พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2455/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นักศึกษาครอบครองเฮโรอีน ศาลรอการลงโทษจำคุก
ศาลจำคุกจำเลย 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ฐานมีเฮโรอีนตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 20 ตรี ต้องโทษจำคุกมาแล้ว7 เดือน จำเลยเป็นนักศึกษา ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2357/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการแจ้งข้อหาที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังหรือเครื่องพันธนาการหากผู้ต้องหายอมไป
ตำรวจจับผู้กระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 ผู้ถูกจับยอม ไปกับตำรวจ ก็ไม่จำเป็นต้องจับตัวไปและไม่ต้องใช้เครื่องพันธนาการ เพียงแต่แจ้งข้อหาและบอกให้ไปสถานีตำรวจก็เป็นการจับแล้ว บันทึกการจับจะทำตรงที่จับหรือทำที่ใดก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาต่างตอบแทน มีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สัญญารายพิพาทเรียกว่าสัญญารับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาระหว่างโจทก์ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้ฝากกับโรงสี ม. โดยจำเลยผู้เป็นเจ้าของและผู้จัดการ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้รับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าว โดยผู้รับฝากฯ ตกลงจะรับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกทุกชนิดของผู้ฝาก และผู้รับฝากจะส่งมอบข้าวกลับคืนให้แก่ผู้ฝากเป็นข้าวสารตามชนิด จำนวนและระยะเวลาที่คณะกรรมการสำรองข้าวสั่ง โดยผู้ฝากให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้รับฝากเป็นต้นข้าวปลายข้าวและรำข้าวที่เหลือจากการส่งให้แก่ผู้ฝาก สัญญาเช่นนี้หาใช่สัญญาฝากทรัพย์ไม่ แต่เป็นสัญญาที่จำเลยตกลงรับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้เพื่อสีแปรสภาพจนสำเร็จเป็นข้าวสารให้แก่โจทก์และโจทก์ตกลงให้ต้นข้าว ปลายข้าว และรำข้าวเป็นการตอบแทนที่จำเลยสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักษณะของสัญญาและอายุความ สัญญาฝากทรัพย์ vs สัญญาต่างตอบแทน
สัญญารายพิพาทเรียกว่าสัญญารับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาระหว่างโจทก์ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้ฝากกับโรงสี ม. โดยจำเลยผู้เป็นเจ้าของและผู้จัดการ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้รับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าว โดยผู้รับฝากฯ ตกลงจะรับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกทุกชนิดของผู้ฝาก และผู้รับฝากจะส่งมอบข้าวกลับคืนให้แก่ผู้ฝากเป็นข้าวสารตามชนิด จำนวนและระยะเวลาที่คณะกรรมการสำรองข้าวสั่ง โดยผู้ฝากให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้รับฝากเป็นต้นข้าวปลาย ข้าวและรำข้าวที่เหลือจากการส่งให้แก่ผู้ฝาก สัญญาเช่นนี้หาใช้สัญญาฝากทรัพย์ไม่ แต่เป็นสัญญาที่จำเลยตกลงรับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้เพื่อสีแปรสภาพจนสำเร็จเป็นข้าวสารให้แก่โจทก์และโจทก์ตกลงให้ต้นข้าว ปลายข้าว และรำข้าวเป็นการตอบแทนที่จำเลยสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่ง ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2068/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดฐานซื้อและมีอาวุธปืน การกระทำต่อเนื่องกันถือเป็นกรรมเดียว
ซื้ออาวุธปืนแล้วมีอาวุธปืนนั้นไว้ในครอบครอง เป็นความผิดกรรมเดียว ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2043/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องถูกจำกัดเมื่อคำสั่งฝ่ายบริหารและคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดมีผลผูกพันทางกฎหมาย
คำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ริบทรัพย์สิน สั่งตามอำนาจในธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.2515 มาตรา 17 ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในเวลานั้น ไม่ขัดแย้งและไม่ต้องวินิจฉัยตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอีก
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ ชั้นฎีกาโจทก์ขอให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ เสียค่าขึ้นศาล 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ไม่ใช่เสียตามทุนทรัพย์
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ ชั้นฎีกาโจทก์ขอให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ เสียค่าขึ้นศาล 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ไม่ใช่เสียตามทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2034/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ โจทก์มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตามกฎหมายนับแต่วันผิดนัด
จำเลยกู้เงินโจทก์โดยโจทก์เรียกดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาท ต่อสัปดาห์เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ดังนี้ ดอกเบี้ยนั้นตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะได้รับดอกเบี้ยนั้นตั้งแต่วันทำสัญญาแต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปจำนวนหนึ่ง ยังไม่ชำระและตามสัญญากู้ได้ระบุวันชำระหนี้ไว้โจทก์ชอบที่จะได้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในฐานะนายจ้าง: สัญญาจ้างทำของ vs. สัญญาจ้างแรงงาน และขอบเขตความรับผิดต่อการกระทำละเมิดของผู้อื่น
จำเลยที่ 14 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ. ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ. ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้างพ. ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ. จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ต้องรับผิดในละเมิดของผู้อื่นเมื่อจ้างทำของ ไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง
จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้าง พ.ไปยึดรถคันดังกล่าวคืนมา พ.ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ทำการยึดอีกต่อหนึ่ง เมื่อยึดรถได้แล้วจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อมอบให้ พ. ระหว่างทางจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 จ้าง พ.ไปยึดรถยนต์เป็นการจ้างทำของมิใช่จ้างแรงงาน เพราะเป็นการถือเอาความสำเร็จของงานเป็นวัตถุประสงค์ของสัญญา มิใช่สัญญาระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง เมื่อ พ.จ้างจำเลยที่ 2 ไปยึดรถอีกต่อหนึ่ง จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อยู่ในฐานะนายจ้างและไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททางจราจร: รถทางเอกต้องชะลอความเร็ว แม้ทางโทผิดก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
รถจำเลยที่ 2 ออกจากทางโทต้องระวังให้รถจำเลยที่ 1 ในทางเอกผ่านไปก่อน แต่รถในทางเอกก็ต้องชะลอความเร็วลง รถทั้งสองชนกันในทางเอก รถในทางเอกเลยไปชนรถโจทก์เสียหาย รถทั้งสองต้องร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แต่ศาลให้รถจำเลยที่ 1 รับผิดหนึ่งในสาม