พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการไม่โต้แย้งคำสั่งศาล ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์
จำเลยมีโอกาสที่จะโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอยื่นคำให้การของจำเลยได้ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษทางอาญาต้องมีการนำสืบพยานหลักฐานแสดงว่าจำเลยเคยต้องโทษจริง การแจ้งวิธีการนำสืบพยานไม่ถือเป็นคำขอ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วขอให้เพิ่มโทษจำเลยเมื่อจำเลยมิได้ให้การรับในข้อเคยต้องโทษจำคุกและโจทก์เพียงแต่ยื่นบัญชีพยานอ้างคดีอาญาที่อ้างว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกและระบุไว้ในช่องหมายเหตุบัญชีพยานว่าอยู่ที่ศาลให้ศาลเรียกมาซึ่งการระบุเช่นนั้นมิใช่เป็นคำขอหากเป็นแต่เพียงแจ้งวิธีการที่จะนำพยานหลักฐานมาสู่ศาลเท่านั้นถือว่าโจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้วจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินในการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำ และขอบเขตการใช้สิทธิในที่ดินตามกฎหมาย
จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินย่อมมีสิทธิเหนือพื้นดินโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะสร้างรางน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยและจำเลยมีสิทธิขัดขวางมิให้โจทก์สอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น การที่จำเลยรื้อรางน้ำดังกล่าวโดยเชื่อว่าได้รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของจำเลย จึงเป็นการใช้สิทธิในที่ดินตามสมควรแก่การสร้างตึกแถวของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1336 ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2762/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843-1844/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจทำหน้าที่เป็นพินัยกรรมได้ หากแสดงเจตนาชัดเจนในการยกทรัพย์สินหลังเสียชีวิต
ผู้ตายเขียนกรอกข้อความในแบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจของกฎหมายที่ดิน แสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนไว้โดยเจตนายกทรัพย์สินของตนให้แก่โรงเรียน วัดมูลนิธิ และบุคคลต่างๆ ตามที่ระบุไว้ เมื่อตนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว โดยให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการให้เป็นไปตามเจตนาของตน เอกสารนี้จึงเป็นพินัยกรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1646
แม้แบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจจะมีข้อความบางตอนพิมพ์อยู่แล้ว แต่ถ้าตัดข้อความตามแบบพิมพ์นี้ออกไป คงเหลือแต่เฉพาะใจความที่ผู้ตายเขียนด้วยมือตนเองก็มีสาระสำคัญครบถ้วนเป็นพินัยกรรมแบบเอกสารเขียนเองทั้งฉบับที่สมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657หาเป็นโมฆะไม่
แม้แบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจจะมีข้อความบางตอนพิมพ์อยู่แล้ว แต่ถ้าตัดข้อความตามแบบพิมพ์นี้ออกไป คงเหลือแต่เฉพาะใจความที่ผู้ตายเขียนด้วยมือตนเองก็มีสาระสำคัญครบถ้วนเป็นพินัยกรรมแบบเอกสารเขียนเองทั้งฉบับที่สมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657หาเป็นโมฆะไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีลายลักษณ์อักษรและข้อพิพาทเรื่องการบอกเลิกสัญญา ทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าค้างชำระ
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน สืบพยานโจทก์เสร็จ 1 ปากแล้วจะขอสืบพยานอื่นที่ไม่ได้อ้างไว้ในบัญชีระบุพยานโดยยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติมและศาลอนุญาต การระบุอ้างพยานเพิ่มเติมจึงชอบด้วยกฎหมาย
ปัญหาว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนฟ้องหรือไม่เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะให้จำเลยต้องรับผิด โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลยไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ปัญหาว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนฟ้องหรือไม่เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะให้จำเลยต้องรับผิด โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลยไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลต้องพิจารณาประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การ การกำหนดประเด็นข้อพิพาทที่ไม่ตรงกับคำฟ้องเป็นความผิดพลาด
การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไม่ตรงตามคำฟ้องและคำให้การจำเลย และไม่พิจารณาพิพากษาคดีไปตามประเด็นในคำฟ้องคำให้การ เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 และมาตรา 183 เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลสูงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปตามประเด็นที่ถูกต้องได้ และถือไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงกันสละประเด็นข้ออื่นตามคำฟ้องและคำให้การแล้วท้ากันให้ศาลวินิจฉัยแต่เพียงในประเด็นตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองฎีกาต้องมีเหตุผลว่าปัญหาสำคัญ การรับรองโดยเห็นว่าไม่สำคัญแต่เห็นควรพิจารณา ไม่ถือว่าอนุญาตฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นรับรองว่า "เห็นว่าข้อที่ฎีกาไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญ แต่เห็นว่าควรได้รับการพิจารณาวินิจฉัยจากศาลฎีกา จึงรับรองให้" ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในสัญญาประกันภัยค้ำจุนเมื่อผู้เอาประกันภัยมิได้ครอบครองรถขณะเกิดเหตุ
ลูกจ้างของโจทก์ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไปชนรถยนต์ของผู้อื่นเสียหาย โดยรถยนต์คันที่เอาประกันภัยอยู่ในความครอบครองของโจทก์หรือลูกจ้างของโจทก์ มิได้อยู่ในความครอบครองของบริษัทผู้เอาประกันภัยผู้เอาประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดชอบสำหรับวินาศภัยที่เกิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่มีค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยผู้รับประกันภัยจะต้องชดใช้แทนผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงสิ้นสุดเมื่อศาลมีคำสั่งถอนการยึดทรัพย์ และโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งนั้นแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าซ่อมรถ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์คันที่จำเลยมาซ่อมกับโจทก์และยังมิได้รับคืนไป ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ ในคดีเรื่องร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถยนต์คันพิพาทเป็นของผู้ร้องซึ่งมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จะยึดทรัพย์ของผู้ร้องมาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เป็นการไม่ชอบจะนำเรื่องสิทธิยึดหน่วงมาใช้บังคับกรณีนี้ไม่ได้มีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทนั้นโจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน คดีเป็นอันถึงที่สุดไปแล้วดังนี้ โจทก์จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแล้วนั้น โดยต้องคืนรถยนต์คันพิพาทให้ผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้อีกต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650-1651/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาทุนการศึกษาชดใช้: โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกเงินทุนคืนได้หากผู้รับทุนผิดสัญญา แม้มูลนิธิไม่ได้ผูกพันโดยตรง
แม้มูลนิธิที่ให้ทุนจะมิได้มีข้อตกลงกับผู้รับทุนถึงเรื่องการทำงานชดใช้ภายหลังการศึกษา แต่ตามข้อความในหนังสือของมูลนิธิที่มีถึงโจทก์เป็นการยืนยันว่า ในการที่โจทก์ให้ผู้รับทุนของมูลนิธิทำสัญญาผูกพันว่า ต้องมาทำงานชดใช้ภายหลังการศึกษาชั่วระยะเวลาหนึ่ง เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การที่โจทก์ให้ผู้รับทุนทำสัญญาดังกล่าวจึงไม่เป็นการผิดต่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ เมื่อผู้รับทุนผิดสัญญา โจทก์มีอำนาจฟ้องให้ชดใช้เงินทุนคืนตามสัญญาได้
เมื่อจำนวนเงินที่ศาลล่างให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ ได้คำนวณถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสัญญา และเป็นการเหมาะสมแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
เมื่อจำนวนเงินที่ศาลล่างให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ ได้คำนวณถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสัญญา และเป็นการเหมาะสมแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด