คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุดม จาละ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 530 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นความรับผิดประกันภัย: ใบอนุญาตขับขี่ต่างประเทศที่ใช้ในไทยไม่ได้ ไม่เข้าข้อยกเว้น
กรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทโจทก์มีข้อความยกเว้นความรับผิดในกรณีที่ผู้ขับขี่รถไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับอื่นๆ ให้ขับขี่รถยนต์นั้นได้ แต่เมื่อผู้ขับขี่รถดังกล่าวในขณะเกิดเหตุได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ซึ่งออกให้โดยเจ้าพนักงานตำรวจเดนมาร์ค แม้ใบอนุญาตนั้นใช้ในประเทศไทยไม่ได้ก็ไม่เข้าข้อยกเว้นความรับผิดนี้ เมื่อโจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจึงเข้ารับช่วงสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างของผู้ทำละเมิดและจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนให้ร่วมกันรับผิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1949/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีไม่ระงับ แม้พ้น 10 ปีจากคำพิพากษา และสิทธิเจ้าหนี้บุริมสิทธิยังคงมีผล
บทบัญญัติในมาตรา 271 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบังคับให้ฝ่ายชนะคดียื่นคำร้องขอบังคับคดีภายใน 10 ปีหาใช่ให้บังคับคดีให้เสร็จสิ้นภายใน 10 ปีไม่ ดังนั้นเมื่อโจทก์ได้ดำเนินการบังคับคดีภายใน 10 ปีแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิบังคับคดีได้ตลอดไป แม้จะพ้นกำหนด 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาและคำร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิจำนองของผู้ร้องซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้บุริมสิทธิได้ ก็ยังมีผลบังคับต่อไปเช่นเดียวกัน
แม้จำเลยจะได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่า โจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับคดีต่อไปเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ก็ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะต้องรอการชี้ขาดคดีนี้ ซึ่งผู้ร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิจำนอง เพราะหากศาลสั่งในอีกคดีหนึ่งนั้นว่า โจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับคดีต่อไป การบังคับคดีเอาทรัพย์ที่ยึดไว้ขายทอดตลาดย่อมไม่อาจกระทำได้มีผลให้หนี้จำนองของผู้ร้องซึ่งยังไม่ได้รับชำระคงติดเป็นภาระกับทรัพย์จำนองต่อไปอยู่เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าชดใช้ซ้ำหลังประนีประนอมยอมความเรื่องส่วนขาดทุน
ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องและประนีประนอมยอมความ ศาลพิพากษาตามยอมให้คนหนึ่งใช้เงินแก่อีกคนหนึ่งตามส่วนที่ขาดทุนแล้ว ผู้นั้นมาฟ้องเรียกให้ชดใช้ค่าภาษีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องเสีย แต่ยังไม่ได้คิดรวมในส่วนที่ขาดทุนนั้นอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1880/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสองฉบับ ข้อพิพาทเมื่อครบกำหนดสัญญาฉบับแรก
ทำสัญญาเช่าตึกแถววันเดียวกัน 2 ฉบับ ฉบับละ 3 ปีสัญญาเช่าฉบับหลังลงวันหลังจากฉบับแรก 3 ปี โดยผู้ให้เช่ารับเงินกินเปล่า 90,000 บาท แต่ไม่จดทะเบียน ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งไปกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เมื่อครบ 3 ปีตามสัญญาฉบับแรก ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าแล้ว ผู้เช่าไม่มีสิทธิอยู่ในห้องเช่าต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ชายตลิ่งสาธารณสมบัติ การครอบครองโดยพลการไม่ก่อให้เกิดสิทธิ
ที่ชายตลิ่งน้ำทะเลท่วมถึง เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จะมีใครใช้ร่วมด้วยหรือไม่ ไม่ทำให้ผู้ใช้มีสิทธิครอบครองเปลี่ยนสภาพที่ดินไป ที่ดินเหนือขึ้นไปเป็นป่าโกงกางทหารญี่ปุ่นถมเป็นตอนขึ้น ผู้ที่เข้าครอบครองโดยพลการฝ่าฝืนกฎหมายที่ดินก่อน ประมวลกฎหมายที่ดิน การแจ้งครอบครองไม่ทำให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่ ไม่เป็นการครอบครองโดยชอบ จังหวัดผู้มีหน้าที่ดูแลที่พิพาทฟ้องขับไล่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษทางอาญาจาก พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 กรณีมอบอาวุธปืนให้ นายทะเบียน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครอง ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 5 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะในการสงคราม นำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วันนับแต่วันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ดังนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงได้ตามฟ้อง จำเลยก็ได้รับยกเว้นโทษ จะริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางอันเป็นทรัพย์สินที่จะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ไม่ได้ เพราะกฎหมายผ่อนผันให้ผู้มีไว้ในครอบครองนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองวัตถุระเบิดเพื่อใช้ในกิจการเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วน โดยผู้จัดการแผนกเหมืองแร่ ไม่ถือว่ามีความผิด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ.มี บ. เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ที่บริเวณเขาศูนย์ 3 แปลง ใบอนุญาตให้มีและใช้วัตถุระเบิดออกให้ในนามของ บ.เป็นส่วนตัว แต่ก็ระบุมีไว้ใช้ในการทำเหมืองแร่ที่อยู่ในประทานบัตรของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. เห็นชัดว่าขออนุญาตมีเพื่อใช้ในกิจการของห้างดังกล่าว ดังนั้น การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. ในการปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้าง ได้นำแก๊ประเบิดตามใบอนุญาตดังกล่าวที่เก็บรักษาไว้ที่เหมืองแร่แปลงที่ 1 เพื่อไปใช้ยังแปลงที่ 3 ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนายจ้าง จึงไม่มีความผิดฐานมีแก๊ประเบิดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองวัตถุระเบิดเพื่อใช้ในกิจการของห้างหุ้นส่วนโดยได้รับอนุญาต แม้ใบอนุญาตออกในนามผู้จัดการ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. มี บ.เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ที่บริเวณเขาศูนย์ 3 แปลง ใบอนุญาตให้มีและใช้วัตถุระเบิดออกให้ในนามของ บ.เป็นส่วนตัว แต่ก็ระบุมีไว้ใช้ในการทำเหมืองแร่ที่อยู่ในประทานบัตรของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ.เห็นชัดว่าขออนุญาตมีเพื่อใช้ในกิจการของห้างดังกล่าว ดังนั้น การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ.ในการปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้าง ได้นำแก๊ประเบิดตามใบอนุญาตดังกล่าวที่เก็บรักษาไว้ที่เหมืองแร่แปลงที่ 1 เพื่อไปใช้ยังแปลงที่ 3 ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนายจ้าง จึงไม่มีความผิดฐานมีแก๊ประเบิดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา และสิทธิในการร้องขัดทรัพย์ของทายาท
จำเลยแต่งงานกับนาง น. โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยจึงไม่ใช่ทายาท ไม่มีสิทธิได้รับมรดกของ น. ในคดีเดิมโจทก์ไม่ได้ฟ้อง น.เป็นจำเลย หากแต่ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้รับมรดกของ น. แม้คำพิพากษาในคดีเดิมจะฟังว่า น.กู้เงินโจทก์ไปจริงก็ตาม แต่ในคดีดังกล่าวโจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของ น.เป็นจำเลย การที่โจทก์นำยึดที่พิพาทซึ่งมารดาของ น.ยกให้ น.ก่อนแต่งงานกับจำเลย โดยมีชื่อ น.เป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว จึงเป็นการยึดทรัพย์ของผู้อื่นมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ไม่มีสิทธินำยึด
ผู้ร้องทั้งสามเป็นบุตรของ น.เกิดจากจำเลย ในระหว่างที่ น.ยังมีชีวิตอยู่ น.จึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้ร้อง ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1538 เมื่อ น.ถึงแก่กรรม ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เยาว์จึงไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมและเป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกของ น. เมื่อศาลมีคำสั่งให้ตั้ง ส.เป็นผู้แทนเฉพาะคดีของผู้ร้องทั้งสาม ส.จึงมีอำนาจดำเนินคดีแทนผู้ร้องทั้งสามได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 วรรคสุดท้าย และมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับมรดกของ น.ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์มรดกกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส และสิทธิของผู้เยาว์ในการร้องคัดค้านการยึด
จำเลยแต่งงานกับนาง น. โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยจึงไม่ใช่ทายาท ไม่มีสิทธิได้รับมรดกของ น. ในคดีเดิมโจทก์ไม่ได้ฟ้อง น. เป็นจำเลย หากแต่ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้รับมรดกของ น. แม้คำพิพากษาในคดีเดิมจะฟังว่า น. กู้เงินโจทก์ไปจริงก็ตาม แต่ในคดีดังกล่าวโจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของ น. เป็นจำเลย การที่โจทก์นำยึดที่พิพาทซึ่งมารดาของ น. ยกให้ น. ก่อนแต่งงานกับจำเลย โดยมีชื่อ น. เป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว จึงเป็นการยึดทรัพย์ของผู้อื่นมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ไม่มีสิทธินำยึด
ผู้ร้องทั้งสามเป็นบุตรของ น. เกิดจากจำเลย ในระหว่างที่ น. ยังมีชีวิตอยู่ น. จึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้ร้อง ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1538เมื่อ น. ถึงแก่กรรม ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เยาว์จึงไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมและเป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกของ น.เมื่อศาลมีคำสั่งให้ตั้ง ส. เป็นผู้แทนเฉพาะคดีของผู้ร้องทั้งสาม ส. จึงมีอำนาจดำเนินคดีแทนผู้ร้องทั้งสามได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 วรรคสุดท้ายและมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับมรดกของ น. ก่อน
of 53