พบผลลัพธ์ทั้งหมด 530 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: โคหลุดหาย ไม่ใช่การลักทรัพย์ จำเลยช่วยเหลือไถ่คืน ไม่ถือว่าผิด
โคหลุดหายไปจากคอกใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายเอง แม้จะมีการไถ่โคที่หายไปได้จากจำเลยก็ตาม จำเลยก็อาจเพียงแต่ทราบว่าโคของผู้เสียหายที่หายไปอยู่ที่ใครและช่วยเหลือไปไถ่คืนมาให้ จึงจะถือว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: โคหลุดหาย ไม่ใช่การลักทรัพย์ จำเลยอาจช่วยเหลือไถ่คืน
โคหลุดหายไปจากคอกใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายเอง แม้จะมีการไถ่โคที่หายไปได้จากจำเลยก็ตาม จำเลยก็อาจเพียงแต่ทราบว่าโคของผู้เสียหายที่หายไปอยู่ที่ใครและช่วยเหลือไปไถ่คืนมาให้ จึงจะถือว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในสัญญาฝากทรัพย์: ผู้เช่าซื้อรถยนต์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับฝากทรัพย์โดยตรง
โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์พิพาทมาและได้ให้ พ.เช่าไป วันเกิดเหตุ พ.นำรถคันดังกล่าวไปฝากไว้ในสถานที่จอดรถของภัตตาคารซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่บริการและเป็นผู้รับฝากต่อจากนั้น พ.กับพวกได้เข้าไปรับประทานอาหารในภัตตาคารดังกล่าว เมื่อกลับออกมาจะขอรับรถคืนปรากฏว่ารถถูกคนร้ายลักไป ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ฐานผิดสัญญาฝากทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องระหว่าง พ.กับจำเลย และโจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท ขณะเกิดเหตุรถอยู่ในความครอบครองของ พ.กรณีมิใช่จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในสัญญาฝากทรัพย์: ผู้เช่าซื้อรถไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้รับฝากโดยตรง
โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์พิพาทมาและได้ให้ พ. เช่าไปวันเกิดเหตุ พ. นำรถคันดังกล่าวไปฝากไว้ในสถานที่จอดรถของภัตตาคารซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของ โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่บริการและเป็นผู้รับฝาก ต่อจากนั้น พ. กับพวกได้เข้าไปรับประทานอาหารในภัตตาคารดังกล่าว เมื่อกลับออกมาจะขอรับรถคืน ปรากฏว่ารถถูกคนร้ายลักไป ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ฐานผิดสัญญาฝากทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องระหว่าง พ. กับจำเลย และโจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท ขณะเกิดเหตุรถอยู่ในความครอบครองของ พ. กรณีมิใช่จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบริษัทจากกรรมการกระทำการแทน แม้ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ
บริษัทจำกัดกู้เงิน ทำหนังสือรับสภาพหนี้และประนีประนอมยอมความนอกศาลและในศาล ใช้หนี้จำนวนหนึ่งตามเช็คไปแล้ว โจทก์มาฟ้องเรียกจำนวนที่เหลือ การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการทำแทนจำเลยที่ 1 ตลอดมา ถือว่าจำเลยที่ 1 ยอมรับการกระทำของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในการที่จำเลยที่ 2 กู้เงินและรับสภาพหนี้เดิมแม้ตามข้อบังคับต้องมีกรรมการ 2 คนลงชื่อและประทับตราของบริษัทก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2507/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกเงินจากผู้สลักหลังเช็ค & การแต่งทนายในชั้นฎีกา
เช็คสั่งจ่ายเงินแก่ผู้ถือ ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินแล้วเพราะบัญชีปิดแล้ว ผู้รับเช็คนั้นไปจากโจทก์นำเช็คมาคืนโจทก์ โจทก์ยังเป็นผู้ทรงโดยชอบ โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากผู้สลักหลังได้ในอายุความ 1 ปี
ทนายโจทก์ไม่ได้แต่งทนายตามระเบียบ แต่โจทก์ทำใบแต่งทนายในชั้นจำเลยฎีกา การพิจารณาตั้งแต่ศาลชั้นต้นไม่เสีย ศาลอนุญาตให้ทำให้ถูกได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ทนายโจทก์ไม่ได้แต่งทนายตามระเบียบ แต่โจทก์ทำใบแต่งทนายในชั้นจำเลยฎีกา การพิจารณาตั้งแต่ศาลชั้นต้นไม่เสีย ศาลอนุญาตให้ทำให้ถูกได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2441/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินประกอบธุรกิจ: ลักษณะสัญญาเช่าธรรมดา
เช่าที่ดินปลูกบ้านอยู่และเป็นโรงงานคั่วกาแฟ โดยเสียเงินค่าตอบแทน 15,000 บาท และถมดินซึ่งทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้เช่า เป็นสัญญาเช่าธรรมดา ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนอย่างอื่นนอกเหนือจากการเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2410/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเปิดเผยข้อมูลธนาคาร: จำเลยต้องเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ จึงจะมีความผิด
ผู้ที่จะมีความผิดฐานเปิดเผยกิจการอันพึงสงวนไว้ไม่เปิดเผยของธนาคารพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 มาตรา 46 นั้น ต้องเป็นผู้ได้ล่วงรู้กิจการของธนาคาร เนื่องจากการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นธนาคารพาณิชย์ จำเลยที่ 2,3 เป็นผู้จัดการสาขาของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 เป็น บุคคลภายนอกผู้มีธุรกิจติดต่อกับจำเลยที่ 1,2,3 ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้กำหนดให้เป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้แต่อย่างใด จำเลยจึงมิใช่บุคคลอันอาจถูกลงโทษตามมาตรา 46 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2362/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานการประชุมเท็จและการโต้แย้งสิทธิในหุ้น: การฟ้องเพิกถอนและการส่งมอบกิจการ
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนรายงานการประชุมของบริษัทอันเป็นเท็จห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับบริษัท มิใช่ฟ้องเรียกหุ้นคืนจากจำเลย ตามข้อต่อสู้ของจำเลยก็มีประเด็นเพียงว่า โจทก์โอนหุ้นให้แก่ผู้อื่นไปแล้วหรือไม่ มิใช่โต้เถียงว่าโจทก์ไม่มีหุ้นตามฟ้อง จึงไม่ใช่เป็นคดีมีทุนทรัพย์
โจทก์มิได้มีข้อโต้แย้งกับบริษัท แต่จำเลยเป็นผู้กระทำให้สิทธิในหุ้นของโจทก์สิ้นไป เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยตรงและตามคำฟ้องของโจทก์ก็ไม่รับรองว่าจำเลยเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทโดย ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคลหากแต่เป็นผู้ทำละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 ที่ว่าที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนกรรมการได้ ใช้บังคับเฉพาะผู้ที่เป็นกรรมการโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
การประชุมใหญ่ที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอน มิใช่เป็นการประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบตามความหมายของประมวลกฎมหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 แต่เป็นรายงานการประชุมเท็จ เพราะไม่มีการประชุมกันจริง จึงไม่อยู่ในบังคับให้ต้องฟ้องเพิกถอนภายในกำหนดเดือนหนึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว
บัญชีผู้ถือหุ้น บันทึกรายงานการประชุมและข้อมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือที่ประชุมกรรมการนั้น เป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องและเป็นไปโดยชอบเท่านั้น จึงอาจนำสืบหักล้างว่าไม่ถูกต้องหรือเป็นไปโดยมิชอบได้
โจทก์มิได้มีข้อโต้แย้งกับบริษัท แต่จำเลยเป็นผู้กระทำให้สิทธิในหุ้นของโจทก์สิ้นไป เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยตรงและตามคำฟ้องของโจทก์ก็ไม่รับรองว่าจำเลยเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทโดย ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคลหากแต่เป็นผู้ทำละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 ที่ว่าที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนกรรมการได้ ใช้บังคับเฉพาะผู้ที่เป็นกรรมการโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
การประชุมใหญ่ที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอน มิใช่เป็นการประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบตามความหมายของประมวลกฎมหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 แต่เป็นรายงานการประชุมเท็จ เพราะไม่มีการประชุมกันจริง จึงไม่อยู่ในบังคับให้ต้องฟ้องเพิกถอนภายในกำหนดเดือนหนึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว
บัญชีผู้ถือหุ้น บันทึกรายงานการประชุมและข้อมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือที่ประชุมกรรมการนั้น เป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องและเป็นไปโดยชอบเท่านั้น จึงอาจนำสืบหักล้างว่าไม่ถูกต้องหรือเป็นไปโดยมิชอบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2362/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานการประชุมเท็จและการเพิกถอนสิทธิกรรมการ: คดีมิใช่มีทุนทรัพย์ ฟ้องฐานทำละเมิดสิทธิผู้ถือหุ้นได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนรายงานการประชุมของบริษัทอันเป็นเท็จห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับบริษัท มิใช่ฟ้องเรียกหุ้นคืนจากจำเลย ตามข้อต่อสู้ของจำเลยก็มีประเด็นเพียงว่า โจทก์โอนหุ้นให้แก่ผู้อื่นไปแล้วหรือไม่ มิใช่โต้เถียงว่าโจทก์ไม่มีหุ้นตามฟ้อง จึงไม่ใช่เป็นคดีมีทุนทรัพย์
โจทก์มิได้มีข้อโต้แย้งกับบริษัท แต่จำเลยเป็นผู้กระทำให้สิทธิในหุ้นของโจทก์สิ้นไป เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยตรง และตามคำฟ้องของโจทก์ก็ไม่รับรองว่าจำเลยเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคลหากแต่เป็นผู้ทำละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 ที่ว่าที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนกรรมการได้ ใช้บังคับเฉพาะผู้ที่เป็นกรรมการโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
การประชุมใหญ่ที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอน มิใช่เป็นการประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 แต่เป็นรายงานการประชุมเท็จ เพราะไม่มีการประชุมกันจริง จึงไม่อยู่ในบังคับให้ต้องฟ้องเพิกถอนภายในกำหนดเดือนหนึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว
บัญชีผู้ถือหุ้น บันทึกรายงานการประชุมและข้อมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือที่ประชุมกรรมการนั้น เป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องและเป็นไปโดยชอบเท่านั้น จึงอาจนำสืบหักล้างว่าไม่ถูกต้องหรือเป็นไปโดยมิชอบได้
โจทก์มิได้มีข้อโต้แย้งกับบริษัท แต่จำเลยเป็นผู้กระทำให้สิทธิในหุ้นของโจทก์สิ้นไป เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยตรง และตามคำฟ้องของโจทก์ก็ไม่รับรองว่าจำเลยเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคลหากแต่เป็นผู้ทำละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 ที่ว่าที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนกรรมการได้ ใช้บังคับเฉพาะผู้ที่เป็นกรรมการโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
การประชุมใหญ่ที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอน มิใช่เป็นการประชุมใหญ่ที่ผิดระเบียบตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 แต่เป็นรายงานการประชุมเท็จ เพราะไม่มีการประชุมกันจริง จึงไม่อยู่ในบังคับให้ต้องฟ้องเพิกถอนภายในกำหนดเดือนหนึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว
บัญชีผู้ถือหุ้น บันทึกรายงานการประชุมและข้อมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือที่ประชุมกรรมการนั้น เป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องและเป็นไปโดยชอบเท่านั้น จึงอาจนำสืบหักล้างว่าไม่ถูกต้องหรือเป็นไปโดยมิชอบได้