คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิสัณห์ ลีตเวทย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 503 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ด้วยการแสดงความไม่เคารพต่อเพลงสรรเสริญพระบารมี
ขณะเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี จำเลยได้กล่าวถ้อยคำว่า "เฮ้ยเปิดเพลงอะไรโว้ยฟังไม่รู้เรื่อง" และจำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาที่แท้จริงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และสิทธิของบุคคลภายนอกผู้รับประโยชน์
เจ้ามรดกมีบุตร 5 คนคือโจทก์ทั้งสอง จำเลย ว.และพ. ผู้ร้องสอดเป็นภรรยาของ พ.ไม่มีบุตรด้วยกัน พ. ตายก่อนเจ้ามรดก เจ้ามรดกตายโดยไม่ได้ทำพินัยกรรม โจทก์ทั้งสองเคยฟ้องจำเลยขอแบ่งมรดก ผลที่สุดได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน จำเลยยอมแบ่งที่พิพาทออกเป็น 5 ส่วนเท่าๆ กัน ให้โจทก์ทั้งสอง ว.พ. และจำเลยคนละส่วนตามคดีแดงที่ 239/2515 ขณะทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว โจทก์และจำเลยย่อมรู้อยู่แล้วว่า พ. ตายไปก่อนเจ้ามรดกแล้ว ยังยอมทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ พ. มีส่วนในที่พิพาท 1 ส่วนใน 5 ส่วน จึงแสดงว่าต่างมีเจตนาอันแท้จริงที่จะมอบที่ดินส่วนนี้ให้แก่ผู้มีสิทธิรับมรดกของ พ. หาใช่มอบให้แก่ พ. ซึ่งตายไปแล้วไม่ ทั้งนี้เป็นการตีความในสัญญาโดยเพ็งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษร ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 132
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยทำไว้นั้น เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก เมื่อผู้ร้องสอดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาจะรับเอาทรัพย์ส่วนนี้โดยร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม ถือได้ว่าผู้ร้องสอดได้แสดงเจตนาแก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นแล้ว ตามมาตรา 374 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สิทธิของผู้ร้องสอดได้เกิดมีขึ้นแล้ว โจทก์จะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินี้ของผู้ร้องสอดมิได้ ตามมาตรา 375 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์โดยการเอาทรัพย์ผู้อื่นไปซ่อนเร้นเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามคืน
เอารถของผู้เสียหายไปทิ้งแม่น้ำ เป็นการเอาทรัพย์ไปโดยทุจริตเข้าลักษณะความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว จำเลยเอารถของกลางไปทิ้งแม่น้ำก็เพื่อซ่อนมิให้ติดตามเอารถคืน ไม่พ้นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกันชาสดและแห้งพร้อมกัน ถือเป็นกรรมเดียว แม้ตรวจพบต่างวาระ
มาตรา 7 พระราชบัญญัติกันชา หาได้บัญญัติถึงความผิดฐานมีกันชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แยกออกจากการมีกันชาด้วยไม่
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเวลาที่จำเลยมีกันชาแห่งไว้ในความครอบครอง ก็อยู่ในวันเวลาสุดท้ายที่หาว่าจำเลยมีกันชาสดไว้ในความครอบครองนั่นเอง จึงเป็นการครอบครองกันชาทั้งสองชนิดพร้อมกันตลอดมา การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกัญชาสดและแห้งพร้อมกันถือเป็นกรรมเดียวกัน ไม่เป็นความผิดหลายกระทง
มาตรา 7 พระราชบัญญัติกัญชา หาได้บัญญัติถึงความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แยกออกจากการมีกัญชาด้วยไม่
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเวลาที่จำเลยมีกัญชาแห้งไว้ในความครอบครองก็อยู่ในวันเวลาสุดท้ายที่หาว่าจำเลยมีกัญชาสดไว้ในความครอบครองนั่นเอง จึงเป็นการครอบครองกัญชาทั้งสองชนิดพร้อมกันตลอดมาการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เจตนาปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเหตุบรรเทาโทษได้
จำเลยนำอาวุธปืนไปขอรับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฉบับที่ 6 พ.ศ.2518 เจ้าพนักงานรับเรื่องไว้ และมอบปืนให้จำเลยรักษาไว้เป็นการทำแทนนายทะเบียน ไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนศาลพิพากษาลงโทษปรับและให้ริบปืน จำเลยอุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิด จึงไม่ริบปืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขายทอดตลาด: กำหนดเวลา 8 วันในการร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดี
การขายทอดตลาดทรัพย์เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะรวบรวมเงินให้พอชำระหนี้ตามคำพิพากษาอันเป็นการดำเนินการบังคับคดี ดังนั้น เมื่อผู้ร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ยอมขายทรัพย์ให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ประมูลให้ราคาสูงสุดในการขายทอดตลาด ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์แก่ผู้ร้อง คำร้องเช่นนี้จะต้องยื่นต่อศาลไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการกระทำนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขายทอดตลาด: กำหนดเวลาคำร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงาน
การขายทอดตลาดทรัพย์เป็นอำนานหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะรวบรวมเงินให้พอชำระหนี้ตามคำพิพากษา+ เป็นการดำเนินการบังคับคดี ดังนั้น เมื่อผู้ร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ยอมขายทรัพย์ให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ประมูลให้ราคาสูงสุดในการขายทอดตลาด ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์แก่ผู้ร้อง คำร้องเช่นนี้จะต้องยื่นต่อศาลไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่ทราบการกระทำนั้น ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงผู้ซื้อผ่อนชำระและผลบังคับของกรมธรรม์ประกันภัย การแจ้งและการสลักหลังกรมธรรม์เป็นสาระสำคัญ
กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า ถ้าเปลี่ยนตัวผู้ซื้อผ่อนชำระราคาการคุ้มครองตามกรมธรรม์สิ้นอายุเว้นแต่ได้แจ้งเป็นหนังสือและสลักหลังกรมธรรม์แล้ว ดังนี้ เมื่อได้เปลี่ยนตัวผู้ซื้อและส่งมอบรถแล้วรุ่งขึ้นรถคว่ำเสียหายก่อนแจ้งแก่ผู้รับประกันภัย การประกันภัยจึงไม่มีผลบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิสัญญาเช่าซื้อต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิโดยชัดแจ้ง การมอบแบบพิมพ์โอนสิทธิไม่ถือเป็นความยินยอม
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ จำเลยที่ 1 และผู้ร้องได้ตกลงโอนสิทธิการเช่าซื้อรถยนต์คันนั้น แม้โจทก์ยินยอมมอบแบบพิมพ์โอนสิทธิการเช่าซื้อให้จำเลยที่ 1 และผู้ร้องพร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ร้องเรียกคู่สัญญาเช่าซื้อจากจำเลยมาเก็บไว้ แต่การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าซื้อเป็นของคู่สัญญาคือโจทก์จำเลยโดยเฉพาะ ผู้ร้องและจำเลยจะโอนให้แก่กันไม่ได้เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ หรือมิฉะนั้นผู้ร้องและจำเลยต้องทำสัญญากับโจทก์โดยตรงเพียงแต่โจทก์มอบแบบพิมพ์โอนการเช่าซื้อให้จำเลยและผู้ร้องจะถือว่าโจทก์ยินยอมเป็นหนังสือยังไม่ได้ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม
of 51