คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จันทร์ ระรวยทรง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 702 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากแก้ไขเล็กน้อยในศาลอุทธรณ์ และทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้รับอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 30,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1(ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน) ในจำนวนเงิน 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ร่วมกันรับผิดในจำนวนเงิน30,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองตั๋วสัญญาใช้เงิน: ขอบเขตความรับผิดของผู้รับอาวัล และการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้รับอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 30,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 (ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน) ในจำนวนเงิน 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ร่วมกันรับผิดในจำนวนเงิน 30,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาจ้างเหมา แม้ไม่มีตราบริษัท และความรับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของงาน
สัญญาจ้างระบุไว้ว่า ระหว่างบริษัทโจทก์โดยนางสาวว.ผู้ว่าจ้างและจำเลยผู้รับจ้าง เมื่อนางสาวว. ลงนามในสัญญาและบริษัทโจทก์ได้ยอมรับเอาผลงานที่จำเลยทำให้ตามสัญญาจนกระทั่งบริษัทโจทก์ได้จ่ายค่าจ้างให้จำเลยครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แม้จะไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
สัญญาจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาลมิได้กำหนดเวลาที่ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่อง ผู้รับจ้างต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องที่ปรากฏขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้รับจ้างใช้เครื่องยนต์เก่าหรือใหม่เว้นแต่ความชำรุดบกพร่องจะเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ว่าจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาจ้างเหมา แม้ไม่มีตราบริษัท และขอบเขตความรับผิดชำรุดบกพร่องหลังส่งมอบงาน
สัญญาจ้างระบุไว้ว่า ระหว่างบริษัทโจทก์โดยนางสาว ว.ผู้ว่าจ้างและจำเลยผู้รับจ้าง เมื่อนางสาว ว. ลงนามในสัญญาและบริษัทโจทก์ได้ยอมรับเอาผลงานที่จำเลยทำให้ตามสัญญาจนกระทั่งบริษัทโจทก์ได้จ่ายค่าจ้าง ให้จำเลยครบถ้วนตามสัญญาแล้วแม้จะไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทตามข้อบังคับ บริษัทโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
สัญญาจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาลมิได้กำหนดเวลาที่ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่อง ผู้รับจ้างต้องรับผิดเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องที่ปรากฏขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 600 โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้รับจ้างใช้เครื่องยนต์เก่าหรือไม่ เว้นแต่ความชำรุดบกพร่องจะเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ว่าจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2327/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเงินทดแทนต้องวางเงินตามคำสั่งก่อน หากไม่วางเงิน ศาลไม่รับฟ้อง
การที่โจทก์จะนำคดีมาสู่ศาลในกรณีที่อธิบดีกรมแรงงานมีคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนให้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายเงินทดแทนให้แก่ผู้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนนั้นตามข้อ 60 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 โจทก์จะต้องวางเงินต่อศาลเป็นจำนวนตามคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงาน จึงจะฟ้องคดีได้ ถ้าปรากฏว่าโจทก์มิได้วางเงินดังกล่าวต่อศาลโจทก์ก็นำคดีมาสู่ศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการแจ้งเจ้าของกรรมสิทธิ์: เจ้าหนี้บังคับคดีเฉพาะทรัพย์สินลูกหนี้รายเดียว ไม่ต้องแจ้งอีกราย
จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ร่วมของโจทก์ตามคำพิพากษาแล้วไม่ชำระหนี้โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาเช่นนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่จำต้องแจ้งการยึดหรือแจ้งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแก่จำเลยที่ 1 เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการยึดแก่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และเจ้าพนักงานที่ดินตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 แล้วการยึดทรัพย์รายนี้จึงถูกต้องตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกัน - การผิดสัญญาต้องมีเจตนา การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่สมควร
แม้สัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาลจะระบุไว้ว่านายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามนัดของศาลหากผิดสัญญาศาลมีอำนาจบังคับให้นายประกันใช้เบี้ยปรับเต็มตามจำนวนในสัญญาก็ตามแต่การที่จะถือว่านายประกันหรือจำเลยผิดสัญญานั้น จะต้องได้ความว่านายประกันหรือจำเลยจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามนัดหาใช่ว่าเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามที่ศาลนัดไม่ว่าเพราะมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงหรือมีอุปสรรคขัดข้องสักเท่าใดก็ต้องถือว่านายประกันผิดสัญญาไปทั้งนั้น
การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่มิอาจก้าวล่วงได้ประการหนึ่งที่มีเหตุผลเพียงพอที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะไม่สามารถมาศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวฟ้องซ้ำ: ศาลมีอำนาจยกฟ้องแม้จำเลยไม่ฎีกา หากการกระทำเป็นกรรมเดียวกับคดีก่อน
การกระทำที่จำเลยถูกฟ้องในคดีนี้เป็นกรรมเดียวกับความผิดในอีกคดีหนึ่งจำเลยได้ถูกฟ้องไว้ก่อนแล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้ศาลลงโทษจำเลยซ้ำอีกได้ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา เมื่อศาลเห็นว่ามีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็มีอำนาจยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2024/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษในคดีหลายกระทง ต้องพิจารณาโทษแต่ละกระทง ไม่รวมโทษทั้งหมด
ในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โจทก์ย่อม มีอำนาจแยกฟ้องจำเลยแต่ละคดีเป็นรายกระทงความผิด การวินิจฉัย อัตราโทษว่าจะรอการลงโทษได้หรือไม่ จำต้องวินิจฉัยอัตราโทษที่ศาลลงในแต่ละกระทงความผิด จะรวมโทษทุกกระทงความผิดในคดีนั้น มาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2024/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษในความผิดหลายกระทง ต้องพิจารณาโทษแต่ละกระทง ไม่รวมโทษทั้งหมด
ในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โจทก์ย่อมมีอำนาจแยกฟ้องจำเลยแต่ละคดีเป็นรายกระทงความผิด การวินิจฉัยอัตราโทษว่าจะรอการลงโทษได้หรือไม่ จำต้องวินิจฉัยอัตราโทษที่ศาลลงในแต่ละกระทงความผิด จะรวมโทษทุกกระทงความผิดในคดีนั้นมาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยได้ไม่
of 71