คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2675/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดหมิ่นประมาท ศาลต้องพิจารณาข้อความที่อ้างถึงในคำฟ้องและเอกสารประกอบเพื่อวินิจฉัยว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่
คดีหมิ่นประมาท โจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความบางตอนที่อ้างว่าเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ และได้บรรยายด้วยว่ารายละเอียดข้อความดังกล่าวปรากฏตามภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้อง ดังนี้ศาลหยิบยกเอาข้อความในเอกสารท้ายฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้องมาพิจารณาว่าโจทก์บรรยายฟ้องครบองค์ความผิดหรือไม่ได้
โจทก์แถลงขอสืบพยานว่า ข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังเมื่อบุคคลอื่นได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ดังนี้ จึงไม่อาจพิจารณาแต่เพียงข้อความในเอกสารท้ายฟ้องเท่านั้น ศาลชอบที่จะทำการพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2656/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. แม้ครอบครองคนละไม่เกินแต่รวมกันเกินถือเป็นตัวการร่วม
การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป ปริมาตร0.30 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครอง ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกันกระทำผิดฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จำเลยทั้งสองจะอ้างว่า จำเลยแต่ละคนครอบครองไม้หวงห้ามแปรรูปกันไม่เกินคนละ 0.20 ลูกบาศก์เมตร หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2656/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปเกิน 0.20 ลบ.ม. แม้ครอบครองไม่เกินคนละ 0.20 ลบ.ม. ก็ยังเป็นความผิด
การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป ปริมาตร 0.30 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครอง ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกันกระทำผิดฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จำเลยทั้งสองจะอ้างว่า จำเลยแต่ละคนครอบครองไม้หวงห้ามแปรรูปกันไม่เกินคนละ 0.20 ลูกบาศก์เมตร หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อบุคคลภายนอก: สิทธิในการโต้แย้งหนี้และหลักเกณฑ์การพิจารณา
โจทก์อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยอันมีต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ร้องปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องได้หากศาลไต่สวนแล้วเป็นที่พอใจว่าหนี้ที่เรียกร้องมีอยู่จริงก็มีคำสั่งให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามคำสั่งอายัดฎีกาในปัญหาที่ว่าจะอายัดได้หรือไม่ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินสาธารณะ: แม้ที่ดินเป็นสาธารณะ แต่เมื่อสิ่งปลูกสร้างตกเป็นของโจทก์แล้ว โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองและให้เช่าได้
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ปลูกสร้างสะพานและอาคารบนสะพานโดยมีข้อตกลงในสัญญาว่าเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดให้สิ่งปลูกสร้างนั้นตกเป็นของโจทก์ ครบกำหนดสัญญาเช่าเดิมจำเลยได้โอนสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้วและเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้นต่อมา แม้ภายหลังปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์ให้จำเลยเช่านั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และนายอำเภอผู้ปกครองดูแลที่สาธารณะฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินแต่ก็มิได้อ้างสิทธิในสิ่งปลูกสร้างด้วยสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวหาตกเป็นของรัฐไม่ โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง จำเลยเช่าสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าโดยชำระค่าเช่าให้โจทก์ และครบกำหนดสัญญาเช่าโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินสาธารณะ: สิทธิของเจ้าของสิ่งปลูกสร้างเมื่อที่ดินเป็นสาธารณะ
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ปลูกสร้างสะพานและอาคารบนสะพาน โดยมีข้อตกลงในสัญญาว่าเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดให้สิ่งปลูกสร้างนั้นตกเป็นของโจทก์ ครบกำหนดสัญญาเช่าเดิมจำเลยได้โอนสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้วและเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้นต่อมา แม้ภายหลังปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์ให้จำเลยเช่านั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และนายอำเภอผู้ปกครองดูแลที่สาธารณะฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินแต่ก็มิได้อ้างสิทธิในสิ่งปลูกสร้างด้วยซึ่งปลูกสร้างดังกล่าว หากตกเป็นของรัฐไม่ โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง จำเลยเช่าสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าโดยชำระค่าเช่าให้โจทก์ และครบกำหนดสัญญาเช่าโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2496/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่สมบูรณ์ นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียน หนี้เดิมยังไม่ระงับ
แม้จะได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยให้เจ้าหนี้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทน้ำตาล บ.จำกัด จำนวน 3,000 หุ้น มูลค่าเป็นเงิน 3,000,000 บาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการโอนสิทธิเรียกร้องและระงับหนี้ซึ่งลูกหนี้สั่งจ่ายเช็คไว้ตามสัญญากู้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1119 นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางไม่จดทะเบียนให้ จึงไม่มีผลบังคับ หนี้เดิมของเจ้าหนี้จึงยังไม่ระงับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ตามเช็คของลูกหนี้ ย่อมไม่โดยไปยังบริษัทน้ำตาล บ.จำกัด เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้รายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2496/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประนีประนอมยอมความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้หนี้เดิมยังไม่ระงับ เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้
แม้จะได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยให้เจ้าหนี้ มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทน้ำตาล ย. จำกัด จำนวน3,000 หุ้น มูลค่า เป็นเงิน 3,000,000 บาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการโอนสิทธิเรียกร้องและ ระงับหนี้ซึ่งลูกหนี้สั่งจ่ายเช็คไว้ตามสัญญากู้ก็ตาม แต่ปรากฏว่าไม่ชอบ ด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1119 นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางไม่จดทะเบียนให้ จึงไม่มีผลบังคับ หนี้เดิมของเจ้าหนี้จึงยังไม่ระงับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ตามเช็คของลูกหนี้ ย่อมไม่โอนไปยังบริษัทน้ำตาล ย. จำกัด เจ้าหนี้มีสิทธิ ที่จะได้รับชำระหนี้รายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2410/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน – ฉ้อโกง vs. ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค – กรรมเดียวกัน
การที่จำเลยนำเช็คมาแลกเงินสดกับโจทก์โดยจำเลยกล่าวหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จฯ นั้น ความผิดฐานฉ้อโกงกับความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คจนศาลประทับฟ้องแล้วโจทก์จะมาฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173วรรคสอง (1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2410/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: ฉ้อโกงกับการใช้เช็คเป็นกรรมเดียวกัน การฟ้องซ้ำจึงเป็นฟ้องซ้อน
การที่จำเลยนำเช็คมาแลกเงินสดกับโจทก์โดยจำเลยกล่าวหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จฯ นั้น ความผิดฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เป็นการกระทำกรรมเดียวกัน เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จนศาลประทับฟ้องแล้ว โจทก์จะมาฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
of 70