พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสมาคมและการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีตามมาตรา 1293 และ 1251 วรรคแรก ให้คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้ชำระบัญชี
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1293 เป็นบทบัญญัติถึงการเลิกสมาคม และให้ตั้งผู้ชำระบัญชี แต่เมื่อศาลมีคำสั่งเลิกสมาคมแล้ว จะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีได้บ้าง ต้องอาศัยมาตรา 1294ซึ่งให้นำมาตรา 1251 มาใช้โดยอนุโลม โดยมาตรา 1251 วรรคแรกเป็นบทบัญญัติถึงเรื่องที่จะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีเมื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี บริษัทก็ดี เลิกกิจการเพราะเหตุอื่นนอกจากล้มละลาย มิใช่จำกัดเฉพาะคดีที่เลิกโดยหุ้นส่วนของห้าง ฯหรือคณะกรรมการของบริษัท หรือสมาคมลงมติให้เลิก แม้แต่ศาลมีคำสั่งเลิกสมาคมโดยมีผู้ร้องขอตามมาตรา 1293 ก็อยู่ในบังคับของมาตรานี้ และเมื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทหรือสมาคมเลิกกัน มาตรา 1251 วรรคแรกกำหนดให้หุ้นส่วนผู้จัดการห้าง หรือกรรมการของบริษัทเป็นผู้ชำระบัญชี ฉะนั้นถ้าเป็นกรณีของสมาคมก็ต้องให้คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้ชำระบัญชี เว้นแต่จะมีข้อสัญญาของห้าง ฯ หรือข้อบังคับของบริษัทหรือสมาคมกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นแต่ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าวในวรรคแรก จึงจะนำวรรคสองของมาตรา1251 มาใช้บังคับ โดยพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียเป็นผู้ร้องขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชี ซึ่งศาลจะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีก็ได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้เลิกสมาคมผู้ร้อง ซึ่งสมาคมผู้ร้องยังมีรายชื่อคณะกรรมการที่จดทะเบียนไว้อยู่ และข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่น คำสั่งศาลที่ตั้งให้คณะกรรมการของสมาคมผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชีจึงถูกต้องแล้ว.
ศาลชั้นต้นสั่งให้เลิกสมาคมผู้ร้อง ซึ่งสมาคมผู้ร้องยังมีรายชื่อคณะกรรมการที่จดทะเบียนไว้อยู่ และข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่น คำสั่งศาลที่ตั้งให้คณะกรรมการของสมาคมผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชีจึงถูกต้องแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสมาคมและการตั้งผู้ชำระบัญชี: คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้ชำระบัญชีตามกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1293 เป็นบทบัญญัติถึงการเลิกสมาคม และให้ตั้งผู้ชำระบัญชี แต่เมื่อศาลมีคำสั่งเลิกสมาคมแล้ว จะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีได้บ้าง ต้องอาศัยมาตรา 1294 ซึ่งให้นำมาตรา 1251 มาใช้โดยอนุโลม โดยมาตรา 1251 วรรคแรกเป็นบทบัญญัติถึงเรื่องที่จะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีเมื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี บริษัทก็ดี เลิกกิจการเพราะเหตุอื่นนอกจากล้มละลาย มิใช่จำกัดเฉพาะคดีที่เลิกโดยหุ้นส่วนของห้าง ฯหรือคณะกรรมการของบริษัท หรือสมาคมลงมติให้เลิก แม้แต่ศาลมีคำสั่งเลิกสมาคมโดยมีผู้ร้องขอตามมาตรา 1293 ก็อยู่ในบังคับของมาตรานี้ และเมื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทหรือสมาคมเลิกกัน มาตรา 1251 วรรคแรกกำหนดให้หุ้นส่วนผู้จัดการห้าง หรือกรรมการของบริษัทเป็นผู้ชำระบัญชี ฉะนั้นถ้าเป็นกรณีของสมาคมก็ต้องให้คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้ชำระบัญชี เว้นแต่จะมีข้อสัญญาของห้าง ฯ หรือข้อบังคับของบริษัทหรือสมาคมกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นแต่ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าวในวรรคแรก จึงจะนำวรรคสองของมาตรา 1251 มาใช้บังคับ โดยพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียเป็นผู้ร้องขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชี ซึ่งศาลจะตั้งผู้ใดเป็นผู้ชำระบัญชีก็ได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้เลิกสมาคมผู้ร้อง ซึ่งสมาคมผู้ร้องยังมีรายชื่อคณะกรรมการที่จดทะเบียนไว้อยู่ และข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่น คำสั่งศาลที่ตั้งให้คณะกรรมการของสมาคมผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชีจึงถูกต้องแล้ว.
ศาลชั้นต้นสั่งให้เลิกสมาคมผู้ร้อง ซึ่งสมาคมผู้ร้องยังมีรายชื่อคณะกรรมการที่จดทะเบียนไว้อยู่ และข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่น คำสั่งศาลที่ตั้งให้คณะกรรมการของสมาคมผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชีจึงถูกต้องแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสมาคมที่ถูกเพิกถอน: ผู้ชำระบัญชียังมีอำนาจฟ้องได้จนกว่าการชำระบัญชีจะเสร็จสิ้น
ป. นายกสมาคมโจทก์ย่อมเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีของสมาคมโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคแรกประกอบด้วยมาตรา 1294 แม้สมาคมโจทก์ถูกลบชื่อจากทะเบียนแล้ว ตามมาตรา 1249 ก็ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี สมาคมโจทก์โดยป. ผู้ชำระบัญชีจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในภารจำยอมโดยอายุความและการปิดกั้นทางระบายน้ำ
เดิมที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่มาแบ่งแยกภายหลัง มีคูระบายน้ำและใช้ระบายน้ำโสโครกผ่านที่ดินในส่วนที่ตกมาเป็นของจำเลยตั้งแต่เจ้าของเดิม เมื่อที่ดินตกมาเป็นของโจทก์ โจทก์ก็ใช้คูระบายน้ำโสโครกต่อมาอีกกว่า 10 ปีแล้ว ดังนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิในภาระจำยอมโดยอายุความเหนือที่ดินจำเลย จำเลยจะปิดคูระบายน้ำเสียไม่ได้
ข้อต่อสู้ของจำเลยว่า จำเลยมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ไม่ขอสืบพยานนั้น ศาลไม่รับฟัง
ข้อต่อสู้ของจำเลยว่า จำเลยมีสิทธิกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ไม่ขอสืบพยานนั้น ศาลไม่รับฟัง