คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ผสม จิตรชุ่ม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 619 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกโฉนดและการฟ้องคดีอาญาฐานยักยอก จำเลยต้องคืนโฉนด แต่ไม่พอฟังว่ามีการทุจริตเบียดบัง
น. ให้จำเลยจัดการทรัพย์สิน มอบโฉนดให้ ต่อมาได้ถอนอำนาจ จำเลยไม่คืนโฉนด แต่ร้องขอต่อศาลให้แสดงกรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นแต่จำเลยแสดงว่าประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์ยังไม่เป็นการเบียดบังเอาเป็นของตน ยังไม่เป็นความผิดฐานยักยอกโฉนด
น. ถอนจำเลยจากผู้จัดการทรัพย์สิน จำเลยมีหน้าที่คืนโฉนด ไม่มีหน้าที่จัดการต่อไปแล้ว จึงไม่ใช่ผู้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์ การไม่คืนโฉนดไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 353
ผู้จัดการมรดกฟ้องว่าจำเลยยักยอกโฉนดของเจ้ามรดกระหว่างที่ศาลตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว โจทก์เป็นผู้เสียหายฟ้องตาม มาตรา 352 ได้
ศาลสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลให้ครบในคำขอให้คืนโฉนดก่อนมีคำพิพากษา ศาลสั่งได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา18
จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ศาลไม่รับเพราะอุทธรณ์เกิน 15 วันเมื่อโจทก์ยังฎีกาให้ลงโทษจำเลย จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องอีกได้ แม้ถือว่าไม่ได้ว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์เพราะเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่เมื่อศาลฎีกายกฟ้องโจทก์อยู่แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: การรับรู้ของตัวแทนกรมทางหลวง และขอบเขตอำนาจมอบหมาย
แม้เจ้าหน้าที่โจทก์จะได้รับแจ้งถึงการที่มีผู้ทำละเมิดต่อโจทก์ อายุความในเรื่องละเมิดยังไม่เริ่มนับจนกว่าอธิบดีกรมโจทก์ ซึ่งเป็นผู้แทนโจทก์ได้รู้ถึงการกระทำละเมิดดังกล่าวแล้ว
กรมมอบอำนาจให้ส่วนราชการอื่นแจ้งความกล่าวโทษผู้กระทำละเมิด แต่เมื่อมิได้มอบให้ติดตามเรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วย การที่ส่วนราชการผู้รับมอบอำนาจรู้เรื่องการกระทำละเมิด ไม่ถือว่ากรมรู้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิดของหน่วยงานราชการ: เริ่มนับเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดทราบเรื่อง
แม้เจ้าหน้าที่โจทก์จะได้รับแจ้งถึงการที่มีผู้ทำละเมิดต่อโจทก์ อายุความในเรื่องละเมิดยังไม่เริ่มนับจนกว่าอธิบดีกรมโจทก์ซึ่ง เป็นผู้แทนโจทก์ได้รู้ถึงการกระทำละเมิดดังกล่าวแล้ว
กรมมอบอำนาจให้ส่วนราชการอื่นแจ้งความกล่าวโทษผู้กระทำละเมิด แต่เมื่อมิได้มอบให้ติดตามเรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วยการที่ส่วนราชการผู้รับมอบอำนาจรู้ถึงการกระทำละเมิด ไม่ถือว่ากรมรู้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2576/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของผู้สั่งจ่าย, ผู้สลักหลัง, และผู้รับประกันเช็คต่อผู้ทรง
ผู้สั่งจ่ายเช็ค ผู้สลักหลัง หรือผู้รับประกันด้วยอาวัล ต้องร่วมรับผิดต่อผู้ทรงและผู้ทรงก็มีสิทธิฟ้องหรือเรียกร้องจากบุคคลดังกล่าวเรียงตัวหรือรวมกันก็ได้ โดยมิได้พักต้องดำเนินการตามลำดับที่บุคคลดังกล่าวมาผูกพัน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยทั้งสองแล้ว ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นความรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ไม่เข้าข่ายความผิดฐานแผ้วถางป่า แม้มีการปรับปรุงพื้นที่เกษตร
ที่ดินมีผู้ก่นสร้างทำสวนทำไร่มาก่อนแล้วขายแก่จำเลยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ 10 ต้น นอกนั้นเป็นหญ้าคาและสาบเสือจำเลยซื้อแล้วมิได้ตัดต้นไม้ใหญ่ เพียงแต่ขุดสระหรือบ่อเลี้ยงปลา ดายหญ้าปลูกไม้ยืนต้นและพืชล้มลุก ไม่เป็นความผิดฐานแผ้วถางป่า ก่นสร้างป่า ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 แก้ไขฉบับที่ 4 พ.ศ.2503 มาตรา 11

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์: สิทธิเหนือกว่าผู้ซื้อสุจริตเมื่อขาดการจดทะเบียน
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบครองเกิน 10 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียน ใช้ยัน อ. ผู้ซื้อโดยสุจริตไม่ได้ โจทก์ครอบครองต่อมาไม่ถึง 10 ปี อ. ขายที่ดินต่อไปแก่จำเลย ไม่ว่าจำเลยสุจริตหรือไม่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลย คำสั่งศาลที่โจทก์ร้องขอให้แสดงว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ใช้ยัน อ. และจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2492/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดประเด็นข้อพิพาทต้องระบุในฟ้องหรือคำให้การเท่านั้น
การกำหนดประเด็นข้อพิพาทต้องกล่าวในฟ้อง คำให้การหรือแถลงให้ปรากฏต่อศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 มิใช่กล่าวในคำแถลงการณ์ปิดคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสาระสำคัญ นิติกรรมค้ำประกันและจำนองเป็นโมฆะ
ธ.หลอกให้ว.พิมพ์ลายนิ้วมือลงในใบมอบอำนาจให้จำนองและในสัญญาค้ำประกันแก่ ก. โดยอ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายที่ดินแก่ ธ.เป็นการสำคัญผิดในสารสำคัญแห่งนิติกรรม การค้ำประกันและจำนองเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการลักทรัพย์: เจตนาทุจริตและการแบ่งหน้าที่ชัดเจนบ่งชี้ความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนที่จะลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างรถยนต์แท๊กซี่ไปด้วยกัน เมื่อถึงสถานที่ที่จะลงมือลักทรัพย์ก็แบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ที่ 3 คอยอยู่ในรถใกล้ ๆ บ้ายผู้เสียหาย จำเลยที่ 3 นั่งคู่กับคนขับ บอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้าอีก 1 ช่วงเสาไฟฟ้า ในลักษณะคุมคนขับให้คอบรับจำเลยที่ 1 กับทรัพย์ที่ลักมา เมื่อจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์มาได้แล้วก็ขึ้นรถและจำเลยที่ 3 บอกให้ขับรถหนีไป ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักทรัพย์รายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์, การร่วมกระทำความผิด, พฤติการณ์สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนที่จะลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างรถยนต์แท็กซี่ไปด้วยกัน เมื่อถึงสถานที่ที่จะลงมือลักทรัพย์ก็แบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ที่ 3คอยอยู่ในรถใกล้ๆ บ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 3 นั่งคู่กับคนขับบอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้าอีก 1 ช่วงเสาไฟฟ้า ในลักษณะคุมคนขับให้คอยรับจำเลยที่ 1 กับทรัพย์ที่ลักมา เมื่อจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์มาได้แล้วก็ขึ้นรถและจำเลยที่ 3 บอกให้ขับรถหนีไปถือได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักทรัพย์รายนี้
of 62