพินัยกรรมน่าจะกล่าวให้ชัดเจนเช่นนั้น เมื่อพินัยกรรมระบุว่ายกบ้านให้ ถ้าเพียงแต่ให้เฉพาะไม้ที่สร้างบ้านเห็นได้ว่าไม่สมกับคำสั่ง เพราะบ้านทั้ง 3 ห้องปลูกลักษณะเป็นเพิงหมาแหงนมีหน้าถังและเป็นห้องๆซึ่งน่าจะเป็นห้องแถว ถ้ารื้อออกขายจะได้เงินประมาณเพียง 1,500 บาทเท่านั้น ลักษณะของบ้านปลูกมาถึงประมาณ 20 ปีเศษ ประตูบางประตูทำด้วยไม้ไผ่สาน จึงไม่น่าจะยกให้เฉพาะวัสดุที่สร้างบ้านแก่คนถึง 2 คน ตามพินัยกรรมดังกล่าวเชื่อว่าเจ้ามรดกประสงค์จะยกบ้านพร้อมทั้งที่ดินที่ปลูกบ้านให้แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1532/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์: การแบ่งหน้าที่และเจตนาพิเศษ
จำเลยทั้งสามนั่งรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน มาจอดที่ปากซอยให้จำเลยที่ 3 เฝ้ารถ เมื่อจำเลยที่ 1,2 ไปลักรถจักรยานยนต์ในซอยได้แล้ว จำเลยทั้งสามหนีไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนและแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์กับจำเลยที่ 1,2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ทายาทผู้ให้ยินยอมยังไม่เป็นเจ้าของ
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยครอบครองมา 40 ปี ตามที่ทายาทของเจ้ามรดกยินยอมยกให้ แต่จำเลยเป็นทายาทของเจ้ามรดกยังไม่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนด จึงบังคับให้จำเลยจัดการโอนที่พิพาทแก่โจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน ศาลมีอำนาจรับฟังเอกสารที่ไม่ส่งสำเนาก่อนวันสืบพยานได้ตามมาตรา 87
เอกสารที่โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อนวันสืบพยานอย่างน้อย 3 วัน ศาลย่อมมีอำนาจอ้างว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมรับฟังเอกสารนั้นได้ เพราะมาตรา 87 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งให้อำนาจศาลไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์อนุญาตอ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ และเหตุสมควรในการไม่อนุญาต
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240(2) ประกอบด้วยมาตรา 88 วรรคสาม ศาลอุทธรณ์มีอำนาจอนุญาตให้คู่ความอ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษคดียาเสพติดโดยศาลอุทธรณ์: ข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 มาตรา 20ตรี จำคุก 1 ปีและตามมาตรา 20ทวิ จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานมีไว้เพื่อขายและขายยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465. มาตรา 20ทวิ จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกในคดียาเสพติด: การเปลี่ยนแปลงโทษเล็กน้อยทำให้ไม่สามารถฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ตรี จำคุก 1 ปี และตามมาตรา 20 ทวิ จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 6 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 6 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานมีไว้เพื่อขายและขายยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้