คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิทูร เทพพิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 665 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าอาวาสของพระภิกษุ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
พระภิกษุจำเลยไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เวลาไปไหนไม่ลาเจ้าอาวาส นำบุคคลภายนอกและพระภิกษุวัดอื่นมาพำนักในกุฏิจำเลยโดยไม่บอกเจ้าอาวาสไม่ปฏิบัติกิจทางสงฆ์ตามที่เจ้าอาวาสบอก เจ้าอาวาสจึงออกคำสั่งให้จำเลยออกไปจากวัดภายใน 5 วัน จำเลยทราบแล้ว ครบกำหนดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุข้อเท็จจริง/ข้อกฎหมายในอุทธรณ์ต้องทำโดยตรง การอ้างอิงเอกสารในสำนวนไม่ถือว่าเป็นการระบุตามกฎหมาย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 มีความหมายชัดเจนอยู่แล้วว่า ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่คู่ความผู้อุทธรณ์ประสงค์จะยกขึ้นเป็นข้อคัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ระบุไว้ในอุทธรณ์ การที่จำเลยระบุในอุทธรณ์เพียงว่า ขอให้ถือเอาคำแถลงปิดสำนวนในศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิจารณาวินิจฉัยมาแล้วเป็นส่วนหนึ่งของอุทธรณ์ เป็นการอ้างถึงเอกสารฉบับอื่น แม้จะอยู่ในสำนวนก็มิใช่การระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในอุทธรณ์ อุทธรณ์เช่นนี้ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยในส่วนนี้จึงเป็นการชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คที่ไม่มีเงินในบัญชี ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ แต่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยนำเอาแบบพิมพ์ที่มีรายการระบุว่าเป็นเช็ค ระบุชื่อธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเล่งเน่ยยี่ หมายเลขบี 10105906 มา กรอกรายการและเซ็นชื่อของจำเลยออกให้แก่ผู้เสียหาย โดยจำเลยไม่มีเงินฝากในธนาคารศรีนคร จำกัด ดังนี้ ไม่เป็นการปลอมเอกสารสิทธิเพราะจำเลยลงชื่อของจำเลยเอง มิได้ปลอมลายมือชื่อของผู้ใดและการสั่งจ่ายเงินโดยไม่มีเงินฝากหรือมีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับธนาคารนั้นฯ ก็ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำเอาเช็คระบุชื่อธนาคารศรีนคร จำกัดสาขาเล่งเน่ยยี่ สั่งจ่ายเงิน 4,000 บาทมาใช้แก่ผู้เสียหายอันเป็นเอกสารสิทธิและเป็นตั๋วเงินปลอม ซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับแต่ฎีกาว่า "เช็คของกลางเป็นเช็คที่มีผู้อื่นจัดพิมพ์ขึ้นโดยเลียนแบบเช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเล่งเน่ยยี่ เช็คของกลางจึงเป็นเช็คปลอมโดยเป็นการปลอมเช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเล่งเน่ยยี่ขึ้นทั้งฉบับ" ข้อความตามฎีกาโจทก์ดังนี้มิได้กล่าวในฟ้อง ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ หากลงชื่อตนเอง
จำเลยนำเอาแบบพิมพ์ที่มีรายการระบุว่าเป็นเช็ค ระบุชื่อธนาคารศรีนครจำกัดสาขาเล่งเน่ยยี่หมายเลขบี 10105906 มากรอกรายการและเซ็นชื่อของจำเลยออกให้แก่ผู้เสียหาย โดยจำเลยไม่มีเงินฝากในธนาคารศรีนคร จำกัดดังนี้ ไม่เป็นการปลอมเอกสารสิทธิ เพราะจำเลยลงชื่อของจำเลยเอง มิได้ปลอมลายมือชื่อของผู้ใด และการสั่งจ่ายเงินโดยไม่มีเงินฝากหรือมีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับธนาคารนั้นฯ ก็ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำเอาเช็คระบุชื่อธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเล่งเน่ยยี่ สั่งจ่ายเงิน 4,000 บาทมาใช้แก่ผู้เสียหายอันเป็นเอกสารสิทธิและเป็นตั๋วเงินปลอม ซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ แต่ฎีกาว่า "เช็คของกลางเป็นเช็คที่มีผู้อื่นจัดพิมพ์ขึ้นโดยเลียนแบบเช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเล่งเน่ยยี่ เช็คของกลางจึงเป็นเช็คปลอมโดยเป็นการปลอมเช็คของธนาคารศรีนครจำกัดสาขาเล่งเน่ยยี่ขึ้นทั้งฉบับ" ข้อความตามฎีกาโจทก์ดังนี้มิได้กล่าวในฟ้องศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่าจากการขว้างระเบิดขวด: ศาลฎีกาวินิจฉัยความร้ายแรงของอาวุธและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ระเบิดขวดเป็นอาวุธที่มีดินระเบิดบรรจุอยู่ในขวด เมื่อขว้างไปกระทบกับของแข็งขวดแตกระเบิดเป็นชิ้นๆ แหลมคมกระจายไป เมื่อถูกร่างกายย่อมทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายถึงบาดเจ็บ จำเลยขว้างระเบิดขวด ผู้เสียหายคนหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและโหนกแก้ม บาดแผลมีลักษณะเพียงถลอก ไม่ปรากฏว่าสะเก็ดระเบิดถูกโดยตรงหรือเฉี่ยวไป แต่ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ที่เอว เห็นได้ว่าระเบิดขวดนี้มีความร้ายแรงมาก หากสะเก็ดระเบิดนั้นถูกอวัยวะสำคัญอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ไม่ใช่เพียงทำร้ายร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่าจากการขว้างระเบิดขวด ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
ระเบิดขวดเป็นอาวุธที่มีดินระเบิดบรรจุอยู่ในขวดเมื่อขว้างไปกระทบกับของแข็งขวดแตกระเบิดเป็นชิ้นๆ แหลมคมกระจายไป เมื่อถูกร่างกายย่อมทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายถึงบาดเจ็บจำเลยขว้างระเบิดขวด ผู้เสียหายคนหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและโหนกแก้ม บาดแผลมีลักษณะเพียงถลอก ไม่ปรากฏว่าสะเก็ดระเบิดถูกโดยตรงหรือเฉี่ยวไป แต่ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ที่เอว เห็นได้ว่าระเบิดขวดนี้มีความร้ายแรงมากหากสะเก็ดระเบิดนั้นถูกอวัยวะสำคัญอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ไม่ใช่เพียงทำร้ายร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ เจ้าของมีสิทธิทำลายได้ ไม่ถือเป็นความเสียหาย
จำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ร่วมไปจัดการขายที่ดิน แต่เป็นหนังสือมอบอำนาจที่ใช้ไม่ได้. เนื่องจากมีรอยขีดฆ่า และไม่ได้เซ็นชื่อกำกับข้อความเกี่ยวกับการรับเงิน ถือว่าหนังสือมอบอำนาจนี้ยังเป็นเอกสารของจำเลยอยู่ แม้จะได้มอบให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ ก็เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับดำเนินการไปตามที่มอบอำนาจเท่านั้น แต่เมื่อการมอบอำนาจของจำเลยไม่เป็นผล หนังสือมอบอำนาจนั้นก็เป็นอันหมดประโยชน์แก่โจทก์ร่วมแล้วจำเลยผู้เป็นเจ้าของย่อมจะฉีกหรือทำลายเสียได้ การที่จะอ้างว่าที่จำเลยฉีกทำลายเสียทำให้โจทก์ร่วมไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าจำเลยได้ขายที่ดินคืนให้โจทก์ร่วมแล้ว ทำให้โจทก์ร่วมเสียหายนั้นหาได้ไม่ เพราะแม้ในหนังสือมอบอำนาจนั้นจะมีข้อความถึงการรับเงินด้วย ก็อาจใช้ยันจำเลยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่รับรองว่าถูกต้อง เรื่องการรับเงินความจริงเป็นอย่างไร โจทก์ร่วมย่อมนำสืบในทางแพ่งได้อยู่ หาได้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมไม่ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจใช้ไม่ได้ เจ้าของมีสิทธิทำลายได้ ไม่ถือเป็นความเสียหาย
จำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ร่วมไปจัดการขายที่ดินแต่เป็นหนังสือมอบอำนาจที่ใช้ไม่ได้. เนื่องจากมีรอยขีดฆ่า และไม่ได้เซ็นชื่อกำกับข้อความเกี่ยวกับการรับเงิน ถือว่าหนังสือมอบอำนาจนี้ยังเป็นเอกสารของจำเลยอยู่ แม้จะได้มอบให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ก็เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับดำเนินการไปตามที่มอบอำนาจเท่านั้นแต่เมื่อการมอบอำนาจของจำเลยไม่เป็นผล หนังสือมอบอำนาจนั้นก็เป็นอันหมดประโยชน์แก่โจทก์ร่วมแล้วจำเลยผู้เป็นเจ้าของย่อมจะฉีกหรือทำลายเสียได้ การที่จะอ้างว่าที่จำเลยฉีกทำลายเสียทำให้โจทก์ร่วมไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าจำเลยได้ขายที่ดินคืนให้โจทก์ร่วมแล้ว ทำให้โจทก์ร่วมเสียหายนั้น หาได้ไม่ เพราะแม้ในหนังสือมอบอำนาจนั้นจะมีข้อความถึงการรับเงินด้วยก็อาจใช้ยันจำเลยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่รับรองว่าถูกต้องเรื่องการรับเงินความจริงเป็นอย่างไร โจทก์ร่วมย่อมนำสืบในทางแพ่งได้อยู่ หาได้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมไม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3218/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมรวบรวมทรัพย์สินในคดีล้มละลายเมื่อถอนฟ้อง: ผู้รับผิดและอัตราการคำนวณ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายและยื่นคำร้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราวแล้ว โจทก์ก็เป็นผู้ติดตามแจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการเรียกทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้เป็นจำเลยจากกองบังคับคดีแพ่งมารวบรวมไว้ในคดีล้มละลายต่อมาโจทก์ถอนฟ้อง ซึ่งศาลอนุญาตและจำหน่ายคดีไปแล้วบรรดากิจการที่ได้ดำเนินมาย่อมต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมเงินจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับมาก็ต้องคืนให้กองบังคับคดีแพ่ง และถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลายที่จะนำมาใช้จ่ายได้ โจทก์จึงต้องเป็นผู้รับผิดในค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์เองตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 155 แต่การคิดค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินเมื่อเงินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับมาต้องส่งคืนไปไม่มีการจำหน่ายจึงต้องคิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละสามครึ่งของราคาทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 179(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3218/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมรวบรวมทรัพย์สินในคดีล้มละลายเมื่อถอนฟ้อง ผู้ใดเป็นผู้รับผิดและอัตราค่าธรรมเนียมที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย และยื่นคำร้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราวแล้ว โจทก์ก็เป็นผู้ติดตามแจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการเรียกทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้เป็นจำเลยจากกองบังคับคดีแพ่งมารวบรวมไว้ในคดีล้มละลาย ต่อมาโจทก์ถอนฟ้อง ซึ่งศาลอนุญาตและจำหน่ายคดีไปแล้ว บรรดากิจการที่ได้ดำเนินมาย่อมต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม เงินจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับมาก็ต้องคืนให้กองบังคับคดีแพ่ง และถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลายที่จะนำมาใช้จ่ายได้ โจทก์จึงต้องเป็นผู้รับผิดในค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์เองตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 155 แต่การคิดค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สิน เมื่อเงินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับมาต้องส่งคืนไป ไม่มีการจำหน่ายจึงต้องคิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละสามครึ่งของราคาทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 179(3)
of 67