คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมคิด มงคลชาติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 486 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2992/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสัญญาเช่าและการคืนเงินมัดจำเมื่อมีการโอนสิทธิและผู้รับโอนไม่สามารถเข้าครอบครองได้
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าท่าจอดเรือ โดยโจทก์วางเงินมัดจำจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นประกันตามสัญญา ต่อมาโจทก์ขอโอนสิทธิการเช่านี้ให้ บ. จำเลยอนุมัติและ บ.ได้เข้าทำสัญญาและวางเงินมัดจำเท่ากับที่โจทก์วางไว้ แต่ บ.เข้าครอบครองและดำเนินการตามสัญญาไม่ได้เนื่องจาก ส.ได้ทำสัญญารับช่วงดำเนินการจากโจทก์ไว้ก่อนตามสัญญาระหว่างโจทก์กับ ส.. เมื่อโอนสิทธิการเช่าไปแล้วเช่นนี้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงระงับไปไม่มีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยเงินมัดจำที่จำเลยยึดไว้ จำเลยจึงไม่อาจอ้างสัญญาเช่านี้เป็นเหตุยึดหน่วงเงินมัดจำของโจทก์ไว้ การที่ ส.ยังครอบครองทรัพย์สินที่เช่าอยู่ไม่ยอมส่งมอบให้ บ.นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันเอง หาเกี่ยวข้องกับโจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2814/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการอนุมัติหนังสือพิมพ์และการใช้ดุลพินิจตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484 มาตรา 27 ใช้บังคับแก่ผู้ยื่นคำขออนุญาตซึ่งมีสัญชาติอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 24(3) หรือยื่นคำขอออกหนังสือพิมพ์เป็นภาษาอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 24(4) โจทก์เป็นผู้มีสัญชาติไทย และยื่นคำขออนุญาตออกหนังสือพิมพ์ภาษาไทย จึงต้องบังคับตามมาตรา 24 วรรคแรก ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 17 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2501 ข้อ 1. ซึ่งให้อำนาจเจ้าพนักงานการพิมพ์ใช้ดุลพินิจสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรือสั่งเป็นประการอื่นตามความเหมาะสมแก่กรณีเป็นเรื่องๆ ไป ดังนั้น ที่จำเลยมีคำสั่งคำขอของโจทก์ว่า เห็นสมควรรอไว้ก่อนจนกว่าพระราชบัญญัติการพิมพ์ฉบับใหม่จะประกาศใช้ จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ และไม่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511 มาตรา 33 ที่ใช้บังคับอยู่ขณะนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2797/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมฉบับหลังโมฆะ พินัยกรรมเดิมยังใช้บังคับได้ แม้มีการแสดงเจตนาจะทำพินัยกรรมใหม่
ต.ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองทั้งต้นฉบับและคู่ฉบับรวมสามฉบับ เก็บต้นฉบับไว้ณที่ว่าการอำเภอหนึ่งฉบับ คู่ฉบับมอบให้บุคคลอื่นเก็บไว้ ต่อมาต. ขอต้นฉบับที่เก็บไว้ณ ที่ว่าการอำเภอคืนมาเก็บไว้เอง โดยมิได้กระทำการใดๆที่เห็นได้ว่าเป็นการทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมฉบับนั้นกับคู่ฉบับอีกสองฉบับ และได้ร่างพินัยกรรมขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง แต่ ต.และพยานยังมิได้ลงลายมือชื่อ ดังนี้ แม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นการแสดงเจตนาของ ต ว่าจะทำพินัยกรรมฉบับใหม่และจะไม่ใช้พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับเดิมก็ตาม แต่พินัยกรรมฉบับหลังได้ทำขึ้นโดยมีรายการไม่ครบถ้วน เพราะต.และพยานยังมิได้ลงลายมือชื่อไว้ ย่อมเป็นโมฆะ ไม่มีผลเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2797/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมฉบับหลังไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถเพิกถอนพินัยกรรมเดิมได้
ต.ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองทั้งต้นฉบับและคู่ฉบับรวมสามฉบับ เก็บต้นฉบับไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอหนึ่งฉบับคู่ฉบับมอบให้บุคคลอื่นเก็บไว้ ต่อมาต. ขอต้นฉบับที่เก็บไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอคืนมาเก็บไว้เอง โดยมิได้กระทำการใดๆที่เห็นได้ว่าเป็นการทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมฉบับนั้นกับคู่ฉบับอีกสองฉบับ และได้ร่างพินัยกรรมขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งแต่ ต.และพยานยังมิได้ลงลายมือชื่อ ดังนี้ แม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นการแสดงเจตนาของ ต ว่าจะทำพินัยกรรมฉบับใหม่ และจะไม่ใช้พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับเดิมก็ตาม แต่พินัยกรรมฉบับหลังได้ทำขึ้นโดยมีรายการไม่ครบถ้วน เพราะต.และพยานยังมิได้ลงลายมือชื่อไว้ ย่อมเป็นโมฆะ ไม่มีผลเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองฉบับเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานชิงทรัพย์ผิดมาตรา: ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุกให้เหมาะสมกับพฤติการณ์ความผิด
ความผิดฐานชิงทรัพย์ จะปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคแปด ย่อมไม่ถูกต้อง เพราะความในบทบัญญัติมาตรานี้มีเพียง 5 วรรคเท่านั้น และที่ลงโทษจำคุก 12 ปีนั้นอยู่ในระวางโทษของวรรคสี่ แต่เมื่อการชิงทรัพย์รายนี้เพียงแต่กระทำในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ จึงเข้าเกณฑ์ของวรรคสอง ไม่ใช่วรรคสี่ โทษที่ลงแก่จำเลยนั้นจึงเกินอัตราไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานชิงทรัพย์ที่ผิดวรรคตามประมวลกฎหมายอาญา การพิจารณาอัตราโทษที่ถูกต้อง
ความผิดฐานชิงทรัพย์ จะปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคแปด ย่อมไม่ถูกต้องเพราะความในบทบัญญัติมาตรานี้มีเพียง 5 วรรคเท่านั้นและที่ลงโทษจำคุก 12 ปีนั้นอยู่ในระวางโทษของวรรคสี่แต่เมื่อการชิงทรัพย์รายนี้เพียงแต่กระทำในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ จึงเข้าเกณฑ์ของวรรคสอง ไม่ใช่วรรคสี่โทษที่ลงแก่จำเลยนั้นจึงเกินอัตราไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2722/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราหลายกรรมต่างกัน ศาลมีอำนาจลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด
จำเลย 3 คนกับพวกจับตัวนางสาว ส.และเด็กหญิง บ.ลงจากเรือนไปยังทุ่งนาแล้วผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองบนคันนาห่างกันราว 2 วา โดยจำเลยที่ 1และที่ 2 กระทำชำเรา ส. อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 ตามที่แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติกรรมหนึ่งแล้วร่วมกับจำเลยที่ 3 กับพวกกระทำชำเรา บ. อันเป็นความผิดตามมาตรา 276 ตามที่แก้ไขอีกกรรมหนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1ที่ 2 ดังนี้ แยกออกได้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2722/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อหลายราย ศาลฎีกายืนโทษจำคุกฐานกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลย 3 คนกับพวกจับตัวนางสาว ส.และเด็กหญิง บ.ลงจากเรือนไปยังทุ่งนาแล้วผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองบนคันนาห่างกันราว 2 วา โดยจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำชำเรา ส. อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ตามที่แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติกรรมหนึ่งแล้วร่วมกับจำเลยที่ 3 กับพวกกระทำชำเรา บ. อันเป็นความผิดตามมาตรา 276 ตามที่แก้ไขอีกกรรมหนึ่ง. การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ดังนี้ แยกออกได้เป็นความผิด 2 กรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง และข้อตกลงรอฟังคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีที่ผู้ว่าคดีศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีอาญา โจทก์จำเลยจึงต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีนั้น เพราะถือว่าผู้ว่าคดีฟ้องคดีที่โจทก์เป็นผู้เสียหายนั้นเอง(อ้างฎีกาที่ 1134-1135/2509)
โจทก์จำเลยตกลงกันในคดีนี้ว่าขอให้ศาลรอฟังคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีอาญาเสียก่อนถ้า ผลที่สุดของคดีอาญาเป็นอย่างไร โจทก์จำเลยจะถือตาม ดังนี้ เมื่อศาลในคดีอาญาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้ประมาทโจทก์จะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นฝ่ายประมาท ขอให้สืบพยานในข้อนี้ขึ้นอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง และผลของการตกลงรอฟังคำพิพากษา
โจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีที่ผู้ว่าคดีศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีอาญา โจทก์จำเลยจึงต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีนั้น เพราะถือว่าผู้ว่าคดีฟ้องคดีที่โจทก์เป็นผู้เสียหายนั้นเอง (อ้างฎีกาที่ 1134-1135/2509)
โจทก์จำเลยตกลงกันในคดีนี้ว่าขอให้ศาลรอฟังคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีอาญาเสียก่อนถ้าผลที่สุดของคดีอาญาเป็นอย่างไร โจทก์จำเลยจะถือตาม ดังนี้ เมื่อศาลใน คดีอาญาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้ประมาท โจทก์จะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นฝ่ายประมาท ขอให้สืบพยานในข้อนี้ขึ้นอีกหาได้ไม่
of 49