พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3539/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่เคลือบคลุม – สัญญาตัวแทน – สิทธิเรียกร้องค่าหุ้น – การชำระหนี้
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดจดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งหลักฐานในเรื่องนี้จะได้เสนอศาลชั้นต้นพิจารณา แม้โจทก์ไม่ได้ระบุว่าหุ้นส่วนคนใดเป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ โจทก์ก็แสดงชัดแจ้งแล้วว่าจะได้เสนอหลักฐานดังกล่าวในชั้นพิจารณาและจำเลยก็เข้าใจคำฟ้องดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
จำเลยขอให้โจทก์เป็นตัวแทนสั่งซื้อหุ้นบริษัท ส. จำนวน 50 หุ้น เมื่อโจทก์ยอมรับเป็นตัวแทนและได้ออกเงินทดรองซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยไปแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเอาเงินชดใช้จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 816 จำเลยจะปฏิเสธไม่ยอมชำระหนี้หาได้ไม่
จำเลยขอให้โจทก์เป็นตัวแทนสั่งซื้อหุ้นบริษัท ส. จำนวน 50 หุ้น เมื่อโจทก์ยอมรับเป็นตัวแทนและได้ออกเงินทดรองซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยไปแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเอาเงินชดใช้จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 816 จำเลยจะปฏิเสธไม่ยอมชำระหนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3473/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้ถูกใช้ประโยชน์โดยราษฎร ก็ไม่เปลี่ยนสภาพเป็นสาธารณสมบัติประเภทอื่น
ที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่สงวนไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(3) นั้น แม้จะถูกราษฎรใช้ประโยชน์มานานเท่าใดก็ตาม ก็ไม่ทำให้ที่ดินนั้นเปลี่ยนสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3401/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาฎีกา: คดีซ้ำและขอบเขตการฟ้องร้องที่ดิน
ปัญหาว่าคำพิพากษาในคดีก่อนผูกพันคู่ความในคดีนี้หรือไม่ จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้และยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์ โดยกล่าวไว้ในคำแก้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้ จึงเป็นกรณีปรากฏเหตุที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 (1) ว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่ง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวได้โดยไม่ต้องส่งสำนวนคืนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา
คดีก่อนโจทก์จำเลยพิพาทกันเฉพาะที่งอกริมตลิ่งของที่ดินโฉนดที่ 384 ศาลฎีกาพิพากษาคดีดังกล่าวว่านายชิตขายที่ดินให้โจทก์เฉพาะตามโฉนด ไม่ได้ขายที่พิพาทอันเป็นที่งอกให้แก่โจทก์ด้วย การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อ้างว่าเพิ่งทราบว่านายชิตมอบที่ดินให้ไม่ครบตามโฉนดจึงขอให้จำเลยสั่งมอบที่ดินให้ครบตามโฉนด แต่ในเนื้อหาของคำฟ้องยังบรรยายว่าหากมีที่งอกริมตลิ่งหน้าที่ดินโฉนดที่ 384 ก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์เมื่อนายชิตขายที่ดินนี้ให้โจทก์ก็มิได้สงวนสิทธิในที่งอกนั้นที่งอกจึงรวมอยู่ในที่ดินที่ซื้อขายด้วยขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปจากที่งอก แผนที่สังเขปท้ายฟ้องคดีนี้กับท้ายฟ้องคดีก่อนก็เหมือนกัน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อขอให้บังคับจำเลยส่งมอบที่พิพาทอันเป็นที่งอกที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วนั้นแก่โจทก์อีกเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกให้ถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวผูกพันโจทก์จำเลย โจทก์จะกล่าวอ้างเป็นอย่างอื่นอีกดังเช่นคดีนี้หาได้ไม่
คดีก่อนโจทก์จำเลยพิพาทกันเฉพาะที่งอกริมตลิ่งของที่ดินโฉนดที่ 384 ศาลฎีกาพิพากษาคดีดังกล่าวว่านายชิตขายที่ดินให้โจทก์เฉพาะตามโฉนด ไม่ได้ขายที่พิพาทอันเป็นที่งอกให้แก่โจทก์ด้วย การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อ้างว่าเพิ่งทราบว่านายชิตมอบที่ดินให้ไม่ครบตามโฉนดจึงขอให้จำเลยสั่งมอบที่ดินให้ครบตามโฉนด แต่ในเนื้อหาของคำฟ้องยังบรรยายว่าหากมีที่งอกริมตลิ่งหน้าที่ดินโฉนดที่ 384 ก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์เมื่อนายชิตขายที่ดินนี้ให้โจทก์ก็มิได้สงวนสิทธิในที่งอกนั้นที่งอกจึงรวมอยู่ในที่ดินที่ซื้อขายด้วยขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปจากที่งอก แผนที่สังเขปท้ายฟ้องคดีนี้กับท้ายฟ้องคดีก่อนก็เหมือนกัน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อขอให้บังคับจำเลยส่งมอบที่พิพาทอันเป็นที่งอกที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วนั้นแก่โจทก์อีกเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกให้ถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวผูกพันโจทก์จำเลย โจทก์จะกล่าวอ้างเป็นอย่างอื่นอีกดังเช่นคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3401/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาฎีกา: ฟ้องซ้ำ-ที่ดินพิพาทเดิม ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ปัญหาว่าคำพิพากษาในคดีก่อนผูกพันคู่ความในคดีนี้หรือไม่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้และยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์ โดยกล่าวไว้ในคำแก้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้ จึงเป็นกรณีปรากฏเหตุที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)ว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่ง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวได้โดยไม่ต้องส่งสำนวนคืนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา คดีก่อนโจทก์จำเลยพิพาทกันเฉพาะที่งอกริมตลิ่งของที่ดินโฉนดที่ 384 ศาลฎีกาพิพากษาคดีดังกล่าวว่านายชิตขายที่ดินให้โจทก์เฉพาะตามโฉนด ไม่ได้ขายที่พิพาทอันเป็นที่งอกให้แก่โจทก์ด้วย การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อ้างว่าเพิ่งทราบว่านายชิตมอบที่ดินให้ไม่ครบตามโฉนดจึงขอให้จำเลยสั่งมอบที่ดินให้ครบตามโฉนด แต่ในเนื้อหาของคำฟ้องยังบรรยายว่าหากมีที่งอกริมตลิ่งหน้าที่ดินโฉนดที่ 384 ก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์เมื่อนายชิตขายที่ดินนี้ให้โจทก์ก็มิได้สงวนสิทธิในที่งอกนั้นที่งอกจึงรวมอยู่ในที่ดินที่ซื้อขายด้วยขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปจากที่งอก แผนที่สังเขปท้ายฟ้องคดีนี้กับท้ายฟ้องคดีก่อนก็เหมือนกัน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อขอให้บังคับจำเลยส่งมอบที่พิพาทอันเป็นที่งอกที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วนั้นแก่โจทก์อีกเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกให้ถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวผูกพันโจทก์จำเลย โจทก์จะกล่าวอ้างเป็นอย่างอื่นอีกดังเช่นคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ข่มขืน กระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จำเลยที่ 3 สนับสนุนความผิด
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,318
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ข่มขืน และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จำเลยที่ 3 สนับสนุนความผิด
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 318
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3161/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ส่งคืนทรัพย์สินเช่าเมื่อสัญญาเลิก และความรับผิดของผู้เช่าแม้จะให้ผู้อื่นครอบครอง
เมื่อสัญญาเช่าได้เลิกหรือระงับลง จำเลยผู้เช่ามีหน้าที่ต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่า เมื่อจำเลยยังมิได้ส่งมอบตึกแถวพิพาทแก่โจทก์ ทั้งยังได้ความว่าจำเลยให้บุคคลอื่นเข้ามาอยู่แทนจำเลย จำเลยจึงไม่มีทางพ้นความรับผิด โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยได้โดยหาจำต้องไปฟ้องผู้อื่นซึ่งอยู่ในตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3080/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแลกเช็คไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน การหักดอกเบี้ยล่วงหน้าจึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
สัญญาแลกเช็คเป็นเงินสดหรือขายลดเช็คนั้นเป็นสัญญาอีกอย่างหนึ่งต่างหากจากการให้กู้ยืมเงินตามความหมายของพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 การที่โจทก์หักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า15 บาท จ่ายต้นเงินให้เพียง 85 บาท จึงมิใช่กรณีเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราอันจะเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวได้ที่ดินโดยไม่ชอบตามกฎหมาย ยังมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวศาลพิพากษาตามยอม แม้โจทก์จะถือหรือใช้สิทธิในที่ดินที่ได้มาอย่างเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ได้ และต้องจำหน่ายที่ดินนั้นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 94 ก็ตาม โจทก์ก็ยังมีสิทธิได้รับผลตามมาตรา 94 อยู่คำพิพากษาตามยอมจึงหาฝ่าฝืนหรือขัดต่อมาตรา 86 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนตัวทนาย, ผลกระทบต่อการสืบพยาน, และการถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน
คำสั่งเรื่องทนายถอนตัวนั้น จะมีผลก็ต่อเมื่อตัวความทราบแล้วเมื่อยังไม่ทราบ ก็ถือว่าศาลชั้นต้นยังมิได้อนุญาตให้ทนายถอนตัวศาลได้สั่งกำชับในการขอเลื่อนคดีครั้งก่อน ว่าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมหากไม่มีพยานมาศาลโดยไม่มีเหตุสมควร จะถือว่าไม่มีพยานมาศาล ซึ่งทนายทราบคำสั่งนี้แล้ว เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน จึงชอบแล้ว กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จะขอพิจารณาใหม่