พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อระงับจากรถหาย ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดค่าเช่าซื้อที่ค้างหลังสัญญาเลิก
เมื่อสัญญาเช่าซื้อระงับไป เพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาเช่าซื้อระงับไปแล้ว
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อการสูญหายและเสียหายทุกชนิดอันเกิดขึ้นแก่ยานพาหนะ(รถยนต์ที่เช่าซื้อ) ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้จำเลยทั้งสองผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันใช้ราคาหรือค่าเสียหายของรถยนต์ที่เช่าซื้อ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาระงับไปเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ได้
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อการสูญหายและเสียหายทุกชนิดอันเกิดขึ้นแก่ยานพาหนะ(รถยนต์ที่เช่าซื้อ) ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้จำเลยทั้งสองผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันใช้ราคาหรือค่าเสียหายของรถยนต์ที่เช่าซื้อ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาระงับไปเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้และการยึดถือโฉนดที่ดิน: เมื่อหนี้ขาดอายุความ สิทธิยึดถือโฉนดก็สิ้นสุดลง
แม้จะฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยนำสืบว่า โจทก์ได้กู้เงินจำเลยและได้มอบโฉนดที่ดินให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันการกู้เงิน ตามสัญญากู้มิได้กำหนดวันชำระเงินไว้สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่จะให้โจทก์ชำระเงินตามสัญญากู้เริ่มนับตั้งแต่วันกู้เป็นต้นไป และมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 นับตั้งแต่วันกู้เงินถึงวันที่โจทก์ฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วจำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าสิทธิเรียกร้องของจำเลยไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด เมื่อหนี้ที่จำเลยอาศัยเป็นมูลเหตุยึดถือโฉนดฉบับพิพาทของโจทก์ไว้ขาดอายุความเสียแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดไว้เป็นประกันหนี้นั้นต่อไป
การที่โจทก์กู้เงินและมอบโฉนดให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ ไม่เข้าลักษณะจำนำ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา189 จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดของโจทก์ไว้ต้องคืนให้โจทก์ (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2521)
การที่โจทก์กู้เงินและมอบโฉนดให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ ไม่เข้าลักษณะจำนำ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา189 จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดของโจทก์ไว้ต้องคืนให้โจทก์ (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2521)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระดาษกล่องแล้วผิดนัดชำระหนี้ โดยใช้เช็คที่ไม่มีเงินรองรับ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหายโดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 ก. ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวง จึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตน ซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจาก ก. ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก. ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก. ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล. มาชำระหนี้ให้แก่ ก. ผู้เสียหาย ฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกล่องกระดาษจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท ให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก. ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก. ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงการบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้น กรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้ว จำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทซื้อขายกระดาษกล่องและการออกเช็คที่ไม่มีเงินรองรับ ถือเป็นการผิดสัญญาซื้อขายและผิด พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหาย โดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน2513 ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวงจึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตนซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจากก.ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก.ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก.ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล.มาชำระหนี้ให้แก่ ก.ผู้เสียหายฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาทให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก.ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้นกรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้วจำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยเป็นตัวการจำหน่ายเฮโรอีน ไม่ใช่ผู้สนับสนุน การมีและจำหน่ายเป็นกรรมเดียว
จำเลยติดต่อขายเฮโรอีนให้ตำรวจ นัดเวลาและสถานที่ดูเงินที่ท้ายรถและติดตามนำเฮโรอีนไปส่งที่รถ ดังนี้ จำเลยเป็นตัวการไม่ใช่ผู้สนับสนุนการจำหน่ายเฮโรอีน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนการมีและจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นจำนวนเดียวกัน เป็นความผิดกรรมเดียวรวมทั้งการเอาตัวอย่างเฮโรอีนให้ดูอันเป็นส่วนหนึ่งของการขายเฮโรอีน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนการมีและจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นจำนวนเดียวกัน เป็นความผิดกรรมเดียวรวมทั้งการเอาตัวอย่างเฮโรอีนให้ดูอันเป็นส่วนหนึ่งของการขายเฮโรอีน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2626/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อบ้านโดยอ้างชื่อผู้อื่นและการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์ตกลงซื้อบ้านของผู้มีชื่อและมอบหมายให้จำเลยลงชื่อถือกรรมสิทธิ์แทนเพราะโจทก์เป็นสงฆ์ จำเลยก็จัดการรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านจากผู้มีชื่อมาตามความประสงค์ของโจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้ฟ้องขับไล่ผู้ดูแลบ้านดังกล่าวของโจทก์ให้ออกไปและเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าเป็นบ้านของจำเลย ดังนี้ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้หลอกลวงเอาเงินของโจทก์ไป ส่วนการที่จำเลยปฏิเสธกรรมสิทธิ์ของโจทก์ในภายหลัง ก็เป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่ง การกระทำของจำเลยไม่มีมูลเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2595/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพิสูจน์ลายมือชื่อในสัญญาซื้อขายมีผลผูกพันตามที่ตกลง หากผลพิสูจน์ตรงตามเงื่อนไข
คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญฯ พิสูจน์ลายมือชื่อผู้ขายในสัญญาซื้อขายซึ่งโจทก์อ้างเป็นพยานเอกสาร โดยตกลงกันว่าถ้าลายมือชื่อดังกล่าวไม่ใช่ของจำเลยโจทก์เป็นฝ่ายแพ้ หากผลตรงกันข้ามจำเลยเป็นฝ่ายแพ้ ดังนี้เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์แล้วลงความเห็นว่าลายมือชื่อผู้ขายน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยนั้น มีผลเท่ากับยืนยันว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยซึ่งตรงตามคำท้าของโจทก์จำเลยแล้ว โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2569/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บัญชีเดินสะพัด: การตัดบัญชีที่ถูกต้องและการฟ้องเรียกหนี้คงเหลือ ไม่เป็นลาภมิควรได้
ธนาคารนำเช็คของผู้อื่นเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยผิดไปธนาคารเพิกถอนรายการนั้นได้ จำเลยขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคาร ธนาคารอนุมัติ ถือเป็นบัญชีเดินสะพัดตาม มาตรา 856 จำเลยนำเงินเข้าและเบิกเงินไปตลอดมา ธนาคารเรียกเงินคงเหลือจากจำเลยเมื่อตัดทอนบัญชีเดินสะพัด ไม่ใช่ลาภมิควรได้ ไม่ใช้อายุความ 1 ปีตาม มาตรา 419
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่คุ้มครองราษฎรที่มีอาวุธของทางราชการ
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 5(1) ที่บัญญัติว่า "พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ (1) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนของราชการทหารและตำรวจ ฯลฯ" นั้น มีความหมายถึง อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ของทางราชการทหารหรือตำรวจ ที่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ มิได้มีความหมายเลยไปถึงราษฎรเช่นจำเลยซึ่งมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนของทางราชการตำรวจแล้วจะไม่เป็นความผิด จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองโดยบทบัญญัติมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2449/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องข้อหาใหม่ที่ไม่ต่อเนื่องจากฟ้องเดิม และการพิสูจน์ความผิดฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ
ฟ้องเดิมโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำผิดของจำเลยว่า เมื่อระหว่างวนที่ 18 ถึง 30 พฤศจิกายน 2518 จำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิ่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือเล่นพนันสลากกินรวบงวดวันที่ 20 เดือนเดียวกันด้วย การกำหนดวันออกสลากเป็นสารสำคัญของการเล่นสลากกินรวบ การเพิ่มข้อหาเข้ามาเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ซึ่งเป็นวันออกสลากขึ้นอีกงวดหนึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มข้อหาจำเลยว่ากระทำผิดขึ้นอีกกระทงหนึ่ง นอกเหนือไปจากการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2518 ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าได้มีการสอบปากคำพยานผู้ซื้อสลากจากจำเลยงวดวันที่ 201 พฤศจิกายน 2518 นั้น ก็เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จะถือว่าเป็นการสอบสวนจำเลยในข้อนี้หาได้ไม่