พบผลลัพธ์ทั้งหมด 326 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีจากสารบบเนื่องจากคู่ความไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุ ศาลต้องพิจารณาเหตุสมควรและให้โอกาสคู่ความหาทนายใหม่
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความคำสั่งนี้ไม่มีบทบัญญัติห้ามอุทธรณ์หรือให้เป็นที่สุดเมื่อโจทก์มิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวนั้นได้
โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายโจทก์ขอถอนตัวโดยตัวความไม่ทราบเรื่องและเข้าใจผิดคิดว่าทนายของตนทำหน้าที่อยู่กรณีดังนี้จะถือว่าโจทก์จงใจขาดนัดไม่ได้ คดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 203
โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายโจทก์ขอถอนตัวโดยตัวความไม่ทราบเรื่องและเข้าใจผิดคิดว่าทนายของตนทำหน้าที่อยู่กรณีดังนี้จะถือว่าโจทก์จงใจขาดนัดไม่ได้ คดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 203
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนในคดีข่มขืน: จำเป็นต้องมีพยานเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันความผิด
ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งจะรับฟังประกอบได้ก็แต่เพียงว่าผู้เสียหายได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนเช่นนั้นจริง แต่ความจริงจะเป็นอย่างไรในชั้นศาลโจทก์จะต้องมีพยานมาเบิกความต่อศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงเมื่อชั้นศาลโจทก์ไม่มีพยานมาเบิกความว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เช่นนี้ เพียงแต่คำให้การชั้นสอบสวนจึงยังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างฎีกา165/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่เกิดจากการถูกหลอกลวง และพยานซัดทอดเพื่อปกป้องตนเอง ไม่มีน้ำหนักในการลงโทษ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ผ.นำมามอบให้ตำรวจ คำเบิกความของ ส.เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิดซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน การซัดทอดเพื่อพ้นผิด และคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ ผ.นำมามอบให้ตำรวจคำเบิกความของ ส. เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับโอนยังคงเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม
ผู้เช่าห้องแถวโอนสิทธิการเช่า แต่ผู้ให้เช่ายังไม่ได้อนุญาตตามที่ร้องขอผู้รับโอนเข้าอยู่ในห้องแถว ถือว่าผู้รับโอนเป็นบริวารของผู้เช่าศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าจึงบังคับถึงบริวารด้วย คดีของบริวารที่ถูกศาลบังคับฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ตาม มาตรา 248 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่6 พ.ศ.2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงอำนาจพิจารณาภาษีโรงเรือนจากอธิบดีกรมสรรพากร/สมุหเทศาภิบาล มาสู่คณะเทศมนตรีตามกฎหมายเทศบาล
พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 25 ที่ให้ผู้รับประเมินภาษีโรงเรือนอุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมสรรพากร หรือสมุหเทศาภิบาลนั้น ได้ถูกยกเลิกเปลี่ยนไปมาจนตกอยู่กับเทศบาล และคณะเทศมนตรีตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา39 เป็นผู้พิจารณาอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุสินค้าที่นำเข้าแล้ว ไม่ถือเป็นการผลิต ต้องเสียภาษีเฉพาะการนำเข้า
โจทก์สั่งซื้อใบชาจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย โดยเสียภาษีการค้าในการนำเข้าถูกต้องแล้ว การที่โจทก์นำใบชาดังกล่าวมาแบ่งบรรจุเป็นห่อและกระป๋องเป็นชนิดตามที่ได้แยกไว้แล้วจากต่างประเทศ มิได้นำมาปนกันนั้นเป็นการกระทำเพื่อความสะดวกแก่ผู้ซื้อรายย่อยจะซื้อได้เท่าจำนวนที่ต้องการ และสะดวกในการที่จะนำพาไป การที่มีเครื่องหมายการค้าและตรายี่ห้อของโจทก์ประทับอยู่ด้วย ก็เพื่อให้ผู้ซื้อทราบถึงชนิดของใบชาและทราบว่าเป็นสินค้าของโจทก์นั่นเอง สินค้าใบชาดังกล่าวยังคงมีสภาพเป็นสินค้าใบชาของเดิม มิได้แปรรูปหรือเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าชนิดใหม่ และการกระทำของโจทก์หาใช่เป็นการประกอบหรือทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้มีขึ้นซึ่งสินค้าไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ไม่ จึงไม่ใช่การผลิตตามมาตรา 77 โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุสินค้าที่นำเข้า ไม่ถือเป็นการผลิตตามประมวลรัษฎากร
โจทก์สั่งซื้อใบชาจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย โดยเสียภาษีการค้าในการนำเข้าถูกต้องแล้ว การที่โจทก์นำใบชาดังกล่าวมาแบ่งบรรจุเป็นห่อและกระป๋องเป็นชนิดตามที่ได้แยกไว้แล้วจากต่างประเทศ มิได้นำมาปนกันนั้นเป็นการกระทำเพื่อความสะดวกแก่ผู้ซื้อรายย่อยจะซื้อได้เท่าจำนวนที่ต้องการและสะดวกในการที่จะนำพาไป การที่มีเครื่องหมายการค้าและตรายี่ห้อของโจทก์ประทับอยู่ด้วยก็เพื่อให้ผู้ซื้อทราบถึงชนิดของใบชาและทราบว่าเป็นสินค้าของโจทก์นั่นเอง สินค้าใบชาดังกล่าวยังคงมีสภาพเป็นสินค้าใบชาของเดิม มิได้แปรรูปหรือเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าชนิดใหม่ และการกระทำของโจทก์หาใช่เป็นการประกอบหรือทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้มีขึ้นซึ่งสินค้าไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ไม่ จึงไม่ใช่การผลิตตามมาตรา 77 โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าบ้านและแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร
ตามพระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร พ.ศ.2499 มาตรา 24 และ29 เมื่อโจทก์จะย้ายที่อยู่เข้ามาอยู่ในบ้านที่ ย.เป็นเจ้าบ้าน ตามปกติ ย. จะต้องไปแจ้งการย้ายต่อนายทะเบียน โจทก์ซึ่งเป็นผู้ย้ายที่อยู่จะไปแจ้งการย้ายต่อนายทะเบียนท้องถิ่นก็ได้ แต่ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงต่อนายทะเบียนด้วย ซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าเจ้าบ้านยินยอมให้ย้ายเข้าได้นั่นเองจึงมอบทะเบียนบ้านให้ แต่เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนท้องถิ่น ขอย้ายเข้าบ้าน ย. โจทก์มีแต่ใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ซึ่งไม่มีลายมือชื่อเจ้าบ้านผู้ยินยอมให้ย้ายเข้าไปแสดงไม่ปรากฏว่ามีสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงด้วย ทั้งนี้เพราะ ย. ได้ฟ้องขับไล่โจทก์ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล เช่นนี้ เป็นการเพียงพอที่นายทะเบียนฯ ปฏิเสธการรับแจ้งย้ายเข้าให้โจทก์ได้อยู่แล้วนายทะเบียนฯ ไม่รับแจ้งย้ายเข้าให้โจทก์ก็ไม่ถือว่าจำเลยหรือเจ้าหน้าที่ของจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าบ้าน และการแจ้งย้ายเข้าต้องแสดงสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อยืนยันความยินยอม
ตามพระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2499 มาตรา 24 และ 29 เมื่อโจทก์จะย้ายที่อยู่เข้ามาอยู่ในบ้านที่ ย. เป็นเจ้าของบ้าน ตามปกติ ย. จะต้องไปแจ้งการย้ายต่อนายทะเบียน โจทก์ซึ่งเป็นผู้ย้ายที่อยู่จะไปแจ้งการย้ายต่อนายทะเบียนท้องถิ่นก็ได้ แต่ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงต่อนายทะเบียนด้วย ซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าเจ้าบ้านยินยอมให้ย้ายเข้าได้นั่นเอง จึงมอบทะเบียนบ้านให้ แต่เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนท้องถิ่น ขอย้ายเข้าบ้าน ย. โจทก์มีแต่ใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ซึ่งไม่มีลายมือชื่อเจ้าบ้านผู้ยินยอมให้ย้ายเข้าไปแสดง ไม่ปรากฏว่ามีสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงด้วย ทั้งนี้เพราะ ย. ได้ฟ้องขับไล่โจทก์ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล เช่นนี้ เป็นการเพียงพอที่นายทะเบียน ฯ ปฏิเสธการรับแจ้งย้ายเข้าให้โจทก์ได้อยู่แล้ว นายทะเบียน ฯ ไม่รับแจ้งย้ายเข้าให้โจทก์ก็ไม่ถือว่าจำเลยหรือเจ้าหน้าที่ของจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหาย