คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
รื่น วิไลชนม์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 348 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบธุรกิจประกันชีวิตโดยไม่ได้รับอนุญาต: การพิจารณาว่ากิจการสงเคราะห์ฌาปนกิจเข้าข่ายประกันชีวิตตามกฎหมายหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการสมาคม ส. ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ทำการเป็นผู้รับประกันภัยโดยทำสัญญาประกันชีวิตและร่วมกันเป็นตัวแทนประกันชีวิตของสมาคม ส.โดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต จำเลยรับข้อเท็จจริงตามคำแถลงของเจ้าหน้าที่ที่โจทก์ส่งต่อศาลว่า สมาคม ส.จดทะเบียนถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคม ได้ออกระเบียบการโฆษณาหาสมาชิกโดยกำหนดในระเบียบการว่า สมาคมจะจ่ายเงินค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ให้แก่ ่สมาชิกที่ถึงแก่กรรมจำนวนหนึ่งโดยสมาชิกผู้นั้นจะต้องเสียเงินค่าสมัครเป็นสมาชิกจำนวน 250 บาทและเงินค่าฌาปนกิจสงเคราะห์อีกศพละ 20 บาทให้แก่สมาคม ส.ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ไม่พอวินิจฉัยได้ว่ากิจการสงเคราะห์ฌาปนกิจของสมาคม ส.เป็นการประกันชีวิตตามกฎหมายหรือไม่ จำเลยให้การปฏิเสธการกระทำผิด โจทก์มิได้นำสืบพยานให้ได้ความตามฟ้อง คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกทรัพย์สินสินสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรสและการเพิกถอน
สามีโจทก์ยกที่ดินสินสมรสราคากว่าแสนบาทให้จำเลยโดยโจทก์มิได้ยินยอมเป็นหนังสือ เหตุที่สามีโจทก์ยกที่ดินให้เพราะจำเลยช่วยอุปการะพาสามีโจทก์ไปตรวจรักษาพยาบาลไม่ปรากฏว่าเป็นเงินเท่าใดไม่พอถือเป็นการสมควรในทางศีลธรรมอันดี โจทก์เพิกถอนการให้นี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสอบสวนความผิดประมวลรัษฎากรของพนักงานสอบสวนท้องที่
พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2508 มิได้บัญญัติถึงเรื่องอำนาจสอบสวนไว้ การสอบสวนความผิดตามประมวลรัษฎากรย่อมเป็นไปตามบทบญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนั้นพนักงานสอบสวนท้องที่ย่อมมีอำนาจสอบสวนความผิดตามประมวลรัษฎากรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าโดยเจตนา ปืนของกลางต้องพิสูจน์เลขทะเบียนก่อนริบ
จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนพกเป็นอาวุธเข้าปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย และเพื่อความสะดวกในการปล้นได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหายกับพวกถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่าดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,340 วรรคท้าย ต้องลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด และเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 289 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่ง
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงาน เนื่องจากเลขทะเบียนลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าเพื่อหวังทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานเดียวและแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการริบของกลาง
จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนพกเป็นอาวุธเข้าปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายและเพื่อความสะดวกในการปล้นได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหายกับพวกถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่าดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 340 วรรคท้าย ต้องลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดและเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 289 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่ง
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานเนื่องจากเลขทะเบียน ลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้จำนองระงับด้วยสัญญาประนีประนอม สิทธิบังคับคดีตามสัญญาใหม่
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนอง แล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนอง ศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ ถือว่าเป็นเพียงฟ้องในมูลหนี้สามัญ และมีผลทำให้หนี้เดิมระงับ เกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ย่อมบังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่นๆ ของจำเลยรวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่1683/2498,127/2506 และ 989/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลสร้างหนี้ใหม่ การบังคับคดีจากทรัพย์จำนองทำได้แม้ไม่ใช่ฟ้องบังคับจำนอง
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนองแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนองศาลพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ถือว่าเป็นเพียงฟ้องในมูลหนี้สามัญและมี ผลทำให้หนี้เดิมระงับ เกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ย่อม บังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลย รวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1683/2498, 127/2506 และ 989/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำในมูลคดีเดียวกัน และผลผูกพันจากทนายความลงนามในคำบังคับ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยที่ 1 ยอมชดใช้เงินให้โจทก์ศาลมีคำพิพากษาตามยอมแล้วจำเลยที่ 1 กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย ขอให้ใช้ค่าเสียหายอ้างว่าโจทก์และทนายความของจำเลยร่วมกันฉ้อฉลทำสัญญาประนีประนอมต่อศาลให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในคดีดังกล่าวดังนี้ มูลคดีที่จำเลยนำไปฟ้องก็คือมูลคดีที่มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีนี้ จึงเป็นการฟ้องในมูลคดีเรื่องเดียวกัน มิใช่เป็นการฟ้องคดีเรื่องอื่นตามความหมายมาตรา 293 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อันจะเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีได้
การที่ทนายความของจำเลยลงชื่อในคำบังคับซึ่งออกตามคำพิพากษาของศาล ถือได้ว่าทนายความซึ่งเป็นตัวแทนได้กระทำไปในขอบอำนาจในฐานะทนายความแทนจำเลยซึ่งเป็นตัวการย่อมมีผลผูกพันจำเลย และถือได้ว่าจำเลยทราบคำบังคับของศาลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกระสุนปืนและปลอกกระสุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
มีกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้แล้วไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ไม่เกินปริมาณที่กำหนด ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้เพื่อการค้าไม่เป็นความผิด พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503มาตรา 15,40 เป็นเรื่องมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้เกินปริมาณที่รัฐมนตรีกำหนดหรือค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง
of 35