คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1539 (4)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาคดีแย่งบุตร และขอบเขตมาตรา 254 ว.พ.พ.
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนหย่ากัน โดยมีข้อสัญญาว่าให้บุตรอยู่ในความอุปการะของโจทก์ จำเลยมาหลอกลวงเอาบุตรไป จึงฟ้องเรียกคืน ดังนี้ โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลยส่งบุตรให้โจทก์ก่อนศาลพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) เพราะมาตรา 254 นี้มิใช่ใช้เฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์เท่านั้น
โจทก์ยื่นคำขอในเหตุฉุกเฉิน พร้อมกับคำร้องขอให้ศาลใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 4 นับแต่วันนั้นกับสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลยทราบเมื่อไต่สวนแล้วศาลมีคำสั่งให้จำเลยนำบุตรไปมอบให้แก่โจทก์ภายใน 3 วันนับแต่วันได้รับทราบ ดังนี้ ถือว่าศาลดำเนินการพิจารณาไต่สวนคำร้องของโจทก์อย่างวิธีธรรมดาเพราะมิได้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267, 269

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาคดีแย่งบุตรและการใช้ ม.254 กับสิทธิในตัวบุคคล
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนหย่ากัน โดยมีข้อสัญญาว่าให้บุตรอยู่ในความอุปการะของโจทก์ จำเลยมาหลอกลวงเอาบุตรไป จึงฟ้องเรียกคืน ดังนี้โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลยส่งบุตรให้โจทก์ก่อนศาลพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) เพราะมาตรา 254 นี้มิใช่เฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์เท่านั้น
โจทก์ยื่นคำขอในเหตุฉุกเฉินพร้อมกับคำร้องขอให้ศาลใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาศาลนัดไต่สวนในวันที่ 4 นับแต่วันนั้น กับส่งให้ส่งสำเนาให้จำเลยทราบเมื่อไต่สวนแล้วศาลมีคำสั่งให้จำเลยนำบุตรไปมอบให้แก่โจทก์ภายใน 3 วันนับแต่วันได้รับทราบดังนี้ ถือว่าศาลดำเนินการพิจารณาไต่สวนคำร้องของโจทก์อย่างวิธีธรรมดา เพราะมิได้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267, 269

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตร: บิดาจดทะเบียนรับรองสิทธิโอนมาเป็นของผู้รับรอง
กรณีที่บิดามิได้จดทะเบียนรับรองบุตรนอกสมรส อำนาจปกครองบุตรย่อมอยู่แก่มารดา แต่ถ้าบิดาได้จดทะเบียนรับรอง บุตรนั้นก็เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาอำนาจปกครองย่อมโอนมาอยู่แก่บิดา ไม่ใช่อยู่แก่บิดาและมารดาทั้งสองคน
ผู้ใช้อำนาจปกครองจะมีได้เพียงคนเดียว ผิดกับผู้ปกครองซึ่งอาจมีหลายคนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตร: บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร ย่อมมีอำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียว
กรณีที่บิดามิได้จดทะเบียนรับรองบุตรนอกสมรส อำนาจปกครองบุตรย่อมอยู่แก่มารดา แต่ถ้าบิดาได้จดทะเบียนรับรองบุตรนั้นก็เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา อำนาจปกครองยอมโอนมาอยู่แก่บิดา ไม่ใช่อยู่แก่บิดาและมารดาทั้งสองคน
ผู้ใช้อำนาจปกครองจะมีได้เพียงคนเดียว ผิดกับผู้ปกครองซึ่งอาจมีหลายคนได้.