คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมชัย ทรัพยวณิช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3273/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายแม้มีเจ้าหนี้เพียงรายเดียว และมีหนี้สินล้นพ้นตัว
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนวน 1 ล้านบาทเศษคดีถึงที่สุดจำเลยไม่มีทรัพย์สินนอกจากสิทธิได้รับเงินบำนาญดังนี้ จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์รายเดียว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องล้มละลาย กฎหมายมิได้กำหนดว่าลูกหนี้ต้องเป็นหนี้ต่อเจ้าหนี้หลายราย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3249/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าจ้าง: สิทธิเรียกร้องค่าจ้างมีอายุความ 2 ปีตามมาตรา 165(8)
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์บรรทุกดินลูกรังแล้วออกเช็คพิพาทชำระค่าจ้าง โจทก์นำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารไม่ได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็ค จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทนั้น ซึ่งแท้จริงก็คือขอให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างนั่นเอง เป็นกรณีที่โจทก์ผู้รับจ้างเรียกเอาเงินค่าจ้างเพื่อการงานที่ทำจากจำเลย สิทธิเรียกร้องดังกล่าวนี้มีกำหนดอายุความ 2 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3181/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เจตนาชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงคดีอาญา vs. เพื่อให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
ผู้คัดค้านที่ 1 ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญา กับลูกหนี้ในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงิน ตามเช็คลูกหนี้จึงได้ขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามเช็คเพื่อมิให้ต้องรับโทษทางอาญา มิใช่เจตนาชำระหนี้เพื่อให้ได้เปรียบเจ้าหนี้คนอื่นกรณีไม่อยู่ในบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115 ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ได้
ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ เมื่อลูกหนี้ขายที่ดินได้เงิน มาก็นำเงินนั้นชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 กรณีไม่มีเหตุดัง ผู้คัดค้านที่ 1 การชำระหนี้ที่ได้กระทำต่อกันจึงเป็นการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3181/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เจตนาชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงคดีอาญา vs. เพื่อให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
ผู้คัดค้านที่ 1 ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญา กับลูกหนี้ในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงิน ตามเช็ค ลูกหนี้จึงได้ขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามเช็คเพื่อมิให้ต้องรับโทษทางอาญา มิใช่เจตนาชำระหนี้เพื่อให้ได้เปรียบเจ้าหนี้คนอื่น กรณีไม่อยู่ในบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115 ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ได้
ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ เมื่อลูกหนี้ขายที่ดินได้เงิน มาก็นำเงินนั้นชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านที่2 กรณีไม่มีเหตุดัง ผู้คัดค้านที่ 1 การชำระหนี้ที่ได้กระทำต่อกันจึงเป็นการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179-3180/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย พิจารณาเจตนาให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
การโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆ ของลูกหนี้ที่จะขอให้เพิกถอนได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา115 จะต้องเป็นกรณีที่ลูกหนี้มุ่งหมายให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้อยู่ก่อนแล้ว ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น เมื่อปรากฏว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ซื้อหรือผู้รับโอนไม่ได้เป็นเจ้าหนี้อยู่ก่อน ผู้ร้องก็ไม่มีอำนาจขอให้เพิกถอนการโอนตามมาตราดังกล่าว
จำเลยโอนขายที่ดินพิพาทเอาเงินมาชำระหนี้ตามเช็คให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 เพื่อให้ถอนคำร้องทุกข์ ไม่ดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คมิใช่เป็นการกระทำที่จำเลยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องไม่มีอำนาจขอให้ศาลสั่งเพิกถอนตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115
จำเลยชำระหนี้ให้ผู้คัดค้านที่ 3 เพื่อเอาโฉนดที่ถูกยึดไว้เป็นประกันหนี้คืนมาโอนขายให้ผู้คัดค้านที่ 2เป็นการชำระหนี้โดยลูกหนี้มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 3ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 115 เพราะจำเลยมีทางขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกให้ผู้คัดค้านที่ 3 ส่งโฉนดได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 74 ผู้ร้องมีอำนาจขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการที่จำเลย ชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านที่ 3 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179-3180/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ต้องพิเคราะห์เจตนาลูกหนี้ที่ให้เจ้าหนี้ได้เปรียบกว่าเจ้าหนี้รายอื่น
การโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆ ของลูกหนี้ที่จะขอให้เพิกถอนได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา115จะต้องเป็นกรณีที่ลูกหนี้มุ่งหมายให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้อยู่ก่อนแล้ว ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น เมื่อปรากฏว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ซื้อหรือผู้รับโอนไม่ได้เป็นเจ้าหนี้อยู่ก่อนผู้ร้องก็ไม่มีอำนาจขอให้เพิกถอนการโอนตามมาตราดังกล่าว
จำเลยโอนขายที่ดินพิพาทเอาเงินมาชำระหนี้ตามเช็คให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 เพื่อให้ถอนคำร้องทุกข์ ไม่ดำเนินคดีกับจำเลยในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คมิใช่เป็นการกระทำที่จำเลยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องไม่มีอำนาจขอให้ศาลสั่งเพิกถอนตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115
จำเลยชำระหนี้ให้ผู้คัดค้านที่ 3 เพื่อเอาโฉนดที่ถูกยึดไว้เป็นประกันหนี้คืนมาโอนขายให้ผู้คัดค้านที่ 2เป็นการชำระหนี้โดยลูกหนี้มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 3ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115 เพราะจำเลยมีทางขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกให้ผู้คัดค้านที่ 3 ส่งโฉนดได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 74 ผู้ร้องมีอำนาจขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการที่จำเลย ชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านที่ 3 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3177/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมัครรับเลือกตั้งโดยขาดคุณสมบัติเป็นเหตุให้มีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามบทบัญญัติ
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ให้ลงโทษปรับจำเลย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเป็นกรรมการสุขาภิบาลแต่บังอาจ ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่จำเลยได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนั้นแล้ว
การสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี เป็นการสั่งไปตามบทกฎหมายที่กำหนดไว้เช่นนั้น ไม่อาจจะใช้ดุลพินิจลดลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3123/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การระบุเลขที่เช็คผิดพลาดเล็กน้อยในคำฟ้อง ไม่ทำให้คำฟ้องขาดความชัดเจน หากจำเลยทราบถึงรายละเอียดที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คเลขที่ 2034623 แต่ โจทก์ก็ได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าเช็คดังกล่าวนั้นปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้อง ซึ่งเป็นเช็คหมายเลข 2035623 สำเนาท้ายฟ้องย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย ทั้งก่อนจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การโจทก์ก็ได้นำส่งต้นฉบับเช็คและใบคืนเช็คต่อศาลแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีโอกาสตรวจสอบต้นฉบับเช็คได้และจำเลยที่ 1 มิได้ให้การโต้แย้งเลยว่าไม่ได้ออกเช็คเลขที่ 2035623แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจฟ้องโจทก์ดีว่าเช็คตามฟ้องนั้นคือเช็คเลขที่ 203562 จึงมิได้เสียเปรียบในการต่อสู้คดี คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3123/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: แม้เลขที่เช็คในฟ้องผิด แต่จำเลยทราบและไม่ได้โต้แย้ง ถือฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คเลขที่ 2034623 แต่ โจทก์ก็ได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าเช็คดังกล่าวนั้นปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องซึ่งเป็นเช็คหมายเลข 2035623 สำเนาท้ายฟ้องย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วย ทั้งก่อนจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การโจทก์ก็ได้นำส่งต้นฉบับเช็คและใบคืนเช็คต่อศาลแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีโอกาสตรวจสอบต้นฉบับเช็คได้และจำเลยที่ 1 มิได้ให้การโต้แย้งเลยว่าไม่ได้ออกเช็คเลขที่ 2035623 แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจฟ้องโจทก์ดีว่าเช็คตามฟ้องนั้นคือเช็คเลขที่ 203562 จึงมิได้เสียเปรียบในการต่อสู้คดี คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3101/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การใช้ก่อนย่อมมีสิทธิเหนือกว่า แม้ผู้ขอจดทะเบียนก่อน
จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนในการโฆษณาสินค้าซึ่งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งสินค้าสีมาก่อนโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิในการขอจดทะเบียนดีกว่าโจทก์แม้เครื่องหมายการค้านั้นเกือบเหมือนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และโจทก์จะยื่นคำขอจดทะเบียนก่อนก็ตาม
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวทำให้จำเลยเสียหายเพราะทำให้ผู้ซื้อสินค้าเข้าใจผิดว่าสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าสีของจำเลย จึงเป็นการทำละเมิดต่อจำเลยและต้องชดใช้ค่าเสียหาย
of 86