คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพโรจน์ ไวกาสี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 537 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินร่วมกันและการละเมิดสิทธิจากผู้รับมรดก
โจทก์จำเลยต่างเป็นทายาทผู้รับมรดกตามพินัยกรรมในที่ดินสองแปลงกับที่บ้านหนึ่งแปลงคนละส่วนเท่า ๆ กัน และได้ครอบครองร่วมกันและแทนกัน การที่จำเลยเข้าไปไถนาทั้งสองแปลง และไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปครอบครองที่ดินบ้านโดยจำเลยอ้างว่า ที่พิพาททั้งสามแปลงเป็นของตนคนเดียว เห็นได้ว่าขัดต่อสิทธิจากโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่พิพาทรวมกันจำเลย กรณีจึงเป็นละเมิดต่อโจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1360 และมาตรา 420,421
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1069/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินร่วมกันและละเมิดสิทธิเจ้าของรวม การไถนาและกีดกันการเข้าครอบครอง
โจทก์จำเลยต่างเป็นทายาทผู้รับมรดกตามพินัยกรรมในที่ดินนาสองแปลงกับที่ดินบ้านหนึ่งแปลงคนละส่วนเท่าๆ กัน และได้ครอบครองร่วมกันและแทนกัน การที่จำเลยเข้าไปไถนาทั้งสองแปลง และไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปครอบครองที่ดินบ้าน โดยจำเลยอ้างว่า ที่พิพาททั้งสามแปลงเป็นของตนคนเดียว เห็นได้ว่าขัดต่อสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่พิพาทรวมกับจำเลยกรณีจึงเป็นละเมิดต่อโจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 และมาตรา 420,421.(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1069/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดมาตรา 187 ต้องรอคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลเสียก่อน
กระทำการอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 187 ต้องเป็นกรณีที่ศาลได้คำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายทรัพย์สินระหว่างการพิจารณาคดีไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.187 หากยังไม่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยกับพวกขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลและให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินกับสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ในระหว่างการพิจารณาจำเลยได้โอนขายที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างให้ผู้อื่นทำให้โจทก์เสียหายดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 187ซึ่งหมายความถึงกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้วจึงจะเป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่เมื่อมีภาพถ่ายกรมธรรม์ประกอบ แม้ไม่ครบถ้วน
ฟ้องโจทก์กล่าวชัดเจนว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยรถยนต์มาสด้าแบบบรรทุกปิคอัพหมายเลขทะเบียน ล.บ.09465 หมายเลขเครื่อง พ. 22172 ไว้กับจำเลย ทั้งได้กล่าวด้วยว่า กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 23407/ ส.1053 เอส.ซี มีภาพถ่ายกรมธรรม์ประกันภัยติดมาท้ายฟ้องด้วย แม้โจทก์จะมิได้ถ่ายภาพกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 23407/ ส.1053 เอส.ซี มาให้ครบถ้วน จำเลยก็อาจตรวจดูต้นฉบับซึ่งที่อยู่ที่จำเลยได้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการจำหน่ายคดี: ศาลชอบที่จะจำหน่ายคดีเมื่อโจทก์ขาดนัดและจำเลยไม่ติดใจ
ในวันนัดสืบพยาน แม้ทนายโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาแต่เมื่อศาลสั่งไม่อนุญาต ก็ยังมีการนัดสืบพยานอยู่ และแม้ทนายโจทก์จะมาศาลในวันนั้นโดยมายื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานศาลขอเลื่อนการพิจารณา แต่ไม่อยู่เพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาก็ต้องถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและจำเลยแถลงไม่ติดใจให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป จึงชอบที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 จำเลยจะอ้างว่าต้องถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบและพิพากษายกฟ้องนั้นหาถูกต้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและผลกระทบต่อการจำหน่ายคดี: การที่โจทก์ขาดนัด แม้มีการยื่นคำร้องขอเลื่อน แต่ไม่ดำเนินการพิจารณา ทำให้ศาลจำหน่ายคดีได้
ในวัดนัดสืบพยาน แม้ทนายโจกท์จะได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาแต่เมื่อศาลสั่งไม่อนุญาต ก็ยังมีการนับสืบพยานอยู่ และแม้ทนายโจทก์จะมาศาลในวันนั้นโดยมายื่นคำรองต่อเจ้าพนักงานศาลขอเลื่อนการพิจารณา แต่ไม่อยู่เพื่อดำเนินกระบวนการพิจารณาก็ต้องถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาและจำเลยแถลงไม่ติดใจให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป จึงชอบที่ศาลจะมีคำสั่งคดีเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 จำเลยจะอ้างว่าต้องถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบและพิพากษายกฟ้องนั้นหาถูกต้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังสัญญาเช่าสิ้นสุด การแจ้งการครอบครองและการยื่นคำขอทำประโยชน์ ไม่ถือเป็นการบอกกล่าวเจตนาที่จะยึดถือแทนเจ้าของ
จำเลยทั้งสองทำสัญญาเช่าที่พิพาทบางส่วนของโจทก์ได้ 1 เดือน 4 วัน แล้วจำเลยที่ 1 ไปแจ้งการครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตน ต่อมาอีก 1 เดือน 8 วัน จำเลยที่ 1 ยื่นคำของรับรองการทำประโยชน์ที่พิพาท การยื่นคำขอต่อนายอำเภอเพียงเท่านี้แม้โจทก์ทราบและคัดค้าน ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์แล้วว่าจำเลยที่ 1 ไม่เจตนาจะยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์ในฐานะผู้เช่าต่อไป จำเลยหาได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ไม่
เมื่อโจทก์คัดค้านว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แล้ว จำเลยที่ 1 มิได้โต้แย้งคำคัดค้านของโจทก์หรือได้กระทำอย่างใดในทางที่เป็นปรปักษ์ต่อโจทก์ แม้จำเลยทั้งสองจะยังคงครอบครองที่พิพาทเรื่อยมาก็ถือว่า จำเลยได้ครอบครองแทนโจทก์ตามสัญญาเช่า ซึ่งยังไม่สิ้นอายุการเช่านั้นเอง ไม่ถือว่าโจทก์ถูกแย่งการครอบครองอันจะต้องฟ้องเพื่อเอาคืนภายใน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะวัดเมื่อมีการเวนคืนและย้ายที่ตั้ง: ธรณีสงฆ์ยังคงเป็นสิทธิของวัด
เดิมวัดโจทก์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว ต่อมาที่ตั้งวัดถูกทางราชการเวนคืน จึงย้ายไปตั้งในที่ดินที่มีผู้จัดซื้อถวาย ห่างที่ตั้งวัดเดิมประมาณ 1 กิโลเมตรเศษโบสถ์หลังเดิมยังอยู่ พระสงฆ์ยังใช้ทำสังฆกรรมตลอดมา วัดโจทก์จึงมีฐานะเป็นวัดอยู่เช่นเดิม หาใช่เป็นสำนักสงฆ์ไม่ ที่พิพาทเป็นที่ธรณีสงฆ์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องหนี้ตามบัญชีเดินสะพัด: ศาลมีอำนาจพิพากษาตามจำนวนหนี้จริงได้ แม้ต่างจากที่ฟ้อง
จำเลยตกลงจ้างโจทก์ขนส่งมันสำปะหลังจากไร่เข้าสู่โรงงาน มีบัญชีต่อกันไว้และมีการตัดทอนบัญชีอันเกิดแต่กิจการระหว่างโจทก์และจำเลยหักกลบลบกัน และชำระส่วนที่เป็นจำนวนคงเหลือโดยดุลภาคนับเป็นบัญชีเดินสะพัด อายุความมีกำหนด10 ปี
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามบัญชีหนี้สินที่จดลงบัญชีกันไว้เป็นเงิน 33,494 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 31,767 บาท จำเลยอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่ามีจำนวนเงินที่เป็นหนี้กันอยู่จริงเพียง29,030 บาท ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับตามจำนวนที่เป็นหนี้แท้จริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
of 54