พบผลลัพธ์ทั้งหมด 665 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669-1672/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การรับโอนสิทธิพร้อมกิจการค้า และการละเมิดสิทธิเมื่อสั่งนำเข้าก่อนการรับโอน
แม้โจทก์จะมิใช่ผู้ประดิษฐ์หรือผลิตสินค้าชนิดที่มีเครื่องหมายการค้ารายพิพาทแต่เมื่อโจทก์รับโอนเครื่องหมายการค้ารายพิพาทจากเจ้าของเดิมไว้พร้อมกับรับโอนกิจการค้าอื่นเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้ารายพิพาทนับแต่วันรับโอนมาและจดทะเบียนการรับโอนไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะทำการค้าและเสนอสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้ารายพิพาทตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 3,27
จำเลยสั่งเครื่องพิมพ์ที่มีเครื่องหมายการค้ารายพิพาทมาขายในประเทศไทยก่อนโจทก์รับโอนเครื่องหมายการค้ารายพิพาทและกิจการค้าเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้ารายพิพาทมาจากเจ้าของเดิมไม่ถือว่าจำเลยละเมิดสิทธิของโจทก์
จำเลยสั่งเครื่องพิมพ์ที่มีเครื่องหมายการค้ารายพิพาทมาขายในประเทศไทยก่อนโจทก์รับโอนเครื่องหมายการค้ารายพิพาทและกิจการค้าเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้ารายพิพาทมาจากเจ้าของเดิมไม่ถือว่าจำเลยละเมิดสิทธิของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่ แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่นายจ้างไว้วางใจ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปเดินสายไฟฟ้าในวัดแห่งหนึ่ง จำเลยที่ 1 เดินสายไฟฟ้าเสร็จแล้วไม่กลับทันที ได้ขับรถออกนอกเส้นทางไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา แล้วจึงขับรถกลับระหว่างทางขับรถประมาทชนร้านค้าของ บ. ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงของโจทก์เสียหายด้วยดังนี้ยังถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่ แต่ยังอยู่ในขอบเขตความไว้วางใจ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปเดินสายไฟฟ้าในวัดแห่งหนึ่ง จำเลยที่ 1 เดินสายไฟฟ้าเสร็จแล้วไม่กลับทันที ได้ขับรถออกนอกเส้นทางไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา แล้วจึงขับรถกลับระหว่างทางขับรถประมาทชนร้านค้าของ บ. ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงของโจทก์เสียหายด้วย ดังนี้ ยังถือได้ว่า เป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งนัดพยานและการถอนตัวทนาย: ศาลต้องแจ้งนัดให้โจทก์ทราบก่อนถือว่าไม่มีพยาน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งโจทก์ไม่ได้มาศาลทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นพยาน ศาลสั่งให้คำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายว่า สำเนาให้โจทก์ เช่นนี้ สมควรให้โจทก์ ทราบเรื่องทนาย ขอถอนตัวโดยเลื่อนคดีไปก่อน การที่ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบนัด เป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งนัดสืบพยานและการถอนตัวทนาย: ศาลต้องแจ้งนัดให้โจทก์ทราบก่อนถือว่าไม่มีพยาน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งโจทก์ไม่ได้มาศาล ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนาย ศาลสั่งในคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายว่า สำเนาให้โจทก์ เช่นนี้สมควรให้โจทก์ทราบเรื่องทนายขอถอนตัวโดยเลื่อนคดีไปก่อน การที่ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบนัด เป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462-1463/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารต้องรับผิดต่อการจ่ายเงินจากบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับคำสั่ง และการร้องทุกข์แทนธนาคารไม่ระงับเมื่อผู้มอบอำนาจถึงแก่ความตาย
พนักงานของธนาคารซึ่งเป็นผู้แทนของธนาคาร จ่ายเงินจากบัญชีของลูกค้าไปโดยลูกค้าไม่ได้สั่ง ธนาคารตัวการต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินจำนวนที่พนักงานของตนจ่ายจากบัญชีของลูกค้า การที่จำเลยร่วมกันนำเช็คซึ่งปลอมลายมือชื่อลูกค้าไปเบิกเงินจากธนาคารย่อมได้ชื่อว่ากระทำให้ธนาคารเสียหาย ธนาคารจึงเป็นผู้เสียหาย
ผู้จัดการธนาคารสำนักงานใหญ่มอบอำนาจให้ บ. ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้จัดการของธนาคาร มิใช่มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ในฐานะส่วนตัว เมื่อ บ. ไปร้องทุกข์ไว้ถือได้ว่าธนาคารได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ดังนั้นแม้ผู้จัดการตาย กรณีก็ไม่ใช่ลักษณะสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อันจะเป็นเหตุอ้างว่า บ. ไม่มีอำนาจร้องทุกข์
ผู้จัดการธนาคารสำนักงานใหญ่มอบอำนาจให้ บ. ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้จัดการของธนาคาร มิใช่มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ในฐานะส่วนตัว เมื่อ บ. ไปร้องทุกข์ไว้ถือได้ว่าธนาคารได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ดังนั้นแม้ผู้จัดการตาย กรณีก็ไม่ใช่ลักษณะสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อันจะเป็นเหตุอ้างว่า บ. ไม่มีอำนาจร้องทุกข์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462-1463/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารต้องรับผิดต่อความเสียหายจากเช็คปลอม และอำนาจร้องทุกข์ย่อมเป็นของธนาคาร ไม่ใช่ตัวแทน แม้ตัวแทนเสียชีวิต
พนักงานของธนาคารซึ่งเป็นผู้แทนของธนาคาร จ่ายเงินจากบัญชีของลูกค้าไปโดยลูกค้าไม่ได้สั่ง ธนาคารตัวการต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินจำนวนที่พนักงานของคนจ่ายจากบัญชีลูกค้า การที่จำเลยร่วมกันนำเช็คซึ่งปลอมลายมือชื่อลูกค้าไปเบิกเงินจากธนาคารย่อมได้ชื่อว่ากระทำให้ธนาคารเสียหาย ธนาคารจึงเป็นผู้เสียหาย
ผู้จัดการธนาคารสำนักงานใหญ่มอบอำนาจให้ บ. ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้จัดการของธนาคาร มิใช่มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ไปฐานะส่วนตัว เมื่อ บ.ไปร้องทุกข์ไว้ ถือได้ว่าธนาคารได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ดังนั้น แม้ผู้จัดการตาาย กรณีก็ไม่ใช่ลักษณะสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อันจะเป็นเหตุอ้างว่า บ. ไม่มีอำนาจร้องทุกข์
ผู้จัดการธนาคารสำนักงานใหญ่มอบอำนาจให้ บ. ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้จัดการของธนาคาร มิใช่มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ไปฐานะส่วนตัว เมื่อ บ.ไปร้องทุกข์ไว้ ถือได้ว่าธนาคารได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ดังนั้น แม้ผู้จัดการตาาย กรณีก็ไม่ใช่ลักษณะสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อันจะเป็นเหตุอ้างว่า บ. ไม่มีอำนาจร้องทุกข์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448-1449/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 "นา" หมายความว่าที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ ส่วนคำว่า "พืชไร่" นั้น หมายความว่า พืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นอย่างหนึ่ง กับพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนอีกอย่างหนึ่ง
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ภาษีอากร: ภรรยาไม่สามารถอุทธรณ์แทนสามีผู้ป่วยได้ แม้สามีจะใช้สิทธิไม่ได้
ผู้ต้องเสียภาษีป่วย ไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถใช้สิทธิทางศาลเพื่ออุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่วินิจฉัยให้ผู้ต้องเสียภาษีชำระภาษีอากรและเงินเพิ่มได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยาจึงยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ดังนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่ามีการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลรัษฎากรเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้ต้องเสียภาษีอากร และการที่ผู้ร้องขอใช้สิทธิทางศาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าปรับตามสัญญาซื้อขาย: ค่าปรับคิดจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบเท่านั้น
โจทก์จำเลยแลกเปลี่ยนเครื่องยนต์อากาศยานกัน โดยโจทก์ต้องส่งมอบเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ให้จำเลย จำเลยต้องส่งเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ใช้แล้วให้โจทก์ โจทก์ได้ส่งเครื่องยนต์ให้จำเลยภายในกำหนดสัญญาแต่ส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้ว สัญญาข้อ 8 มีว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบทรัพย์ครบจำนวน ผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาได้และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่น เต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่ง ผู้ขายต้องยอมรับผิดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น และข้อ 9 ว่าในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน อัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่รับมอบ เช่นนี้ กรณีที่จำเลยเลือกใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 9 จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จำเลยยังไม่ได้รับมอบเท่านั้น มิใช่ร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องยนต์ทั้งหมด