พบผลลัพธ์ทั้งหมด 537 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของเจ้าของนามสมญาทางการค้า และความรับผิดจากความประมาทในการขับรถ
โจทก์ฟ้องคดีโดยใช้ชื่อว่า "บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี โดยนายเซียมเซีย ชมภู เจ้าของบริการ" เป็นโจทก์ แม้ว่า "บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี" จะมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ก็เป็นนามสมญาในทางการค้าของนายเซียมเซีย ชมภู และนายเซียมเซีย ชมภู ได้ฟ้องในนามเจ้าของสมญาดังกล่าว เป็นเรื่องเจ้าของบริการฟ้องในนามบริการซึ่งเป็นบุคคลเดียวกัน จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: การวินิจฉัยประมาทในคดีอาญาเป็นข้อเท็จจริงที่ใช้ในคดีแพ่งได้
ศาลทหารพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยโจทก์เป็นผู้เสียหายว่า เท่าที่โจทก์นำสืบยังมีข้อสงสัยฟังไม่ได้สนิทใจว่าเหตุที่เกิดเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลย จำต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย โจทก์และจำเลยที่ 1 ก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้น ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารพ.ศ. 2498 มาตรา 54 และประมวลกฎหมายวิธพีพิจารณาความอาญามาตรา 46(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1134,1135/2509) และคำพิพากษาคดีอาญาได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานสืบให้ศาลเห็นโดยชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ถือได้ว่าศาลได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการโดยประมาทหรือไม่ไว้แน่นอนแล้ว จะฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งให้ขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1674/2512)
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างไม่ต้องรับผิดไปด้วย
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างไม่ต้องรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: ประมาทจากเหตุสุดวิสัย ยกประโยชน์แห่งความสงสัย
ศาลทหารพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยโจทก์เป็นผู้เสียหายว่า เท่าทีโจทก์นำสืบยังมีข้อสงสัยฟังไม่ได้สนิทใจว่าเหตุที่เกิดเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลย จะต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย โจทก์และจำเลยที่ 1 ก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้น ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 54 และประมลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1134, 1135/2509) และคำพิพากษาคดีอาญาได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นโดยชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ถือได้ว่าศาลได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการโดยประมาทหรือไม่ไว้แน่นอนแล้ว จะฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งให้ขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1674/2512)
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างจึงไม่ต้องรับผิดไปด้วย
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างจึงไม่ต้องรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเพิกถงการประเมินภาษี และข้อยกเว้นภาษีจากการซื้อขายที่ดินเพื่อลงทุน
ฟ้องกรมสรรพากรให้เพิกถอนการประเมินภาษีการค้าและภาษีเงินได้โดยไม่ฟ้องเจ้าพนักงานประเมินด้วยก็ได้
ซื้อที่ดินมาเพื่อตั้งโรงงาน โดยผู้ซื้อออกเงินแทนบริษัทไปก่อนแต่ต่อมาไม่ได้ใช้ตั้งโรงงานจึงขายไปได้กำไรมากตามราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่การค้าไม่ต้องเสียภาษีการค้า
ขายที่ดินโดยไม่ได้แสดงรายการข้อ 14 แห่ง ภ.ง.ด.9 ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ซึ่งมีสภาพบังคับได้อย่างกฎหมายโจทก์ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
ซื้อที่ดินมาเพื่อตั้งโรงงาน โดยผู้ซื้อออกเงินแทนบริษัทไปก่อนแต่ต่อมาไม่ได้ใช้ตั้งโรงงานจึงขายไปได้กำไรมากตามราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่การค้าไม่ต้องเสียภาษีการค้า
ขายที่ดินโดยไม่ได้แสดงรายการข้อ 14 แห่ง ภ.ง.ด.9 ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ซึ่งมีสภาพบังคับได้อย่างกฎหมายโจทก์ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการพิพากษาคดีอาญาฐานปลอมเอกสารมีผลผูกพันในคดีขับไล่ที่ดิน
คดีขับไล่จากที่ดินอ้างว่าจำเลยออก น.ส.3 ทับที่ดินของโจทก์ศาลได้พิพากษาในคดีอาญาฐานปลอมเอกสารที่โจทก์ฟ้องจำเลยแล้วว่าเอกสารในการออก น.ส.3 ไม่ปลอม ข้อนี้ผูกพันโจทก์ในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้าส่วนประกอบเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตได้รับการยกเว้นภาษีตามมาตรา 79 ตรี (11) แห่งประมวลรัษฎากร
บริษัทต่างประเทศได้ส่งเครื่องกรองฝุ่นมาให้โจทก์ตามที่โจทก์สั่ง และโจทก์ได้นำมาใช้ประจำหม้อเผาซิเมนต์ของโรงงานโจทก์แล้ว แต่บริษัทต่างประเทศส่งสินค้าซึ่งเป็นส่วนประกอบของเครื่องกรองฝุ่นมาให้ขาดไป จึงได้ส่งเพิ่มเติมมาภายหลังคือสินค้าตามฟ้อง ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มิได้ส่งสินค้าตามฟ้องเข้ามาไว้ใช้แทนส่วนที่ชำรุด แต่บริษัทต่างประเทศที่ส่งเครื่องกรองฝุ่นมาให้โจทก์ได้ส่งสินค้าตามฟ้องมาเพิ่มเติมเพราะส่งขาดไปเมื่อสินค้าดังกล่าวเป็นส่วนประกอบของเครื่องกรองฝุ่นที่ใช้ประจำหม้อเผาซิเมนต์ของโรงงานโจทก์จึงเป็นการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าที่เป็นส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตของตนเอง ได้รับยกเว้นภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล ตามมาตรา 79 ตรี (11) แห่งประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: ภัยอันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควร
ผู้เสียหายใช้ไม้แก่นกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร เป็นอาวุธทำร้ายจำเลยหลายครั้ง และขณะจำเลยล้มลงไปที่พื้นดิน ผู้เสียหายจะใช้ไม้นั้นตีซ้ำอีก นับเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและยากที่จะหนีให้พ้นภยันตรายนั้นได้ทันท่วงทีเพราะผู้เสียหายอยู่ห่างจำเลย ประมาณ 2-3 เมตรเท่านั้น จำเลยจึงยิงผู้เสียหายเพียง 1 นัด ในขณะนั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควร
ผู้เสียหายใช้ไม้แก่นกลมเสันผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ1 เมตรเป็นอาวุธทำร้ายจำเลยหลายครั้ง และขณะจำเลยล้มลงไปที่พื้นดิน ผู้เสียหายจะใช้ไม้นั้นตีซ้ำอีก นับเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและยากที่จะหนีให้พ้นภยันตรายนั้นได้ทันท่วงที เพราะผู้เสียหายอยู่ห่างจำเลยประมาณ2-3 เมตรเท่านั้น จำเลยจึงยิงผู้เสียหายเพียง 1 นัดในขณะนั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำเบิกความจากคดีก่อนเป็นหลักฐานพิสูจน์ความผิดในคดีใหม่ จำเป็นต้องมีการสืบพยานต่อหน้าจำเลย
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานขณะเกิดเหตุมาเบิกความเพราะตามหาตัวไม่พบ ดังนี้ จะถือเอาคำเบิกความของผู้เสียหายดังกล่าวในคดีเรื่องก่อนมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของจำเลยในคดีนี้หาได้ไม่ เพราะการพิจารณาสืบพยานผู้เสียหายในคดีก่อนไม่ได้กระทำต่อหน้าจำเลยในคดีนี้ ดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172ได้บัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2898/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินมรดก: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องลำดับการนำสืบพยาน
คำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับหน้าที่นำสืบจะเป็นการถูกต้องหรือไม่ก็ตาม เมื่อโจทก์จำเลยได้สืบพยานเสร็จสิ้นบริบูรณ์แล้ว และไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยคำพยานเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะต้องแก้ไขเกี่ยวกับหน้าที่นำสืบ