คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สงวน สิทธิไชย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 575 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้บรรยายรายละเอียดข้อสำคัญในคดีที่จำเลยเบิกความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา คำบรรยายฟ้องของโจทก์เข้าใจได้แต่เพียงว่าจำเลยเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีอาญาซึ่ง ส.ถูกฟ้องฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยสุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเท่านั้น ส. กระทำการอย่างใดอันเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตโจทก์มิได้บรรยายมาในฟ้อง จึงไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลดังกล่าวนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีที่ ส. ถูกฟ้องนั้นหรือไม่ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ความรับผิดของผู้เช่าซื้อกรณีทรัพย์สินสูญหาย และการชำระค่าเช่าซื้อให้ครบถ้วน
สัญญาเช่าซื้อกำหนดไว้ว่า "ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย อัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด ถูกยึด หรือถูกริบไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียวและจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที ยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน ยอมซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม และยอมชำระค่าเช่าซื้อจนครบ......" ตามข้อสัญญาดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่าในกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัย หรือ โดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อ (จำเลย) ยอมรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ แม้ตามสัญญาข้อนี้จะเรียกว่าค่าเช่าซื้อก็ตามแต่ก็มิได้ระบุให้ผู้เช่าซื้อผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ดังกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าซื้อไม่สูญหาย ด้วยเหตุนี้ความหมายของคำว่า "ยอมชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ" จึงมีเพียงว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามที่ระบุไว้ในสัญญา เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังได้รับชำระเงินไม่ครบตามราคาค่าเช่าซื้อที่ตกลงกับจำเลยจึงต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ให้แก่โจทก์จนครบ (อ้างฎีกา 1404/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากการยอมรับเช็คจากบุคคลที่สาม ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระราคาสินค้าที่ตกลงซื้อจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นต่อมาฝ่ายจำเลยติดต่อขายสินค้านั้นต่อให้กับ พ. และโจทก์ยอมรับเช็คจาก พ. ไว้เป็นการชำระราคาสินค้าที่ส่งขายให้แก่จำเลยไว้เดิมเช่นนี้แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอา พ. เข้าเป็นลูกหนี้แทนที่จำเลยลูกหนี้เดิมแล้ว ย่อมเป็นการแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 350 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์อีก เพราะไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องกันได้ต่อไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากจำเลยเป็นบุคคลที่สามจากการยอมรับเช็คใหม่ ย่อมตัดภาระหนี้เดิม
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระราคาสินค้าที่ตกลงซื้อจากโจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น ต่อมาฝ่ายจำเลยติดต่อขายสินค้านั้นต่อให้กับ พ. และโจทก์ยอมรับเช็คจาก พ. ไว้เป็นการชำระราคาสินค้าที่ส่งขายให้แก่จำเลยไว้เดิม เช่นนี้แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอา พ. เข้าเป็นลูกหนี้แทนที่จำเลยลูกหนี้เดิมแล้ว ย่อมเป็นการแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์อีก เพราะไม่มีลูกหนี้ที่จะเรียกร้องกันได้ต่อไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตให้เช่าช่วงด้วยวาจา แม้สัญญาจะกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร สัญญาเดิมสละผลไปแล้ว ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา
สัญญาเช่าระบุว่าผู้เช่าจะไม่ให้เช่าช่วง เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ให้เช่าอนุญาตด้วยวาจาเป็นการสละเงื่อนไขที่ให้อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้เช่าไม่ผิดสัญญาเช่าในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมแล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยจำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ขับรถประมาท โจทก์เป็นฝ่ายประมาท จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยตามฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยว่าไม่ชอบอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมแล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ขับรถประมาท โจทก์เป็นฝ่ายประมาท จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยตามฟ้องแย้ง ดังนี้ จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยว่าไม่ชอบอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดุลพินิจเจ้าพนักงานในการสั่งริบเครื่องวัดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และสิทธิของเจ้าของเครื่องวัด
มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ.2466บัญญัติให้เป็นดุลพินิจและอำนาจของเจ้าพนักงานโดยเฉพาะที่จะสั่งให้คืนเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์ในเมื่อเห็นว่าพอจะแก้ไขให้ถูกต้องได้หรือสั่งให้ริบหรือทำลายจนสิ้นเชิงเมื่อเห็นว่าทำไม่ถูกต้องและจะแก้ไขด้วยประการใด ๆ ที่สมควรก็ทำให้ถูกต้องไม่ได้
โจทก์ส่งเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าไปให้จำเลยรับรอง เมื่อเจ้าพนักงานได้ตรวจสอบและเห็นว่าเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์ไม่ถูกต้องและไม่อาจแก้ไขให้ดีได้และได้ใช้ดุลพินิจสั่งริบเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์แล้ว โจทก์จะขอให้ศาลสั่งเป็นอย่างอื่นโดยไม่มีข้ออ้างว่าเจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจไม่สุจริตหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานชั่งตวงวัดในการสั่งริบเครื่องวัดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และสิทธิของเจ้าของเครื่องวัด
มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติมาตรา ชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 บัญญัติให้เป็นดุลพินิจและอำนาจของเจ้าพนักงานโดยเฉพาะที่จะสั่งให้คืนเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์ในเมื่อเห็นว่าพอจะแก้ไขให้ถูกต้องได้ หรือสั่งให้ริบหรือทำลายจนสิ้นเชิงเมื่อเห็นว่าทำไม่ถูกต้องและจะแก้ไขด้วยประการใด ๆ ที่สมควรก็ทำให้ถูกต้องไม่ได้
โจทก์ส่งเครื่องวัดชนิดลายแถบผ้าไปให้จำเลยรับรอง เมื่อเจ้าพนักงานได้ตรวจสอบและเห็นว่าเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์ไม่ถูกต้องและไม่อาจแก้ไขให้ดีได้และได้ใช้ดุลพินิจสั่งริบเครื่องวัดชนิดสายแถบผ้าของโจทก์แล้ว โจทก์จะขอให้ศาลสั่งเป็นอย่างอื่นโดยไม่มีข้ออ้างว่าเจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจไม่สุจริตหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183-184/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทสัญญาทำถังขยะ: การชำระหนี้ค่าจ้าง, ค่าเสียหายจากการผิดสัญญา, และการคืนเช็ค
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 คืนเงินค่าจ้างและชำระค่าปรับรวมเป็นเงิน 243,510 บาท ให้จำเลยทั้งสอง โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยทั้งสองไม่อุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลชั้นต้นบังคับให้โจทก์ที่2 ที่ 3 ชดใช้ให้จำเลยดังกล่าว จำเลยทั้งสองอุทธรณ์เฉพาะในประเด็นที่ว่า ศาลชั้นต้นมิได้บังคับให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 ใช้ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาและมิได้บังคับให้โจทก์ที่ 1 ที่ 4 คืนเช็คให้จำเลยทั้งสองเป็นการไม่ชอบดังนี้ ประเด็นที่ว่าโจทก์ที่ 2 ที่ 3 จะต้องคืนเงินค่าจ้างให้กับจำเลยเท่าใดจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 คืนเงินค่าจ้างให้จำเลยเพิ่มขึ้น หรือลดลงผิดไปจากที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดแล้วหาได้ไม่เพราะเป็นการวินิจฉัยในประเด็นที่คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์
of 58