คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมชัย ทรัพยวณิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าโรงงานตามอำนาจมอบหมาย ไม่ถือเป็นการบุกรุกหรือรบกวนการครอบครอง
จำเลยเข้าไปในโรงงานทำน้ำแข็งเพื่อจัดกิจการในโรงงานดังกล่าว ตามที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิตามคำสั่งศาล ทั้งก่อนจะเข้าไปจำเลยได้แสดงใบมอบอำนาจและแจ้งความจำนงให้โจทก์ร่วมทราบแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร มิได้มีเจตนาบุกรุกถือไม่ได้ว่าเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำท้าแพ้ชนะ: เมื่อผลคดีตรงตามคำท้า จำเลยต้องยอมออกจากที่ดิน
คู่ความตกลงท้าแพ้ชนะกันว่า ถ้าคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่งของศาลชั้นต้นเดียวกันถึงที่สุดโดยพิพากษาว่าที่ดินเป็น ของ ชโจทก์ยอมแพ้ ถ้าคดีถึงที่สุดว่าที่ดินเป็นของ โจทก์ จำเลยและจำเลยร่วมยอมแพ้จำเลยและจำเลยร่วมย่อมออก จากที่ดินเช่นนี้เมื่อปรากฏว่าคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่ง นั้นถึงที่สุดโดยพิพากษาว่าที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยและ จำเลยร่วมจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการท้าแพ้ชนะในคดีแพ่ง: การปฏิบัติตามคำท้าและการบังคับตามสัญญา
คู่ความตกลงท้าแพ้ชนะกันว่า ถ้าคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่งของศาลชั้นต้นเดียวกันถึงที่สุดโดยพิพากษาว่าที่ดินเป็นของ ช.โจทก์ยอมแพ้ ถ้าคดีถึงที่สุดว่าที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยและจำเลยร่วมยอมแพ้จำเลยและจำเลยร่วมยอมออกจากที่ดิน เช่นนี้เมื่อปรากฏว่าคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่งนั้นถึงที่สุดโดยพิพากษาว่าที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยและจำเลยร่วมจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากมีชู้และดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำให้เกิดสิทธิได้รับค่าทดแทน
จำเลยที่ 1 มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 2มาก่อนที่จะสมรสกับโจทก์ เมื่อจำเลยสมรสกับโจทก์แล้วจำเลยที่ 1 ยังมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 2และยกย่องเป็นภรรยาอย่างออกหน้า ดังนี้ โจทก์ฟ้องหย่าได้ และเหตุหย่าในกรณีนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนตามป.พ.พ. ม.1523 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษทางอาญา: ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะกำหนดโทษจาก 3 ปี เป็น 1 ปี 6 เดือน เป็นการแก้ไขเล็กน้อย
การโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ประเด็นใหม่ที่มิได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตาม ป.ว.พ. มาตรา 225
โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแต่มิได้ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับจำเลยตามฟ้อง ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ไม่มีอำนาจมอบให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแทน การบอกกล่าวบังคับจำนองจึงไม่มีผลนั้น เป็นการอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามป.ว.พ. ม. 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331-332/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับโอนสิทธิเช่าที่ยังมิได้เข้าครอบครองทรัพย์สิน ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ และการพ้นวิสัยของสัญญาเช่า
ผู้รับโอนสิทธิการเช่าโดยที่ยังไม่เคยเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่านั้น ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่อยู่ในทรัพย์สินที่เช่า (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 916/2503)
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นอ้างศาลก็ยกขึ้นเองได้
จำเลยที่ 1 ให้โจทก์เช่าช่วงตึกแถวพิพาทโดยมีข้อสัญญาระหว่างกันว่า ถ้าจำเลยจะขายตัวทรัพย์ที่เช่าจะต้องแจ้งให้โจทก์ทราบก่อนข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่หมายความถึงการโอนสิทธิการเช่าด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าและสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็เป็นสัญญาเช่าตึกแถวมิใช่เช่าสิทธิ จึงเป็นการพ้นวิสัยไม่มีผลบังคับได้ การที่จำเลยที่ 1 โอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นจึงกระทำได้โดยชอบ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้เพิกถอนการโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย และการพิจารณาเหตุแห่งการกระทำ
จำเลยใช้ดุ้นฟืนยาว 1 ศอก ตีศีรษะผู้ตาย 2 ทีจนกะโหลกศีรษะผู้ตายแตกยุบถึงมันสมอง เป็นการตีโดยแรงที่อวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายทันที ดังนี้จำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญในคดี จึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
โจทก์ประกันภัยทรัพย์สินไว้แก่บริษัท อ. โดยกำหนดความรับผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย เช่นนี้เมื่อโจทก์ฟ้องบริษัท อ.ให้รับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว แม้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อ. จะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญในคดีจึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
โจทก์ประกันภัยทรัพย์สินไว้แก่บริษัท อ. โดยกำหนดความรับผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย เช่นนี้เมื่อโจทก์ฟ้องบริษัท อ. ให้รับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวแม้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อ. จะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดี
of 86