พบผลลัพธ์ทั้งหมด 702 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการได้รับสินบนและรางวัลของผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับกุมในคดีอาญา
ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดฯผู้นำจับและพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำผิดมีสิทธิได้รับสินบนและรางวัลโดยพนักงานอัยการเป็นผู้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายสินบนหรือรางวัลดังกล่าว การจ่ายสินบนและรางวัลให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายของกลางซึ่งศาลสั่งริบเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ในกรณีที่ศาลมิได้สั่งริบของกลาง หรือของกลางที่ศาลสั่งริบนั้น มิอาจขายได้ให้จ่ายจากเงินค่าปรับที่ได้ชำระต่อศาล ไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติให้จำเลยเป็นผู้จ่ายสินบนและรางวัล
ฟ้องโจทก์บรรยายแยกเป็นข้อ (ก) จำเลยตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ฯ ข้อ (ข) จำเลยนำหรือพาเครื่องวิทยุกระจายเสียงซึ่งผลิตในต่างประเทศโดยมิได้ผ่านด่านศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ ข้อ (ค) จำเลยมีเครื่องวิทยุไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุและโทรคมนาคมฯ และบรรยายในตอนท้ายว่ามีสายลับต้องการสินบนนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเครื่องวิทยุกระจายเสียงจำนวน 1 เครื่องดังกล่าวในข้อ(ก)และ (ข) จำเลยยื่นคำให้การรับสารภาพตามฟ้องข้อ(ก)และ(ค) ส่วนฟ้องข้อ (ข) นั้นรับสารภาพว่าได้รับเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงไว้จริง ศาลได้สอบถามจำเลยแล้วจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยรับสารภาพตามฟ้องดังนี้ ถือว่าจำเลยรับในข้อมีผู้นำจับด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับและจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดฯ ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับร้อยละ 30 และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับอีกร้อยละสิบห้า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำขอส่วนนี้ โจทก์ฎีกาขอให้จ่ายสินบนและรางวัลตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาให้จ่ายสินบนนำจับร้อยละสามสิบและรางวัลร้อยละสิบห้าของราคาของกลางเท่าจำนวนที่โจทก์ขอมาในฎีกา โดยจ่ายจากค่าขายของกลาง ของกลางขายไม่ได้ให้จ่ายจากเงินค่าปรับ
ฟ้องโจทก์บรรยายแยกเป็นข้อ (ก) จำเลยตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ฯ ข้อ (ข) จำเลยนำหรือพาเครื่องวิทยุกระจายเสียงซึ่งผลิตในต่างประเทศโดยมิได้ผ่านด่านศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ ข้อ (ค) จำเลยมีเครื่องวิทยุไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุและโทรคมนาคมฯ และบรรยายในตอนท้ายว่ามีสายลับต้องการสินบนนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเครื่องวิทยุกระจายเสียงจำนวน 1 เครื่องดังกล่าวในข้อ(ก)และ (ข) จำเลยยื่นคำให้การรับสารภาพตามฟ้องข้อ(ก)และ(ค) ส่วนฟ้องข้อ (ข) นั้นรับสารภาพว่าได้รับเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงไว้จริง ศาลได้สอบถามจำเลยแล้วจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยรับสารภาพตามฟ้องดังนี้ ถือว่าจำเลยรับในข้อมีผู้นำจับด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับและจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดฯ ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับร้อยละ 30 และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับอีกร้อยละสิบห้า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำขอส่วนนี้ โจทก์ฎีกาขอให้จ่ายสินบนและรางวัลตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาให้จ่ายสินบนนำจับร้อยละสามสิบและรางวัลร้อยละสิบห้าของราคาของกลางเท่าจำนวนที่โจทก์ขอมาในฎีกา โดยจ่ายจากค่าขายของกลาง ของกลางขายไม่ได้ให้จ่ายจากเงินค่าปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขนส่งไม้รู้ว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย มีความผิดฐานเป็นตัวการ
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 70 ให้ถือว่าผู้รับไม้ไว้โดยรู้ว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ เป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จำเลยรับจ้างบรรทุกไม้โดยรถยนต์โดยรู้อยู่เช่นนั้นจึงมีความผิดเป็นตัวการมีไม้หวงห้ามยังไม่แปรรูปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิได้มาโดยครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ ต้องเสียในอัตราร้อยละ 2 ตามกฎกระทรวง
การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการได้มาโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2.00 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 27(พ.ศ.2516) ข้อ 5(1) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทโดยกล่าวถึงกลุ่มบุคคล: การขาดเจตนาเฉพาะเจาะจงทำให้โจทก์ขาดคุณสมบัติเป็นผู้เสียหาย
จำเลยกล่าวถ้อยคำถึงราษฎร 2 อำเภอ ที่อพยพมาอยู่รวมกันในหมู่บ้านซึ่งมีจำนวนประมาณ 4,000 คน ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนี้ คนธรรมดาสามัญย่อมไม่เข้าใจว่าเป็นการกล่าวพาดพิงหรือใส่ความบุคคลใด เพียงแต่โจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลที่รวมอยู่ในจำนวนคนเหล่านั้น จะว่าจำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองโดยตรงหาได้ไม่ โจทก์ทั้งสองจึงมิใช่เป็นผู้เสียหาย อันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสิทธิในที่ดินที่งอกริมตลิ่ง เจ้าของที่ดินมีสิทธิขัดขวางการรังวัดออกโฉนด
จำเลยขายที่ดินมีโฉนดและที่พิพาทคือที่งอกริมตลิ่งให้ ช. แล้ว ช. โอนที่ดินนั้นรวมทั้งที่พิพาทให้โจทก์ การที่จำเลยยื่นคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินสำหรับที่พิพาทโดยแจ้งว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่งอกริมตลิ่งอันเป็นที่พิพาท ย่อมถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องเพื่อห้ามมิให้จำเลยรบกวนขัดขวางหรือกระทำการใด ๆอันแสดงว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนในความครอบครองโดยได้รับมอบหมายจากผู้รับอนุญาตและเจตนาของกฎหมายอาวุธปืน
ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 14 หากว่าบุคคลใดมีความประสงค์ให้ผู้อื่นมีและใช้อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับรักษาทรัพย์สินของตนอันจักต้องใช้บุคคลอื่นดูแลอาจขอรับหนังสืออนุญาตพิเศษจากนายทะเบียนท้องที่ที่บุคคลนั้นมีถิ่นที่อยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ว่า กรณีดังกล่าวกฎหมายถือว่าเป็นการมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง จึงบัญญัติให้ขอรับหนังสืออนุญาตพิเศษจากนายทะเบียนท้องที่
จำเลยเป็นลูกจ้างเหมืองแร่ ว. มีหน้าที่เป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ ส.ผู้จัดการเหมืองแร่มอบอาวุธและกระสุนปืนของกลางซึ่ง ส. ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีไว้ในครอบครอง ให้จำเลยไว้เพื่อใช้ในการเป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ โดยจำเลยจะไปรับอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางเวลา 18 นาฬิกาแล้วนำไปคืนเวลา 8 นาฬิกาวันรุ่งขึ้นทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยพร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางได้ที่บ้านพักจำเลยในบริเวณเหมืองแร่ เมื่อจำเลยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตดังกล่าว จำเลยย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามกฎหมาย
จำเลยเป็นลูกจ้างเหมืองแร่ ว. มีหน้าที่เป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ ส.ผู้จัดการเหมืองแร่มอบอาวุธและกระสุนปืนของกลางซึ่ง ส. ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีไว้ในครอบครอง ให้จำเลยไว้เพื่อใช้ในการเป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ โดยจำเลยจะไปรับอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางเวลา 18 นาฬิกาแล้วนำไปคืนเวลา 8 นาฬิกาวันรุ่งขึ้นทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยพร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางได้ที่บ้านพักจำเลยในบริเวณเหมืองแร่ เมื่อจำเลยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตดังกล่าว จำเลยย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของลูกจ้างเพื่อรักษาความปลอดภัยของนายจ้าง ต้องขออนุญาตตามกฎหมายอาวุธปืน
ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 14 หากว่าบุคคลใดมีความประสงค์ให้ผู้อื่นมีและใช้อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับรักษาทรัพย์สินของตนอันจักต้องใช้บุคคลอื่นดูแลอาจขอรับหนังสืออนุญาตพิเศษจากนายทะเบียนท้องที่ที่บุคคลนั้นมีถิ่นที่อยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ว่า กรณีดังกล่าวกฎหมายถือว่าเป็นการมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง จึงบัญญัติให้ขอรับหนังสืออนุญาตพิเศษจากนายทะเบียนท้องที่
จำเลยเป็นลูกจ้างเหมืองแร่ ว.มีหน้าที่เป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ ส.ผู้จัดการเหมืองแร่มอบอาวุธและกระสุนปืนของกลางซึ่ง ส.ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนห้องที่ให้มีไว้ในครอบครองให้จำเลยไว้เพื่อใช้ในการเป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ โดยจำเลยจะไปรับอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางเวลา 18 นาฬิกาแล้วนำไปคืนเวลา 8 นาฬิกาวันรุ่งขึ้นทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยพร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางได้ที่บ้านพักจำเลยในบริเวณเหมืองแร่ เมื่อจำเลยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตดังกล่าว จำเลยย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามกฎหมาย
จำเลยเป็นลูกจ้างเหมืองแร่ ว.มีหน้าที่เป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ ส.ผู้จัดการเหมืองแร่มอบอาวุธและกระสุนปืนของกลางซึ่ง ส.ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนห้องที่ให้มีไว้ในครอบครองให้จำเลยไว้เพื่อใช้ในการเป็นยามดูแลรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่ โดยจำเลยจะไปรับอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางเวลา 18 นาฬิกาแล้วนำไปคืนเวลา 8 นาฬิกาวันรุ่งขึ้นทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยพร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางได้ที่บ้านพักจำเลยในบริเวณเหมืองแร่ เมื่อจำเลยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตดังกล่าว จำเลยย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1594/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จเพื่อขอเลขบ้านใหม่ ไม่เป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อจำเลย
บ้านปลูกไว้แล้วและขายฝากแก่โจทก์ จำเลยขอปลูกสร้างบ้านเป็นอุบายเพื่อขอเลขบ้านใหม่ และได้รับเลขบ้านใหม่ไปเป็นการแจ้งความเท็จซึ่งโจทก์อ้างว่าเพื่อยักยอกบ้านที่ขายฝาก การแจ้งความเท็จเป็นการกระทำต่อเจ้าพนักงาน ไม่เกี่ยวกับโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงที่จะฟ้องจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องหลังศาลประทับรับฟ้องและนัดสืบพยาน: อำนาจและข้อจำกัด
ฟ้องไม่ระบุที่เกิดเหตุ ศาลประทับฟ้องและถามคำให้การจำเลยนัดสืบพยานโจทก์แล้ว เลยเวลาที่จะสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 โจทก์มีอำนาจขอแก้ฟ้องตามมาตรา 163 แต่โจทก์มิได้ขอแก้อ้างว่าพลั้งเผลอศาลยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: สถานที่เกิดเหตุสำคัญในการฟ้อง หากขาดรายละเอียด ถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
สถานที่เกิดเหตุเป็นสารสำคัญที่โจทก์จะต้องกล่าวบรรยายมาในฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะฟ้องโจทก์ขาดรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เกิดการกระทำผิด ย่อมเห็นได้อยู่ในตัวแล้วว่า การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจำเลยได้กระทำผิด ณ สถานที่ใด จึงถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิด ซึ่งได้ฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป แม้โจทก์จะยื่นฟ้องใหม่ก่อนอุทธรณ์คดีนั้น ก็ไม่ทำให้เกิดสิทธิที่จะฟ้อง