คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมชัย ทรัพยวณิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมก่อน บรรพ 5 ไม่มีสิทธิมรดก หากมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย
บุตรบุญธรรมก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่มิได้ จดทะเบียนตามบรรพ 5 มิได้มีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม ไม่ใช่ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเลื่อนการพิจารณาคดี: ทนายโจทก์ติดว่าความคดีอื่น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเหตุผลสมควร
สืบพยานในนัดแรก โจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาคดี อ้างว่าทนายโจทก์ติดว่าความในคดีแพ่งและคดีอาญาที่ศาลอื่นโดยนัดไว้ก่อน ปรากฏตามสำเนารายงานกระบวนพิจารณาของศาลดังกล่าวที่ได้รับรองแล้ว เป็นการขอเลื่อนการพิจารณาคดีโดยมีเหตุผลสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การใช้สิทธิครอบครองตามความเป็นจริงมีน้ำหนักกว่าการอ้างสิทธิโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
ที่ดิน 60-70 ไร่ โจทก์เพียงแต่เข้าไปตัดฟืนเผาถ่านเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เอาโคเข้าไปเลี้ยง ไม่พอฟังเป็นสิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนผู้จัดการมรดก: คำร้องคุ้มครองชั่วคราวไม่ชอบตามมาตรา 264 ว.พ.พ.
ผู้ร้องกับผู้คัดค้านมิได้พิพาทกันเกี่ยวกับการที่จะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย คงพิพาทกันเพียงว่า สมควรเพิกถอนผู้คัดค้านออกเสียจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และตั้งให้ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกแทนหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด การที่ผู้ร้องทั้งสอง ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาประโยชน์ในทรัพย์สินมรดกนั้น จึงไม่อยู่ในกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 264 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงรับข้อเท็จจริงและจำนวนค่าเสียหายไม่ถือเป็นการประนีประนอมยอมความ จึงไม่อาจคืนค่าขึ้นศาลส่วนเกินได้
ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 414,000 บาท คู่ความตกลงรับข้อเท็จจริงและกำหนดจำนวนค่าเสียหายกันว่า 100,000 บาท สละข้ออ้างและต่อสู้นอกจากนี้ ดังนี้ โจทก์ไม่ได้แก้ฟ้อง และมิใช่คดีเสร็จโดยประนีประนอมยอมความ จึงคืนค่าขึ้นศาลในจำนวนเดิมที่เกิน100,000 บาทไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมเสี่ยงภัยจากการวิวาทด้วยอาวุธปืน ไม่ถือเป็นการละเมิด
ม. สมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นกรณีที่ ม. สมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงถูก ม. ถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการทำละเมิดต่อ ม. จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้ ม. ถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมเข้าเสี่ยงภัยจากการวิวาทด้วยอาวุธปืน ทำให้ไม่เกิดละเมิดต่อคู่วิวาท
ม.สมัครใจเข้าวิวาทโดยใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงเป็นกรณีที่ ม. สมัครใจยินยอมเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการยิงต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงถูก ม.ถึงแก่ความตายในการต่อสู้กันนั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อ ม. จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่จำต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ทำให้ ม.ถึงแก่ความตายนั้นแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ภาพบุคคลกับภาพอาชญากรโดยไม่มีเจตนาดูหมิ่น ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่น
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชน รวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงานและภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้นและภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้นจัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพ ของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตามแต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ภาพบุคคลรวมกับภาพอาชญากร ไม่เข้าข่ายความผิดดูหมิ่น หากไม่มีเจตนาและมีเหตุผลอื่นที่สมควร
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชนรวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงาน และภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้น และภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้น จัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คหลังปฏิเสธการจ่ายเงินทำให้ขาดอำนาจฟ้องคดีเช็ค
ในวันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น โจทก์ได้สลักหลังโอนเช็คแก่บุคคลอื่นไปแล้ว แม้โจทก์ยังต้องรับผิดชดใช้เงินตามสัญญาขายลดเช็คโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คในขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497
of 86