คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
รื่น วิไลชนม์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 348 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการลักทรัพย์: จำเลยรู้เห็นและช่วยเหลือการกระทำผิดของผู้ร่วมกระทำ
จำเลยที่ 3 จ้างให้จำเลยที่ 2 พาไปหารถมาบรรทุกไม้ จำเลยที่ 2 พาจำเลยที่ 3 ไปติดต่อกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขับรถบรรทุกไปจอดรออยู่ที่หลังสถานีรถไฟ จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ให้จำเลยที่ 3 นั่งซ้อนท้ายไปจอดอยู่ใกล้กับรถบรรทุก ขณะนั้นมีไม้กระดานของผู้เสียหาย ซึ่งได้ฝากเก็บไว้ใต้ถุนบ้านพักคนงานรถไฟถูกลักจากที่เก็บมากองไว้ บริเวณนั้นจำนวนหนึ่งแล้ว จำเลยที่ 3 บอกว่าจะเข้าไปขนไม้มาอีกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 3 กำลังเข้าไปลักไม้ที่เหลือออกมาอีก จำเลยที่ 2 จึงไปรออยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟส่วนจำเลยที่ 1 อยู่ที่รถบรรทุก เมื่อได้ไม้ตามจำนวนที่ต้องการแล้วจะได้ขนไม้ทั้งหมด ขึ้นบรรทุกรถพาหนีไป แต่ตำรวจมาตรวจพบและจับกุมเสียก่อน การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ดังนี้ ถือได้ว่าได้ส่งเสริมอันเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 3 กระทำการลักทรัพย์ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน การกระทำผิดของจำเลยที่ 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการลักทรัพย์: การกระทำที่แสดงเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิด และมีส่วนร่วมในการขนย้ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด
จำเลยที่ 3 จ้างให้จำเลยที่ 2 พาไปหารถมาบรรทุกไม้ จำเลยที่ 2 พาจำเลยที่ 3 ไปติดต่อกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขับรถบรรทุกไปจอดรออยู่ที่หลังสถานีรถไฟ จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ให้จำเลยที่ 3 นั่งซ้อนท้ายไปจอดอยู่ใกล้กับรถบรรทุก ขณะนั้นมีไม้กระดานของผู้เสียหายซึ่งได้ฝากเก็บไว้ใต้ถุนบ้านพักคนงานรถไฟถูกลักจากที่เก็บมากองไว้บริเวณนั้นจำนวนหนึ่งแล้ว จำเลยที่ 3 บอกว่าจะเข้าไปขนไม้มาอีก จำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็รู้อยู่แล้วว่า จำเลยที่ 3 กำลังเข้าไปลักไม้ที่เหลือออกมาอีก จำเลยที่ 2 จึงไปรออยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟ ส่วนจำเลยที่ 1 อยู่ที่รถบรรทุก เมื่อได้ไม้ตามจำนวนที่ต้องการแล้วจะได้ขนไม้ทั้งหมดขึ้นบรรทุกรถพาหนีไป แต่ตำรวจมาตรวจพบและจับกุมเสียก่อน การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ดังนี้ ถือได้ว่าได้ส่งเสริมอันเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 3 กระทำการลักทรัพย์ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ: การต่ออายุสัญญา, การรับงานที่ไม่ตรงตามสัญญา, และเงินมัดจำ
โจทก์ผู้รับจ้างทำของทำงานไม่เสร็จตามกำหนดในสัญญาจึงขอต่ออายุ จำเลยผู้ว่าจ้างไม่ตอบ จะถือว่าจำเลยยอมต่ออายุสัญญาให้ไม่ได้
ผู้รับเหมาทำงานเสร็จ แต่ผู้ตรวจงานของผู้ว่าจ้างรายงาน ว่าไม่ตรงตามสัญญา ผู้ว่าจ้างเรียกเบี้ยปรับ จะถือว่าผู้ว่าจ้างรับงาน โดยไม่อิดเอื้อนไม่ได้ จึงเรียกเบี้ยปรับได้
ผู้รับจ้างมอบหนังสือรับรองของธนาคารแทนเงินมัดจำตามสัญญาไม่เป็นเงินมัดจำ แต่เมื่อผิดสัญญาผู้ว่าจ้างก็เรียกเอาเงินจำนวนนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินของภริยาในกรณีมีภริยาหลายคน และรูปแบบพินัยกรรมลับ
ภริยา 2 คนก่อนบรรพ 5 ซึ่งสามียกย่องเป็นภรรยาเสมอเท่าเทียมกัน ไม่ยกใครเป็นภรรยาหลวง ทั้ง 2 คนมีส่วนได้ทรัพย์สินบริคณห์และมรดกในฐานะภริยาเท่ากัน คือคนละครึ่งในหนึ่งในสามของสินสมรสซึ่งเป็นส่วนของภริยา
พินัยกรรมที่ผู้ทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อบรรจุซอง ผู้ทำพินัยกรรมลงชื่อตามรอยผนึก กรมการอำเภอจดข้อความที่ซองยืนยันและลงลายมือชื่อรับรองประทับตราประจำตำแหน่งมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน ทั้งระบุชื่อและที่อยู่ผู้พิมพ์พินัยกรรม ดังนี้เป็นพินัยกรรมลับ ตามมาตรา 1660
ข้อต่อสู้ว่าฟ้องเคลือบคลุม ซึ่งไม่กล่าวว่าเคลือบคลุมตรงไหนอย่างไร ไม่แสดงเหตุผลโดยชัดแจ้ง คำให้การนี้ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 ศาลไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: คดีบุกรุกทำลายทรัพย์สินบนที่ดิน
คำฟ้องว่าจำเลยนำคนงานลูกจ้างบุกรุกเข้ามาโค่นตัดฟันต้นผลอาสิน ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย และห้ามจำเลยกับบริวารมิให้เกี่ยวข้องรบกวนสิทธิครอบครองทำความเสียหายแก่โจทก์ต่อไปเช่นนี้เป็นคำฟ้องเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์โจทก์มีสิทธิเสนอคำฟ้องต่อศาลที่ทรัพย์เหล่านั้นต้องอยู่ในเขตศาลได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ทางอายุความและฟ้องซ้อน ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยหากไม่ยกขึ้นในคำให้การ
จำเลยให้โจทก์เข้าอยู่ในตึกโดยรับเงินไว้จำนวนหนึ่งแต่จำเลยไม่ทำหนังสือสัญญาให้โจทก์เช่า กลับฟ้องและศาลพิพากษาขับไล่โจทก์ จำเลยต้องคืนเงินที่รับไว้แก่โจทก์
จำเลยไม่ยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา419 ขึ้นต่อสู้ในคำให้การ จำเลยยกขึ้นเป็นข้อฎีกาไม่ได้
ข้ออ้างว่าฟ้องซ้อนตาม มาตรา173(1) ถ้าไม่ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาไม่เห็นควรยกขึ้นวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องผู้ค้ำประกันความเสียหายจากลูกจ้างละเมิด: 1 ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา 448
ค้ำประกันการทำงานของลูกจ้าง ลูกจ้างทำละเมิด อายุความฟ้องผู้ค้ำประกันมีกำหนด 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงความผิดในคดียาเสพติด: การจำหน่ายและครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นกระทงความผิดต่างกัน แม้กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตราเดียวกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้บังอาจจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดังกล่าวแล้วอีกจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพได้ความว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายจำนวนหนึ่งและจำหน่ายเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้การกระทำของจำเลยแยกได้เป็น 2 กระทง แต่ละกระทงเป็นความผิดตามกฎหมายถึงแม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติความผิดดังกล่าวไว้ในมาตราเดียวกัน แต่การกระทำความผิดอาจแยกเป็นกระทงๆได้ ซึ่งแล้วแต่ข้อเท็จจริงแห่งคดีและการบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกัน
จำเลยกระทำความผิดหลังจากที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้วตามประกาศดังกล่าวข้อ 2 ได้แก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม ดังนั้น ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกระทงความผิดหลายกรรมต่างกันในคดียาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 โดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้บังอาจจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดังกล่าวแล้วอีกจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพได้ความว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายจำนวนหนึ่งและจำหน่ายเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้การกระทำของจำเลยแยกได้เป็น 2 กระทง แต่ละกระทงเป็นความผิดตามกฎหมายถึงแม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติความผิดดังกล่าวไว้ในมาตราเดียวกัน แต่การกระทำความผิดอาจแยกเป็นกระทง ๆ ได้ ซึ่งแล้วแต่ข้อเท็จจริงแห่งคดีและการบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกัน
จำเลยกระทำความผิดหลังจากที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้ว ตามประกาศดังกล่าวข้อ 2 ได้แก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม ดังนั้น ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์สินหลังหย่า: ข้อสันนิษฐานเรื่องส่วนแบ่งทรัพย์สินเดิมเมื่อไม่มีหลักฐานการลงทุน
เมื่อไม่ปรากฏว่าสามีภริยาได้ออกเงินสร้างบ้านอันเป็นสินเดิมเป็นส่วนสัดคนละเท่าใด จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่ามีส่วนเป็นเจ้าของบ้านเท่า ๆ กัน
of 35