พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร, สิทธิของเจ้าของทรัพย์สินที่เสียภาษีถูกต้อง, และการติดตามเอาคืนจากผู้ซื้อโดยสุจริต
รถยนต์รายพิพาทผู้นำเข้าเสียอากรนำเข้าถูกต้องแล้ว โจทก์รับประกันภัยไว้ รถคันนี้ถูกคนร้ายลักไป โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วรับโอนไว้จากผู้เอาประกันภัย ซึ่งชำระค่าเช่าซื้อรถครบถ้วนแล้ว เจ้าพนักงานศุลกากรของจำเลยจับรถได้ หาว่านำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีอากรแล้วขายต่อไป จำเลยสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ตรวจสอบว่าเป็นรถที่เสียอากรแล้วหรือไม่ เป็นประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 25 ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2497 คำว่าสิ่งใด ๆ ที่พึงต้องริบ นำมาใช้แก่รถยนต์ที่เสียอากรแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงริบ ไม่ได้ แม้เกิน 30 วัน โจทก์ก็เรียกคืนได้ จำเลยซื้อรถโดยสุจริต แต่มิใช่จากการขายทอดตลาด ไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ-ประกันภัย: ผู้เช่าซื้อมีส่วนได้เสียในเหตุประกันภัย แม้มีผู้ชำระค่างวดแทน ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้
พ.เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันหนึ่งจากบริษัทส.ผู้ให้เช่าซื้อโดยมีต. เป็นผู้ชำระค่าเช่าซื้อ และพ. ได้เอาประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวไว้กับโจทก์โดยสลักหลังกรมธรรม์ให้บริษัท ส. เป็นผู้รับประโยชน์ในกรณีที่รถยนต์หาย พ. ในฐานะคู่สัญญาตามสัญญาเช่าซื้อย่อมมีสิทธิที่จะยึดถือและใช้ประโยชน์ ตลอดจนต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแก่รถยนต์ที่เช่าซื้อ และเมื่อใช้เงินครบถ้วนตามสัญญาเช่าซื้อแล้วรถยนต์นั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ พ.หรือถ้าเลิกสัญญาเช่าซื้อกัน พ. ก็มีหน้าที่ ต้องส่งมอบรถยนต์คืนให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อในสภาพเดิม ดังนี้ พ. ผู้เช่าซื้อย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยไว้ เมื่อรถยนต์ดังกล่าวหายไปเพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยและของผู้รับประโยชน์ที่จะฟ้องจำเลยให้รับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: การบอกล้างสัญญา, สิทธิเรียกร้อง, และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ผู้เอาประกันชีวิตระหว่างเดินทางเอาประกันไว้กับบริษัทหนึ่งแล้วขอเลื่อนวันเดินทาง บริษัทยังไม่อนุมัติ กับได้ขอเอาประกันกับอีกบริษัทซึ่งยังไม่ตอบรับ ผู้นั้นเอาประกันกับบริษัทจำเลยอีก ข้อความที่ว่าไม่เคยประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุกับบริษัทอื่นก่อนเป็นข้อสำคัญที่จำเลยอาจบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา แต่การประกันภัยครั้งนี้เป็นคนละระยะเวลากับครั้งก่อนที่ยังไม่อนุมัติเลื่อนการเดินทางจึงถือไม่ได้ว่าได้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทอื่นก่อน
การบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 ต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากบริษัททราบเหตุที่ปกปิดข้อความจริง การบอกล้างหลังจากนั้นไม่มีผล
สัญญาประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินมีเงื่อนไขให้จ่ายเงินในกรณีตายรวมทั้งบาดเจ็บนั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้เงินอันอาศัยความมรณะ เป็นประกันชีวิตตาม มาตรา 889 ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ไม่มีการจ่ายเงินตามลำดับผู้รับประกันภัยก่อนหลัง ตาม มาตรา 870
โจทก์ขวนขวายออกเงินให้ผู้อื่นเอาประกันชีวิตโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ยังไม่พอเป็นข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันชีวิตของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการที่ผู้เอาประกันซึ่งมีส่วนได้เสียเอาประกันชีวิตตนเอง
การบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 ต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากบริษัททราบเหตุที่ปกปิดข้อความจริง การบอกล้างหลังจากนั้นไม่มีผล
สัญญาประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินมีเงื่อนไขให้จ่ายเงินในกรณีตายรวมทั้งบาดเจ็บนั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้เงินอันอาศัยความมรณะ เป็นประกันชีวิตตาม มาตรา 889 ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ไม่มีการจ่ายเงินตามลำดับผู้รับประกันภัยก่อนหลัง ตาม มาตรา 870
โจทก์ขวนขวายออกเงินให้ผู้อื่นเอาประกันชีวิตโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ยังไม่พอเป็นข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันชีวิตของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการที่ผู้เอาประกันซึ่งมีส่วนได้เสียเอาประกันชีวิตตนเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยค้ำจุน: ตัวแทนทำสัญญาแทนตัวการ และความรับผิดตามสัญญา
รถยนต์ที่ บ.เอาไปประกันภัยค้ำจุนกับจำเลยที่ 2 เป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 โดย บ.เป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 ในสัญญาประกันภัยก็ลงที่อยู่ของ บ.ที่เดียวกับที่ตั้งของห้างจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 2 รับว่าได้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ไว้จริง จึงน่าเชื่อว่า บ.เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประกันภัยแทนจำเลยที่ 1 โดยไม่เปิดเผยชื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การว่าจำเลยที่ 1 เอารถยนต์ไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 2 จึงเป็นการที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการมิได้เปิดเผยชื่อกลับแสดงตนให้ปรากฏและรับเอาสัญญาประกันภัยซึ่ง บ.ตัวแทนได้ทำไว้แทนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806
โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ต้องสืบพยานว่า จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนหรือไม่ ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงในคำให้การของจำเลยที่ 1 มาวินิจฉัย ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยความรับผิดตามสัญญาประกันภัยที่โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากัน หาใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่สละแล้วไม่
โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ต้องสืบพยานว่า จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนหรือไม่ ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงในคำให้การของจำเลยที่ 1 มาวินิจฉัย ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยความรับผิดตามสัญญาประกันภัยที่โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากัน หาใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่สละแล้วไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนทำสัญญาประกันภัยแทนตัวการ การรับผิดตามสัญญาประกันภัยค้ำจุน
รถยนต์ที่ บ.เอาไปประกันภัยค้ำจุนกับจำเลยที่ 2 เป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ 1 โดย บ.เป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 ในสัญญาประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ไว้จริงจึงน่าเชื่อว่า บ.เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประกันภัยแทนจำเลยที่ 1 โดยไม่เปิดเผยชื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การว่าจำเลยที่ 1 เอารถยนต์ไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 2 จึงเป็นการที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการมิได้เปิดเผยชื่อกลับแสดงตนให้ปรากฏและรับเอาสัญญาประกันภัยซึ่ง บ.ตัวแทนได้ไว้แทนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806
โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ต้องสืบพยานว่า จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนหรือไม่ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงในคำให้การของจำเลยที่ 1 มาวินิจฉัย ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยความรับผิดตามสัญญาประกันภัยที่โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันหาใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่สละแล้วไม่
โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ต้องสืบพยานว่า จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนหรือไม่ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงในคำให้การของจำเลยที่ 1 มาวินิจฉัย ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยความรับผิดตามสัญญาประกันภัยที่โจทก์และจำเลยที่ 2 ท้ากันหาใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่สละแล้วไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าซื้อในการเรียกร้องค่าทดแทนจากประกันภัย แม้ไม่ใช่เจ้าของรถ
ผู้เช่าซื้อรถยนต์มีสิทธิยึดถือใช้ประโยชน์และรับผิดในความเสียหายแก่รถ เป็นผู้มีส่วนได้เสียเอาประกันภัยรถนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เช่าซื้อในสัญญาประกันภัย: การตีความผู้เอาประกันภัยที่แท้จริงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะจากผู้เช่าซื้อเป็นเจ้าของ
โจทก์ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ครบถ้วนแล้ว ได้เอารถยนต์ไปประกันภัยกับบริษัทจำเลย โดยผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้แนะนำและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทจำเลย และเป็นผู้รับฝากเงินเบี้ยประกันภัยจากโจทก์เพื่อชำระให้แก่บริษัทจำเลยการที่มีชื่อผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันในกรมธรรม์ แต่ในวงเล็บมีชื่อโจทก์และที่อยู่ของผู้เอาประกันก็ลงที่อยู่ของโจทก์ ทั้งนี้ โดยผู้ให้เช่าซื้อมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยนั้น หลังจากโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนก็เพื่อเป็นการสะดวกแก่การที่จำเลยจะมาเก็บเงินและเพื่อผู้ใช้เช่าซื้อจะได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยเท่านั้น โจทก์ผู้เช่าซื้อจึงเป็นผู้เอาประกันภัย มีอำนาจฟ้องบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัยเกี่ยวกับความเสียหายของรถยนต์ของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: ผู้เอาประกันภัยที่แท้จริง แม้ชื่อในกรมธรรม์ไม่ตรงกับผู้รับประโยชน์
โจทก์ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ครบถ้วนแล้ว ได้เอารถยนต์ไปประกันภัยกับบริษัทจำเลย โดยผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้แนะนำและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทจำเลย และเป็นผู้รับฝากเงินเบี้ยประกันภัยจากโจทก์เพื่อชำระให้แก่บริษัทจำเลย การที่มีชื่อผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันในกรมธรรม์ แต่ในวงเล็บมีชื่อโจทก์และที่อยู่ของผู้เอาประกันก็ลงที่อยู่ของโจทก์ ทั้งนี้ โดยผู้ให้เช่าซื้อมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยนั้นหลังจากโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนก็เพื่อเป็นการสะดวกแก่การที่จำเลยจะมาเก็บเงิน และเพื่อผู้ให้เช่าซื้อจะได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยเท่านั้น โจทก์ ผู้เช่าซื้อจึงเป็นผู้เอาประกันภัย มีอำนาจฟ้องบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัย เกี่ยวกับความเสียหายของรถยนต์ของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยรถยนต์และการมีอำนาจฟ้อง: ผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนได้เสียในรถยนต์
ส. เจ้าของรถยนต์ได้โอนขายรถยนต์ให้แก่บุคคลอื่นไปก่อนที่จะนำรถยนต์ดังกล่าวมาประกันวินาศภัยไว้กับโจทก์ แม้การประกันทำในนามของ ส. เอง ส. ก็ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันวินาศภัยไว้ กรมธรรม์ประกันภัยระหว่างโจทก์กับ ส. จึงไม่ผูกพันคู่กรณี เมื่อรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ชนกับรถของจำเลย แม้โจทก์ได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์แทน ส. ไปแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าซ่อมรถจากจำเลย ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยรถยนต์ของผู้ไม่ใช่เจ้าของรถ: สิทธิเรียกร้องและอำนาจฟ้อง
ส. เจ้าของรถยนต์ได้โอนขายรถยนต์ให้แก่บุคคลอื่นไปก่อนที่จะนำรถยนต์ดังกล่าวมาประกันวินาศภัยไว้กับโจทก์ แม้การประกันทำในนามของ ส. เอง ส. ก็ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันวินาศภัยไว้กรมธรรม์ประกันภัยระหว่างโจทก์ กับ ส. จึงไม่ผูกพันคู่กรณีเมื่อรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ชนกับรถของจำเลย แม้โจทก์ได้ชำระค่าซ่อมแซมรถยนต์แทน ส. ไปแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าซ่อมรถจากจำเลยปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง