พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานนำเงินตราปลอมออกใช้ การระบุเวลาเกิดเหตุตามฟ้องต้องชัดเจนและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11) เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน เป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ตามกฎหมาย แต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา24.00 นาฬิกาของวันเดียวกัน อันเป็นระยะเวลาหลังจากจำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึงมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเงินตราปลอมออกใช้หลังทราบว่าเป็นของปลอม มีรายละเอียดเวลาการกระทำความผิดตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ดังนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(11)เวลาเกิดเหตุตามฟ้องของโจทก์ ก็คือตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันเป็นระยะเวลานาน 6 ชั่วโมง เข้าใจได้ว่าจำเลยได้รู้อยู่ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินตราซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นไม่สามารถใช้ได้ ตามกฎหมายแต่จำเลยได้ขืนนำออกใช้เมื่อเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ตกของวันที่ 9 มิถุนายน 2525 จนถึงเวลา 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกันอันเป็นระยะเวลาหลังจาก จำเลยได้มาซึ่งเงินตราที่มีผู้ทำปลอมขึ้น ฟ้องโจทก์จึง มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดอำนาจศาล: การปลอมลายมือชื่อผู้ขอประกันเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ในคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวมีลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อปลอมและมีลายมือชื่อจำเลย พฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยรู้เห็นในการปลอมลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันแล้วให้นำมายื่นต่อศาลชั้นต้นและแถลงเท็จต่อศาล การกระทำของจำเลยจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา31 และมาตรา 33
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดต่อศาล ถ้าได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดก็จะปรากฏต่อศาลแล้วศาลย่อมลงโทษได้ทันที แต่ถ้ามิได้กระทำต่อหน้าศาลหรือศาลยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนั้นจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลก็ชอบที่จะไต่สวนหาความจริงในภายหลังได้
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงได้โดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป การที่ศาลชั้นต้นบันทึกถ้อยคำของ ส.ไว้ในแบบพิมพ์คำให้การโดยส. ได้ปฏิญาณหรือสาบานตนแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112แม้จะมิได้กระทำต่อหน้าจำเลย ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
ศาลล่างมิได้อ้างบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทเสียให้ถูกต้องได้
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดต่อศาล ถ้าได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดก็จะปรากฏต่อศาลแล้วศาลย่อมลงโทษได้ทันที แต่ถ้ามิได้กระทำต่อหน้าศาลหรือศาลยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนั้นจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลก็ชอบที่จะไต่สวนหาความจริงในภายหลังได้
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงได้โดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป การที่ศาลชั้นต้นบันทึกถ้อยคำของ ส.ไว้ในแบบพิมพ์คำให้การโดยส. ได้ปฏิญาณหรือสาบานตนแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112แม้จะมิได้กระทำต่อหน้าจำเลย ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
ศาลล่างมิได้อ้างบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดอำนาจศาล: การปลอมลายมือชื่อผู้ขอประกันเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ในคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวมีลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อปลอมและมีลายมือชื่อจำเลย พฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยรู้เห็นในการปลอมลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันแล้วให้นำมายื่นต่อศาลชั้นต้นและแถลงเท็จต่อศาล การกระทำของจำเลยจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31และมาตรา 33
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดต่อศาล ถ้าได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดก็จะปรากฏต่อศาลแล้ว ศาลย่อมลงโทษได้ทันที แต่ถ้ามิได้กระทำต่อหน้าศาลหรือศาลยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนั้นจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลก็ชอบที่จะไต่สวนหาความจริงในภายหลังได้
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงได้โดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป การที่ศาลชั้นต้นบันทึกถ้อยคำของ ส. ไว้ในแบบพิมพ์คำให้การโดย ส. ได้ปฏิญาณหรือสาบานตนแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 แม้จะมิได้กระทำต่อหน้าจำเลย ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
ศาลล่างมิได้อ้างบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทเสียให้ถูกต้องได้
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดต่อศาล ถ้าได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดก็จะปรากฏต่อศาลแล้ว ศาลย่อมลงโทษได้ทันที แต่ถ้ามิได้กระทำต่อหน้าศาลหรือศาลยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนั้นจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลก็ชอบที่จะไต่สวนหาความจริงในภายหลังได้
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงได้โดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป การที่ศาลชั้นต้นบันทึกถ้อยคำของ ส. ไว้ในแบบพิมพ์คำให้การโดย ส. ได้ปฏิญาณหรือสาบานตนแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 แม้จะมิได้กระทำต่อหน้าจำเลย ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
ศาลล่างมิได้อ้างบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: ความรับผิดตามสัญญาแม้สินค้าไม่ตรงตามเอกสาร และผลของการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาทรัสต์รีซีท
จำเลยเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารโจทก์โดยมีข้อตกลงว่า ในกรณีที่เอกสารต่าง ๆ ถูกต้องแล้ว ธนาคารโจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีสินค้าที่ส่งมาเสียหายขาดจำนวนหรือบกพร่อง และตกลงให้ถือเอาระเบียบประเพณีและพิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเครดิตมีเอกสารประกอบ (แก้ไขเพิ่มเติมปี ค.ศ.1962) ของสภาหอการค้านานาชาติ ซึ่งระบุว่าให้ถือเอาความถูกต้องของเอกสารเป็นหลัก เป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญา เมื่อปรากฏว่าเอกสารต่าง ๆ ที่ส่งมาคือ รายการสินค้าที่ระบุไว้ในใบตราส่ง (BILLSOFLADING) และบัญชีราคาสินค้า(INVOICES) ทุกรายการถูกต้องตรงกับรายการสินค้าในใบเสนอ(OFFER) ซึ่งแนบท้ายเลตเตอร์ออฟเครดิต และบริษัทผู้ขายสินค้าได้เสนอเอกสารต่าง ๆ ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่ระบุในเลตเตอร์ออฟเครดิตแล้ว แม้สินค้านั้นไม่ตรงตามรายการที่ระบุในใบตราส่งบัญชีราคาสินค้าและใบเสนอดังกล่าวก็ตาม จำเลยก็ต้องรับผิดตามข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้
จำเลยทำสัญญาทรัสต์รีซีทสำหรับสินค้าที่ส่งมา โดยแบ่งแยกชำระเป็นงวด ๆ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดแรกโจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยรับผิดในหนี้ทั้งจำนวนได้
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2524)
จำเลยทำสัญญาทรัสต์รีซีทสำหรับสินค้าที่ส่งมา โดยแบ่งแยกชำระเป็นงวด ๆ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดแรกโจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยรับผิดในหนี้ทั้งจำนวนได้
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลตเตอร์ออฟเครดิต: ความรับผิดตามเอกสารถูกต้อง แม้สินค้าไม่ตรงตามสัญญา
จำเลยเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารโจทก์โดยมีข้อตกลงว่า ในกรณีที่เอกสารต่าง ๆ ถูกต้องแล้ว ธนาคารโจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีสินค้าที่ส่งมาเสียหายขาดจำนวนหรือบกพร่อง และตกลงให้ถือเอาระเบียบประเพณีและพิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเครดิตมีเอกสารประกอบ (แก้ไขเพิ่มเติมปี ค.ศ.1962) ของสภาหอการค้านานาชาติ ซึ่งระบุว่าให้ถือเอาความถูกต้องของเอกสารเป็นหลัก เป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญา เมื่อปรากฏว่าเอกสารต่าง ๆ ที่ส่งมาคือ รายการสินค้าที่ระบุไว้ในใบตราส่ง (BILLS OF LADING) และบัญชีราคาสินค้า (INVOICES) ทุกรายการถูกต้องตรงกับรายการสินค้าในใบเสนอ (OFFER) ซึ่งแนบท้ายเลตเตอร์ออฟเครดิต และบริษัทผู้ขายสินค้าได้เสนอเอกสารต่าง ๆ ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่ระบุในเลตเตอร์ออฟเครดิตแล้ว แม้สินค้านั้นไม่ตรงตามรายการที่ระบุในใบตราส่งบัญชีราคาสินค้าและใบเสนอดังกล่าวก็ตาม จำเลยก็ต้องรับผิดตามข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้
จำเลยทำสัญญาทรัสต์รีซีทสำหรับสินค้าที่ส่งมา โดยแบ่งแยกชำระเป็นงวด ๆ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดแรก โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยรับผิดในหนี้ทั้งจำนวนได้
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2524)
จำเลยทำสัญญาทรัสต์รีซีทสำหรับสินค้าที่ส่งมา โดยแบ่งแยกชำระเป็นงวด ๆ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดแรก โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยรับผิดในหนี้ทั้งจำนวนได้
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย: ประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย vs. บุคคลอื่น
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879 บัญญัติว่าผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์นั้น เป็นบทบัญญัติที่ยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย จึงต้องตีความโดยเคร่งครัดว่าหมายถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์เองเท่านั้น ไม่หมายรวมถึง ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของลูกจ้างผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้รับประกันภัย: ประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879 บัญญัติว่าผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์นั้น เป็นบทบัญญัติที่ยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย จึงต้องตีความโดยเคร่งครัดว่าหมายถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์เองเท่านั้น ไม่หมายรวมถึง ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของลูกจ้างผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการเช่า: เช็คและหนังสือรับเช็คต้องระบุค่าเช่าชัดเจน จึงถือเป็นหลักฐานการเช่าตามกฎหมาย
เช็คและหนังสือรับเช็คมิได้มีข้อความแสดงให้เห็นว่าเป็นการชำระค่าเช่า ย่อมไม่เป็นหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตั๋วสัญญาใช้เงิน: ชื่อผู้ถือ/ออกตั๋วไม่ตรงกับลายมือชื่อ, สัญญาค้ำประกัน, การนำสืบ
ตั๋วสัญญาใช้เงินระบุชื่อ ศ. เป็นผู้ออกตั๋ว แต่ลายมือชื่อผู้ออกตั๋วเป็น ส. เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ศ. และ ส. เป็นบุคคลคนเดียวกันตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไม่เป็นโมฆะ ทั้งไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ ว่าจะต้องระบุชื่อผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินคงบังคับเพียงว่าต้อง มีลายมือชื่อผู้ออกตั๋วเท่านั้น
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่า ทำสัญญาค้ำประกัน ส. เท่านั้นไม่ได้ค้ำประกัน ศ. คำให้การดังกล่าวจึงไม่มีประเด็นเรื่องสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม ดังนั้นที่จำเลยที่ 2 นำสืบว่าสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่า ทำสัญญาค้ำประกัน ส. เท่านั้นไม่ได้ค้ำประกัน ศ. คำให้การดังกล่าวจึงไม่มีประเด็นเรื่องสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม ดังนั้นที่จำเลยที่ 2 นำสืบว่าสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน