พบผลลัพธ์ทั้งหมด 224 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นผู้จัดการมรดก: ทายาท, ผู้รับพินัยกรรม, และผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก
จ.เป็นสามี ล. มีบุตรด้วยกัน 6 คน รวมทั้งผู้ร้องทั้งสามด้วย เมื่อ ล.ตายแล้ว จ.จดทะเบียนสมรสกับ ฉ.ไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ ฉ.ได้จดทะเบียนรับผู้คัดค้านที่ 1 เป็นบุตรบุญธรรม ส่วนผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3 เป็นน้องร่วมบิดาของ ฉ. ต่อมา ฉ. ตายไปโดยมิได้ทำพินัยกรรม และบิดามารดาของ ฉ.ก็ตายไปก่อนแล้ว ศาลตั้งให้ จ.เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. แต่จัดการมรดกยังไม่ทันเสร็จ จ.ก็ตายไป ก่อนตาย จ.ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ผู้ร้องทั้งสามกับพี่น้อง แม้ผู้ร้องทั้งสามไม่ใช่ทายาทของ ฉ. ผู้ร้องทั้งสามก็มีส่วนได้รับทรัพย์ที่ จ.จะได้รับแบ่งจากกองมรดกของ ฉ.ในฐานะคู่สมรส ทรัพย์สินต่าง ๆ ในกองมรดกของ ฉ.ยังมิได้แบ่งแยก คงบริคณห์ปนกันอยู่กับทรัพย์สินส่วนของ จ. เมื่อผู้ร้องทั้งสามเป็นทายาทและผู้รับพินัยกรรมของ จ. ย่อมถือได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของ ฉ. จึงมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นทายาทอันดับ 1 มีสิทธิได้รับมรดกของ ฉ. ส่วนผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3 เป็นทายาทลำดับ 4 ของ ฉ. จึงไม่มีสิทธิรับมรดก แม้จะมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหลายโฉนดร่วมกัน ฉ. ก็ไม่ใช่ส่วนได้เสียโดยตรงในกองมรดก เมื่อมีผู้อื่นที่สมควรกว่าเป็นผู้จัดการมรดกได้ ผู้คัดค้านที่ 2 ที่ 3 ก็ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องกับผู้คัดค้านต่างขอให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. และมีคดีพิพาทกันอยู่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของ ฉ. ฝ่ายใดเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียวอาจทำความเสียหายแก่กองมรดกและอีกฝ่ายหนึ่งได้ ศาลย่อมตั้งให้ผู้ร้องทั้งสามกับผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. ร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดก: ทายาท, ผู้รับพินัยกรรม, และบุตรบุญธรรม
จ. เป็นสามี ล. มีบุตรด้วยกัน 6 คน รวมทั้งผู้ร้องทั้งสามด้วยเมื่อ ล. ตายแล้ว จ. จดทะเบียนสมรสกับ ฉ. ไม่มีบุตรด้วยกันแต่ ฉ. ได้จดทะเบียนรับผู้คัดค้านที่ 1 เป็นบุตรบุญธรรมส่วนผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3 เป็นน้องร่วมบิดาของ ฉ. ต่อมา ฉ. ตายไปโดยมิได้ทำพินัยกรรม และบิดามารดาของ ฉ. ก็ตายไปก่อนแล้วศาลตั้งให้ จ. เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. แต่จัดการมรดกยังไม่ทันเสร็จ จ. ก็ตายไป ก่อนตาย จ. ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ผู้ร้องทั้งสามกับพี่น้องแม้ผู้ร้องทั้งสามไม่ใช่ทายาทของ ฉ.ผู้ร้องทั้งสามก็มีส่วนได้รับทรัพย์ที่ จ. จะได้รับแบ่งจากกองมรดกของ ฉ.ในฐานะคู่สมรสทรัพย์สินต่างๆในกองมรดกของฉ.ยังมิได้แบ่งแยก คงบริคณห์ปนกันอยู่กับทรัพย์สินส่วนของ จ. เมื่อผู้ร้องทั้งสามเป็นทายาทและผู้รับพินัยกรรมของ จ. ย่อมถือได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของ ฉ. จึงมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นทายาทอันดับ 1 มีสิทธิได้รับมรดกของ ฉ. ส่วนผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3 เป็นทายาทลำดับ 4 ของ ฉ. จึงไม่มีสิทธิรับมรดกแม้จะมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหลายโฉนดร่วมกัน ฉ. ก็ไม่ใช่ส่วนได้เสียโดยตรงในกองมรดก เมื่อมีผู้อื่นที่สมควรกว่าเป็นผู้จัดการมรดกได้ผู้คัดค้านที่ 2 ที่ 3 ก็ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกผู้ร้องกับผู้คัดค้านต่างขอให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ. และมีคดีพิพาทกันอยู่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของ ฉ. ฝ่ายใดเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียวอาจทำความเสียหายแก่กองมรดกและอีกฝ่ายหนึ่งได้ศาลย่อมตั้งให้ผู้ร้องทั้งสามกับผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ.ร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีจากเรือนจำ: ไม่มีตัวจำเลยในขณะฟ้องคดี
พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาโดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่นของศาลนั้นแต่ได้หลบหนีไปจากเรือนจำเสียแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อโจทก์ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในขณะที่ยื่นฟ้องและจำเลยมิได้ถูกศาลสั่งขังไว้ในคดีนี้ทั้งข้อเท็จจริงก็ต่างกับคดีตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1735/2514 ศาลย่อมไม่รับประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีจากเรือนจำ – ไม่มีตัวจำเลยในขณะยื่นฟ้อง
พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่นของศาลนั้น แต่ได้หลบหนีไปจากเรือนจำเสียแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในขณะที่ยื่นฟ้อง และจำเลยมิได้ถูกศาลสั่งขังไว้ในคดีนี้ ทั้งข้อเท็จจริงก็ต่างกับคดีตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1735/2514 ศาลย่อมไม่รับประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันภัยรถยนต์: การยกเว้นความรับผิดเมื่อผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์มีข้อความยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยในกรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้องตามกฎหมายอันสามารถใช้ขับขี่ยานยนต์เอาประกันภัยผู้ขับรถมีแต่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ แต่ไม่มีใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการโอนที่ดินส.ป.ก. มาตรา 12 พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ห้ามโอนให้กระทรวง ทบวง กรม
มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ห้ามมิให้ผู้ได้รับที่ดินโอนที่ดินไปยังผู้อื่นภายใน 5 ปี คำว่า "ผู้อื่น"นั้นรวมถึงกระทรวง ทบวง กรมด้วย ดังนั้นแม้แต่กระทรวงมหาดไทยหรือกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ ผู้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ไม่มีอำนาจจะรับโอนที่ดินนั้น ๆได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งซองประกวดราคาถือเป็นการละเมิด
โจทก์มอบหมายให้ บ. นำซองประกวดราคาในการก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารโรงเรียนไปยื่นต่อคณะกรรมการรับซองประกวดราคาเมื่อ บ. ยื่นซองประกวดราคาแล้ว จำเลยที่ 1 ได้แย่งเอาซองและเอกสารที่ บ. ยื่นไว้ไป การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางต้องมีคำขอในฟ้อง หากไม่มีคำขอ ศาลสั่งริบไม่ได้ แม้จะเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องและมีคำขอในเรื่องของกลาง เพิ่งปรากฏขึ้นในชั้นพิจารณาว่า ได้ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกในที่เกิดเหตุกับหัวกระสุนปืนจากบาดแผลของผู้ที่ถูกจำเลยยิงตาย 2 ลูก ดังนี้ ศาลจะสั่งริบปลอกกระสุนปืนกับหัวกระสุนปืนนี้ให้ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่5/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางต้องมีคำขอในฟ้อง หากไม่มีคำขอในฟ้อง ศาลสั่งริบไม่ได้ แม้ของกลางเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องและมีคำขอในเรื่องของกลาง เพิ่งปรากฏขึ้นในชั้นพิจารณาว่า ได้ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกในที่เกิดเหตุกับหัวกระสุนปืนจากบาดแผลของผู้ที่ถูกจำเลยยิงตาย 2 ลูก ดังนี้ศาลจะสั่งริบปลอกกระสุนปืนกับหัวกระสุนปืนนี้ให้ไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2518)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็น: ผู้ใช้ทางฟ้องเปิดทางได้ แม้ยังไม่ชำระค่าทดแทน
ผู้ใช้ทางจำเป็นผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ต้องใช้ค่าทดแทน แต่เมื่อเจ้าของที่ดินที่ทางผ่านยังไม่เรียกร้องผู้ใช้ทางก็ฟ้องให้เปิดทางได้ โดยไม่ต้องเสนอใช้ค่าทดแทนก่อน