คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมบัติ วังตาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 326 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัว/บันดาลโทสะ: การใช้ความรุนแรงตอบโต้หลังถูกทำร้ายและข่มเหง
มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด อ.หาว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนยิงและใช้มีดแทงจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ถอยออกไปแล้ว อ.คงยืนอยู่ที่เดิม จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพี่ของจำเลยที่ 2 ได้ร้องห้ามและวิ่งเข้าไปเพื่อจะแย่งมีดจาก อ.. โดยไม่ปรากฏว่า อ. มีท่าทีจะทำร้ายจำเลยที่ 2 อีกต่อไป อ. เข้าใจว่าจำเลยที่ 1จะเข้ามาทำร้ายตน จึงใช้มีดแทงสวนไป 1 ที จำเลยที่ 1ยังกระโดดเข้ามาหา อ. อีก แล้วเกิดปลุกปล้ำแย่งมีดกันขึ้นจำเลยที่ 1 แย่งไม่ได้ จึงถอยห่างออกไปแล้วใช้ปืนยิง อ. 2 นัดถูกหน้าอก อ. และจำเลยที่ 2 ยกเก้าอี้ขึ้นตีศีรษะ อ. อีก 2 ทีดังนี้ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันหากแต่เป็นการพยายามฆ่าคนโดยบันดาลโทสะ สำหรับจำเลยที่ 2ยังถือไม่ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิง อ. จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อ. จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายโดยบันดาลโทสะเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม การบันดาลโทสะ และความผิดฐานพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย
มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด อ.หาว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนยิง และใช้มีดแทงจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ถอยออกไปแล้ว อ. คงยืนอยู่ที่เดิม จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพี่ของจำเลยที่ 2 ได้ร้องห้ามและวิ่งเข้าไปเพื่อจะแย่งมีดจาก อ..โดยไม่ปรากฏว่าอ. มีท่าทีจะทำร้ายจำเลยที่ 2 อีกต่อไป อ. เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 จะเข้ามาทำร้ายตน จึงใช้มีดแทงสวนไป 1 ที จำเลยที่ 1 ยังกระโดดเข้ามาหา อ. อีก แล้วเกิดปลุกปล้ำแย่งมีดกันขึ้นจำเลยที่ 1 แย่งไม่ได้ จึงถอยห่างออกไปแล้วใช้ปืนยิง อ.2 นัด ถูกหน้าอก อ.และจำเลยที่2ยกเก้าอี้ขึ้นตีศีรษะอ. อีก 2 ที ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกัน หากแต่เป็นการพยายามฆ่าคนโดยบันดาลโทสะ สำหรับจำเลยที่ 2 ยังถือไม่ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิง อ. จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อ. จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายโดยบันดาลโทสะเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045-1046/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย และผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาคดีอาญา
ในคดีอุกฉกรรจ์ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป จำเลยคนหนึ่งให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาโดยไม่สอบถามเรื่องทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยนั้นด้วย เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเฉพาะตัวจำเลยคนนั้น หาได้กระทบกระเทือนถึงกระบวนพิจารณาของจำเลยอื่นที่มีทนายแล้วไม่ และคดีนี้ได้มีการสืบพยานกันแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นสอบถามเรื่องทนายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยที่รับสารภาพแถลงว่าไม่ต้องการทนาย ส่วนจำเลยอื่นแถลงว่าได้ตั้งทนายไว้แล้ว กรณีดังนี้ไม่จำต้องสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นต้องทำคำพิพากษาสำหรับจำเลยทุกคนเสียใหม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045-1046/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย – กระบวนการยุติธรรมเฉพาะตัว – การพิจารณาคดีร่วม
ในคดีอุกฉกรรจ์ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปจำเลยคนหนึ่งให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาโดยไม่สอบถามเรื่องทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 173 แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยนั้นด้วย เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเฉพาะตัวจำเลยคนนั้น หาได้กระทบกระเทือนถึงกระบวนพิจารณาของจำเลยอื่นที่มีทนายแล้วไม่ และคดีนี้ได้มีการสืบพยานกันแล้วเมื่อศาลชั้นต้นสอบถามเรื่องทนายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยที่รับสารภาพแถลงว่าไม่ต้องการทนาย ส่วนจำเลยอื่นแถลงว่าได้ตั้งทนายไว้แล้ว กรณีดังนี้ไม่จำต้องสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นต้องทำคำพิพากษาสำหรับจำเลยทุกคนเสียใหม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ต้องพิสูจน์สิทธิในที่ดินก่อน หากเป็นที่สาธารณะประโยชน์ เจ้าของโฉนดไม่มีอำนาจให้เช่า
ตามฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนด ได้ทำสัญญาระบุว่า ให้จำเลยเช่าที่ดินบางส่วนตามโฉนดดังกล่าว โจทก์มิได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดในการให้เช่าที่ดิน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยอาศัยสิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินอย่างเดียว เมื่อจำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ ไม่ใช่ที่ของโจทก์เห็นได้ว่ายังมีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาคดี จึงเป็นการไม่ชอบ ต้องยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
of 33