คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิสัณห์ ลีตเวทย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 503 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2192/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารกู้หลายฉบับถือเป็นความผิดหลายกระทง แม้กระทำในวันเดียวกัน และการใช้เอกสารปลอมฟ้องผู้อื่นเป็นความผิดเพิ่มเติม
ปลอมเอกสารกู้ 4 ฉบับว่าโจทก์ 4 คนกู้แต่ละฉบับในวันเวลาเดียวกัน เป็นการกระทำแยกกันได้แต่ละฉบับ จำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 4 ฉบับไปแสดงต่อกรรมการสอบสวน เป็นความผิดตาม มาตรา 265,268 กระทงหนึ่ง จำเลยนำเอกสารปลอมไปฟ้องโจทก์แต่ละคนเป็น 4 สำนวนเป็นความผิดอีก 4 กระทง ศาลเรียงกระทงลงโทษ 5 กระทงตาม มาตรา 265,268

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2116-2117/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารเพื่อเบียดบังเงินค่าจ้างราษฎร ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดหลายบท
จำเลยกับพวกร่วมกันปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นหลายคนลงในบัญชีหลักฐานการจ่ายค่าแรงงาน ซึ่งความจริงบุคคลเหล่านั้นไม่เคยทำงาน และไม่ได้รับเงิน แล้วจำเลยกับพวกได้เสนอบัญชีหลักฐานการจ่ายค่าแรงนี้ไปขอเบิกเงินจากทางราชการ และเบียดบังเอาเงินจำนวนนั้นไปเป็นของ ตนและผู้อื่นเสียโดยทุจริตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,264,268 นั้น เห็นได้ว่าการที่จำเลยกับพวกปลอมและใช้เอกสารปลอมดังกล่าว ก็โดยเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการเบียดบังยักยอกเงินอันเป็นค่าแรงนั่นเอง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว แต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 อันเป็นบทหนัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการยิงใส่เรือหาปลา ผู้กระทำเล็งเห็นผลถึงแก่ความตาย
จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงไปยังเรือหาปลาของผู้ตายกับพวกเป็นชุด ๆ จำนวนหลายสิบนัด ซึ่งจำเลยทั้งสี่รู้ดีว่าในเรือหาปลาดังกล่าวมีคนอยู่ จำเลยทั้งสี่ย่อมเล็งเห็นผลว่า กระสุนปืนอาจถูกคนในเรือถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าโดยเจตนาจากการยิงใส่เรือหาปลา ผู้กระทำเล็งเห็นผลถึงการเสียชีวิต
จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงไปยังเรือหาปลาของผู้ตายกับพวกเป็นชุด ๆ จำนวนหลายสิบนัด ซึ่งจำเลยทั้งสี่รู้ดีว่าในเรือหาปลาดังกล่าวมีคนอยู่ จำเลย ทั้งสี่ย่อมเล็งเห็นผลว่า กระสุนปืนอาจถูกคนในเรือถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกพื้นที่เช่านา: แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือ แต่การได้รับค่าเช่าถือเป็นการเช่าตามกฎหมาย และการเข้าไปทำนาถือเป็นการรบกวนการครอบครอง
แม้จะได้ความว่าการเช่านาพิพาทไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อกัน แต่การที่เจ้าของนายินยอมให้ใช้นาเพื่อทำนาโดยได้รับค่าเช่านา ก็ถือได้ว่า เป็นการเช่านาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 4เมื่อผู้เสียหายเช่านาพิพาทจากจำเลยผู้เสียหายจึงเป็นผู้ครอบครองนาพิพาท การที่จำเลยเข้าไปไถหว่านข้าวในนาพิพาท จึงเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครอง ของผู้เสียหาย เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองนาเช่าและการรบกวนการครอบครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
แม้จะได้ความว่าการเช่านาพิพาทไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อกัน แต่การที่เจ้าของนายินยอมให้ใช้นาเพื่อทำนาโดยได้รับค่าเช่านา ก็ถือได้ว่าเป็นการเช่านาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 เมื่อผู้เสียหายเช่านาพิพาทจากจำเลยผู้เสียหายจึงเป็นผู้ครอบครองนาพิพาท การที่จำเลยเข้าไปไถหว่านข้าวในนาพิพาท จึงเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองผู้เสียหาย เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2072/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานพินัยกรรม: ผู้พิมพ์และกรอกข้อความรู้เห็นการทำพินัยกรรม ถือเป็นพยานได้
ผู้พิมพ์และกรอกข้อความในพินัยกรรมรู้เห็นในขณะทำพินัยกรรมแม้ไม่ระบุว่าเป็นพยาน ก็ถือเป็นพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2039/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินที่ได้จากการโอนเพื่อระงับข้อพิพาท ถือเป็นสินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส
ในระหว่างสมรสของโจทก์จำเลย จำเลยได้ที่ดินโฉนดที่ 4084และ 4198 โดย ผ. ยกให้โดยเสน่หาระบุว่าให้เป็นสินส่วนตัวกับได้ที่ดินโฉนดที่ 5191 โดย ผ. ทำพินัยกรรมยกให้และระบุให้เป็นสินส่วนตัวเช่นเดียวกัน ต่อมา ล. อ้างว่าที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ของ ผ. แต่เป็นของภรรยาซึ่งเป็นบุตรของ น. และฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งกับแจ้งความกล่าวหาจำเลยทางอาญาหลายคดี ในที่สุด ล. กับจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีหนึ่งซึ่งศาลพิพากษาตามยอมมีใจความสำคัญว่า ให้จำเลยได้ที่ดินโฉนดที่ 1176 และให้ ล. ได้ที่ดินโฉนดที่ 5191 ส่วนที่ดินโฉนดที่ 4198 และ 4084 นั้น จำเลยตกลงโอนให้ ล. โดย ล. ต้องจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนให้ 3,100,000 บาท ดังนี้ต้องถือว่าที่ดินโฉนดที่ 4084 และ 4198 กับโฉนดที่ 5191 เดิมเป็นที่ดินที่จำเลยได้รับมาเป็นสินส่วนตัว แม้จำเลยจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ ล. ดังกล่าว ก็เป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างจำเลยกับ ล. ในคดีนั้นซึ่งมีประเด็นเพียงว่าที่พิพาทเป็นของ ผ. และ ย. มีอำนาจยกให้จำเลยหรือไม่เท่านั้นไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะของทรัพย์ยังต้องถือว่าที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวเป็นสินส่วนตัวของจำเลยอยู่นั่นเอง และเมื่อจำเลยต้องโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินอันเป็นสินส่วนตัวทั้งสามแปลงนั้นให้แก่ ล. ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นเหตุให้จำเลยได้มาซึ่งที่ดินโฉนดที่ 1176 กับมีสิทธิได้เงินค่าตอบแทน 3,100,000 บาท ก็ต้องถือว่าที่ดินและเงินค่าตอบแทนดังกล่าวเข้ามาแทนที่ที่ดินทั้งสามแปลง อันเป็นสินส่วนตัวของจำเลยซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการขายหรือแลกเปลี่ยนตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465(1) ดังนั้น ที่ดินโฉนดที่ 1176 กับเงินค่าตอบแทน 3,100,000 บาท ซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลย หาใช่สินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานขายยาเสื่อมคุณภาพ เจตนาทั่วไปก็เพียงพอ ฟ้องระบุ 'มีไว้เพื่อขาย' ถือเป็นการขายตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์มีใจความว่า "จำเลยบังอาจมียา ....ซึ่งเป็นยาสิ้นอายุตามที่แสดงไว้ในสลากแล้ว (คือยาเสื่อมคุณภาพ) ไว้ในความครอบครองของจำเลยเพื่อขายและตามบทวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยา คำว่า "มีไว้เพื่อขาย" มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า "ขาย" ฟ้องของโจทก์จึงได้ความตรงตามมาตรา 121 วรรคแรกแล้ว และความผิดตามมาตรานี้ (มาตรา 121) ต้องการเพียงเจตนาธรรมดาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 เท่านั้นเมื่อโจทก์ใช้คำว่า"จำเลยบังอาจ" ก็เป็นการแสดงความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยเจตนากระทำผิดกฎหมายโจทก์หาจำต้องกล่าวในฟ้องว่า จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพไว้ด้วยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865-1867/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่: เหตุอ้างนอกโฉนดไม่เป็นเหตุงดบังคับคดี
จำเลยแพ้คดีโจทก์โดยคำพิพากษาให้ขับไล่ตามคำท้า จำเลยอ้างเหตุขึ้นใหม่ว่า บ้านและที่ดินอยู่นอกโฉนดที่พิพาทดังนี้ ไม่เป็นเหตุงดการบังคับคดีและขังจำเลยเพราะไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล
of 51