คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มงคล วัลยะเพ็ชร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานพระพุทธรูปอำพรางยาเสพติด: ยังไม่เป็นความพยายามนำออก
บรรจุเฮโรอีนใต้ฐานพระพุทธรูปไม้เพื่อนำออกนอกราชอาณาจักรถูกจับได้ก่อนออกเดินทาง 8 วัน ยังอยู่ในขั้นตระเตรียม ไม่เป็นพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2442/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเลือกชำระหนี้ตามคำพิพากษา: จำเลยมีสิทธิเลือกได้ว่าจะส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหาย
บรรยายฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบกระดาษจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายใน พฤติการณ์พิเศษ คือเสียหายหรือขาดทุนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่คำขอท้ายฟ้องมิได้ขอให้จำเลยส่งมอบกระดาษและชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์คงขอให้จำเลยส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหายและศาลพิพากษาให้ตามคำขอแล้ว หนี้ตามคำพิพากษาที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์จึงมี 2 อย่าง คือส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหายซึ่งจำเลยจะต้องกระทำเพียงอย่างเดียว สิทธิที่จะเลือกชำระหนี้ดังกล่าวย่อมตกแก่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198 หาใช่โจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2442/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเลือกชำระหนี้ตามคำพิพากษา: จำเลยมีสิทธิเลือกส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์ไม่มีสิทธิเลือก
บรรยายฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบกระดาษจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายในพฤติการณ์พิเศษ คือเสียหายหรือขาดทุนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่คำขอท้ายฟ้องมิได้ขอให้จำเลยส่งมอบกระดาษและชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์คงขอให้จำเลยส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหาย และศาลพิพากษาให้ตามคำขอแล้วหนี้ตามคำพิพากษาที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์จึงมี 2 อย่าง คือส่งมอบกระดาษหรือชดใช้ค่าเสียหายซึ่งจำเลยจะต้องกระทำเพียงอย่างเดียว สิทธิที่จะเลือกชำระหนี้ดังกล่าวย่อมตกแก่จำเลย ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198 หาใช่โจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อการประสบอันตรายของลูกจ้างขณะเดินทางไปทำงาน ต้องเป็นการเดินทางตามคำสั่งหรือเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง
ลูกจ้างมีหน้าที่เดินตลาดและเก็บเงินจากลูกค้า นายจ้างมอบรถจักรยานยนต์ไว้ให้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ดูแลรักษาและอนุญาตให้นำรถกลับบ้านและขับมาทำงานที่สำนักงานด้วย ขณะที่ลูกจ้างประสบอันตรายนั้นเป็นเวลาที่ลูกจ้างขับรถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปสำนักงานเพื่อปฏิบัติงานตามปกติ มิได้ประสบอันตรายในขณะที่กำลังเดินทางไปหรือกลับจากการปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายจ้าง จึงมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง และมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่ออุบัติเหตุลูกจ้างขณะเดินทางไปทำงาน การคุ้มครองแรงงาน
ลูกจ้างมีหน้าที่เดินตลาดและเก็บเงินจากลูกค้า นายจ้างมอบรถจักรยานยนต์ไว้ให้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ดูแลรักษาและอนุญาตให้นำรถกลับบ้านและขับมาทำงานที่สำนักงานด้วย ขณะที่ลูกจ้างประสบอันตรายนั้นเป็นเวลาที่ลูกจ้างขับรถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปสำนักงานเพื่อปฏิบัติงานตามปกติ มิได้ประสบอันตรายในขณะที่กำลังเดินทางไปหรือกลับจากการปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายจ้าง จึงมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง และมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2375/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดีแทน สามีให้ความยินยอมแล้ว ไม่ต้องยินยอมซ้ำ
หญิงมีสามีได้รับความยินยอมจากสามีให้ฟ้องคดีแล้วหญิงมีสามีมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นโจทก์แทนได้ โดยสามีไม่ต้องยินยอมซ้ำอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2363/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเครื่องหมายการค้า: การใช้ก่อนจดทะเบียนและการเรียกร้องค่าเสียหาย
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้า UMATCO มาก่อน จำเลยไม่มีสิทธิคัดค้านการที่โจทก์ขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน แต่โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพราะละเมิดสิทธิเครื่องหมายการค้า หรือบังคับให้ถอนสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ก่อนที่โจทก์ได้จดทะเบียน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมฯ 3 ปี และอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องมีใจความว่า ตำราเรียนภาษาอังกฤษรายพิพาทนั้นโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จำเลยปลอมแปลงลอกเลียนออกจำหน่าย เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องเรียกค่าเสียหายในการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 มาตรา 24 อันเป็นบทบัญญัติอยู่ในส่วนแพ่ง คือส่วนที่ 4 ว่าด้วยสิทธิแก้ในทางแพ่งซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์บัญญัติว่า "คดีละเมิดลิขสิทธิ์นั้นท่านมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสามปีนับแต่วันละเมิด" จึงต้องใช้อายุความสามปีดังกล่าวมาบังคับ จำเลยการทำการละเมิดลิขสิทธิ์คือขายหนังสือที่คัดลอกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2515 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2516 คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมฯ และอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องมีใจความว่า ตำราเรียนภาษาอังกฤษรายพิพาทนั้นโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จำเลยปลอมแปลงลอกเลียนออกจำหน่าย เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องเรียกค่าเสียหายในการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพ.ศ.2474 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 มาตรา 24 อันเป็นบทบัญญัติอยู่ในส่วนแพ่ง คือส่วนที่ 4 ว่าด้วยสิทธิแก้ในทางแพ่งซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์บัญญัติว่า "คดีละเมิดลิขสิทธิ์นั้นท่านมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสามปีนับแต่วันละเมิด" จึงต้องใช้อายุความสามปีดังกล่าวมาบังคับ จำเลยกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์คือขายหนังสือที่คัดลอกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2515 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2516 คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินหลังสัญญาขายฝากไม่ไถ่ โดยการครอบครองเพื่อตนเองของผู้อื่น
โจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 ขายฝากที่พิพาทแก่จำเลยที่ 1 แม้การขายฝากไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันว่าถ้าฝ่ายโจทก์ผู้ขายไม่ไถ่คืนภายในกำหนด 2 ปี ให้ที่พิพาทตกเป็นของจำเลยที่ 1 เห็นได้ว่าฝ่ายโจทก์ได้สละสิทธิครอบครองซึ่งมีอยู่ในที่พิพาทให้จำเลยที่ 1 ไว้ล่วงหน้าโดยเด็ดขาดตั้งแต่วันพ้นกำหนด 2 ปีแล้ว และจำเลยที่ 1 ได้ยึดถือครอบครองที่พิพาทเพื่อตนโดยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่วันพ้นกำหนด 2 ปีเช่นกัน เมื่อที่พิพาทไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์จำเลยที่ 1 จึงได้สิทธิครอบครองนับแต่วันพ้นกำหนดนั้น
of 65