คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมบัติ วังตาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 326 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3055/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยยิงปืนใส่ร้านค้า ผู้เสียหายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ศาลตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่ร้านผู้เสียหายด้วยอาการเมาสุราขณะที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าอยู่ห่างจำเลยเพียง 10 เมตร โดยมีผู้คนกำลังซื้อของ จำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายหรือคนในร้านถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงที่บริเวณหลังใต้สะบักกระสุนฝังในได้รับอันตรายสาหัสจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในข้อความหมิ่นประมาท แม้จะไม่อยู่ในขณะเกิดเหตุ
ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 เห็นได้ชัดว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งให้บรรณาธิการเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็นบรรณาธิการ เมื่อหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ จำเลยย่อมมีความผิดในฐานะเป็นตัวการ จะอ้างว่าไม่อยู่ ไม่รู้เห็น ปัดความรับผิดไปให้รองบรรณาธิการนั้นหาชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในข้อความหมิ่นประมาท แม้จะไม่ได้อยู่ ณ ที่เกิดเหตุ
ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 เห็นได้ชัดว่าเจตนารมย์ของกฎหมายมุ่งให้บรรณาธิการเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็นบรรณาธิการ เมื่อหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ จำเลยย่อมมีความผิดในฐานะเป็นตัวการ จะอ้างว่าไม่อยู่ ไม่รู้เห็น ปัดความรับผิดไปให้รองบรรณาธิการนั้นหาชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทจากการกล่าวอ้างความสัมพันธ์ชู้สาว - การพิสูจน์ความเสียหายและบริบทความเสียหาย
กล่าวว่า "ผัวมึงซี่กูแล้ว" จึงไม่ยอมใช้หนี้ แสดงว่าโจทก์เคยได้เสียกับจำเลยมาก่อน แต่ไม่ยกย่องเป็นภริยาน้อย ไม่อ้างว่าโจทก์เสียชื่อเสียงเพราะจำเลยเป็นหญิงมีสามีอยู่แล้ว เป็นชู้กับโจทก์ ไม่เป็นหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล่วงเกินภริยาผู้อื่นทางชู้สาว การฟ้องเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523
คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นแหล่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกับภริยาโจทก์เป็นหลัก
การนอนกอดกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทดแทนจากการล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาว และการนอนกอดถือเป็นการล่วงเกินได้
คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลัก
การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่)(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2895/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเช็คและการตัดบทรับผิด – จำเลยต้องรับผิดเมื่ออ้างว่าตนเองลงลายมือชื่อ แต่ความจริงแล้วผู้อื่นลงแทน
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อในเช็ค ไม่มีประเด็นว่าบุตรจำเลยลงชื่อจำเลยแล้วจำเลยรู้เห็นไม่ทวงเช็คคืน จึงต้องตัดบทมิให้ยกประเด็นข้อลายมือปลอมขึ้นต่อสู้ศาลยกข้อนี้ขึ้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามเช็คไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2863/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมซึ่งหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นการพบโดยบังเอิญ ตำรวจมีอำนาจจับกุมเมื่อเห็นการกระทำผิดต่อหน้า
ตำรวจไปกับผู้ที่นำไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ โดยข้อหาว่าเอาน้ำมันอื่นมาขาย ได้เห็นการขายน้ำมันนั้นต่อหน้า ตำรวจจับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ การกระทำผิดซึ่งหน้าไม่จำต้องเป็นความผิดที่ตำรวจไปพบโดยบังเอิญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, การเลิกสัญญา, สินค้าชำรุด, การคืนสู่สภาพเดิม, ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าผู้ลงชื่อในใบมอบอำนาจไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อทำการแทนบริษัท ใบมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ ดังนี้ ไม่มีประเด็นว่าบริษัทโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ลงชื่อมีอำนาจลงชื่อทำการแทนบริษัท แม้ใบมอบอำนาจไม่ปิดอากรแสตมป์ ก็ไม่ต้องอาศัยฟังข้อเท็จจริงนี้จากใบมอบอำนาจ
ฟ้องเลิกสัญญาเพราะผู้ขายส่งทรัพย์ชำรุดบกพร่องแตกหักเสียหายมาก ไม่บรรยายว่าสินค้าที่ชำรุดบกพร่องมีมากน้อยเพียงใด ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ขายส่งมอบทรัพย์ที่ชำรุดบกพร่อง เท่ากับไม่ชำระหนี้ตามสัญญา ผู้ซื้อเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้ ผู้ขายต้องให้ผู้ซื้อกลับคืนสู่ฐานะเดิม ผู้ขายไม่รับสินค้าคืนไม่ปรากฏว่าสินค้าที่ไม่รับคืนมีราคาเท่าใด ศาลให้ผู้ขายใช้ราคาคืนและค่าเสียหายเต็มจำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนต้องยื่นฟ้องภายใน 30 วัน หรือขอผัดฟ้อง หากพ้นกำหนดต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ทั้งสิ้น กล่าวคือจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนถูกจับกุม หรือได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องได้เป็นคราว ๆ ไป หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะฟ้องคดีได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการแม้จะเป็นการฟ้องคดีตามคำชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 10/2522)
of 33