พบผลลัพธ์ทั้งหมด 665 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าปรับตามสัญญาซื้อขายแลกเปลี่ยน: พิจารณาจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ
จำเลยทำสัญญาตกลงเอาเครื่องยนต์อากาศยานใหม่พร้อมอุปกรณ์แลกเปลี่ยนกับเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้แล้วของโจทก์ โจทก์ได้ส่งเครื่องยนต์ให้จำเลยภายในกำหนดสัญญาแต่ส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้ว สัญญาข้อ 8 มีว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบทรัพย์ครบจำนวนผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาได้และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่ง ผู้ขายต้องยอมรับผิดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น และข้อ 9 ว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน อัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่รับมอบ เช่นนี้ กรณีที่จำเลยเลือกใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 9 จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จำเลยยังไม่ได้รับมอบเท่านั้นมิใช่ร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องยนต์ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณน้ำหนักกัญชาสดและกัญชาแห้งเพื่อความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ไม่ได้จำกัดเฉพาะกัญชาแห้ง
มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มิได้บัญญัติว่ากัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่5นั้น หมายถึงกัญชาแห้ง จึงต้องหมายถึงกัญชาสดด้วยและการคำนวณน้ำหนักกัญชาตามมาตรา 26 วรรคสองมิได้บัญญัติเป็นพิเศษว่า ถ้าเป็นกรณีมีกัญชาสดให้คำนวณน้ำหนักเมื่อกัญชาแห้งแล้ว จึงไม่จำต้องคำนวณน้ำหนักเมื่อกัญชาสดนั้นแห้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้บุคคลภายนอก – ไม่ใช่คดีทายาทฟ้องมรดก
จำเลยที่ 1 กู้เงินมารดาโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันมารดาโจทก์ตายโจทก์ซึ่งเป็นบุตรและเป็นทายาทเจ้ามรดกฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้มิใช่สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดก จึงถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องทายาทฟ้องคดีมรดก ต้องใช้อายุความทั่วไปกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบุตรนอกกฎหมายรับมรดก และสิทธิในการฟ้องคดีมรดกของผู้มีสิทธิ
โจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายของ ข. ระหว่างที่ ข. อยู่กินกับมารดาโจทก์ โจทก์ใช้นามสกุลของ ข. และ ข. เลี้ยงดูโจทก์มา 6-7 ปี ถือได้ว่า ข. ให้การรับรองว่าโจทก์เป็นบุตรจึงเป็นผู้สืบสันดานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 มีสิทธิรับมรดกและมีสิทธิฟ้องคดีเกี่ยวกับมรดกได้
ทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาทเท่านั้นที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755 ได้จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิได้เป็นทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้
ทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา ข. ที่ตกทอดแก่ข. ถือไม่ได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ข. เป็นเจ้าของร่วมกับ ข. ในทรัพย์พิพาทดังกล่าว
ทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาทเท่านั้นที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755 ได้จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิได้เป็นทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้
ทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา ข. ที่ตกทอดแก่ข. ถือไม่ได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ข. เป็นเจ้าของร่วมกับ ข. ในทรัพย์พิพาทดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118-1120/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินและข้อยกเว้นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแม้ราคาทรัพย์พิพาทแต่ละสำนวนไม่เกินห้าหมื่นบาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม มาตรา 248
จำเลยให้การว่าโจทก์สำนวนที่สองและสำนวนที่สามครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์สำนวนแรกเช่นนี้จำเลยจะอุทธรณ์ว่าโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดยการเช่าจาก ส. ซึ่งยกที่ดินให้โจทก์สำนวนแรกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
จำเลยให้การว่าโจทก์สำนวนที่สองและสำนวนที่สามครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์สำนวนแรกเช่นนี้จำเลยจะอุทธรณ์ว่าโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดยการเช่าจาก ส. ซึ่งยกที่ดินให้โจทก์สำนวนแรกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: พืชไร่คือพืชที่ต้องการน้ำน้อย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา"หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่าพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา โดยพิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา" หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่า พืชต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องคดีบุกรุกและเรียกค่าเสียหาย: ศาลวางหลักการพิจารณาค่าเสียหายควบคู่กับการขับไล่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์เรียกค่าเสียหายเดือนละ 500 บาทจำเลยให้การว่าเป็นที่ทางราชการหวงห้ามมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันมิอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้แม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยก็ตามศาลพิพากษายกฟ้องข้อหาทางอาญาให้ขับไล่จำเลยและใช้ค่าเสียหายเดือนละ 30 บาท จำเลยอุทธรณ์ได้ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาด: ศาลได้ไต่สวนแล้วเมื่อสอบถามคู่ความและมีคำสั่ง
ผู้ร้องขอให้นำทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ออกขายทอดตลาด ศาลอนุญาตและประกาศขายทอดตลาด ถึงวันขายโจทก์ผู้นำยึดยื่นคำร้องว่าผู้ร้องทำการฉ้อฉลเพื่อให้มีการขายทอดตลาดศาลให้งดการขายและนัดไต่สวนคำร้อง ในวันที่โจทก์ยื่นคำร้องศาลสอบถามโจทก์จำเลยและผู้ร้อง แล้วสั่งว่าเหตุผลของโจทก์ยังไม่พอฟังที่จะให้งดการขายทอดตลาดได้ เช่นนี้แสดงว่าได้ไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาด: ศาลพิจารณาเหตุผลเพียงพอหรือไม่
ผู้ร้องขอให้นำทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ออกขายทอดตลาด ศาลอนุญาตและประกาศขายทอดตลาด ถึงวันขายโจทก์ผู้นำยึดยื่นคำร้องว่าผู้ร้องทำการฉ้อฉลเพื่อให้มีการขายทอดตลาดศาลให้งดการขาย และนัดไต่สวนคำร้อง ในวันที่โจทก์ยื่นคำร้องศาลสอบถามโจทก์จำเลยและผู้ร้อง แล้วสั่งว่าเหตุผลของโจทก์ยังไม่พอฟังที่จะให้งดการขายทอดตลาดได้ เช่นนี้แสดงว่าได้ไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้ว