พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีอาญาศาลแขวง: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยพยานใหม่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าเป็นการผิดข้อตกลงในทางแพ่ง ไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยหลอกลวงโจทก์หรือไม่ เป็นการพิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้แล้วว่า จำเลยไม่ได้ใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ พิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้พิจารณาจากคำเบิกความของพยานในสำนวนอีกว่า ความจริงจำเลยหลอกลวงโจทก์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499มาตรา 22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในฐานะผู้ทรงเช็ค: การรับมรดกและสิทธิในทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินและสิทธิทั้งหลายร่วมกับนายจิตติ สามี และร่วมกับสามีเป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง เมื่อสามีตายโจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีต่อศาล ตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินในฐานะที่โจทก์มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับสามี เนื่องจากการตายของสามีประการหนึ่ง และในฐานะคู่สมรสซึ่งโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมในการรับมรดกส่วนของสามีอีกประการหนึ่ง เมื่อหนี้เงินตามเข็คเป็นทรัพย์สินที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะภริยาและเป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนางจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากันโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนางจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากันโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในการเรียกเงินตามเช็ค: ผู้จัดการมรดกมีอำนาจฟ้องในฐานะทายาทและเจ้าของสิทธิร่วม
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินและสิทธิทั้งหลาย ร่วมกับนายจิตติสามี และร่วมกับสามีเป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง เมื่อสามีตายโจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีต่อศาล ตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินในฐานะที่โจทก์มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับสามีเนื่องจากการตายของสามีประการหนึ่ง และในฐานะคู่สมรสซึ่งโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมในการรับมรดกส่วนของสามีอีกประการหนึ่ง เมื่อหนี้เงินตามเช็คเป็นทรัพย์สินที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะภริยาและเป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนายจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากับโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนายจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากับโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีเกินจำนวนหนี้: ศาลมีอำนาจสั่งระงับการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่เหลือได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 284 เมื่อได้เงินมาพอจำนวนที่จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียม (ในคดี) และค่าธรรมเนียม (ในการบังคับคดี) แล้ว หากมีทรัพย์ที่ยึดเหลืออยู่อีก เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเอาทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดต่อไปมิได้ ดังนั้น เมื่อขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1713 ได้เงินมาพอชำระหนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1739พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้ต่อไปอีกจึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าว จำเลยชอบที่จะขอให้งดการขายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีเกินจำนวนหนี้: ศาลสั่งงดขายทอดตลาดทรัพย์สินที่เหลือเมื่อชำระหนี้ครบแล้ว
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 284 เมื่อได้เงินมาพอจำนวนที่จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียม (ในคดี) และค่าธรรมเนียม (ในการบังคับคดี) แล้ว หากมีทรัพย์ที่ยึดเหลืออยู่อีก เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเอาทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดต่อไปมิได้ ดังนั้น เมื่อขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1713 ได้เงินมาพอชำระหนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1739 พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้ต่อไปอีก จึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าว จำเลยชอบที่จะขอให้งดการขายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: เหตุจำเป็นในการใช้กำลังเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายจากการถูกรุกราน
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ก่อเหตุขึ้น รุกรานเข้าไปยิงโดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 1 ถึงในบ้าน (โดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิง 1 นัด จากลานบ้านขึ้นไปบนบ้าน) จำเลยที่ 1 จึงกระโดดจากชานลงไปที่โคนต้นมะม่วง ห่างจำเลยที่ 2 ประมาณ 2 เมตร จำเลยที่ 2 บรรจุกระสุนปืนอีก และจ้องปืนมาที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงขักอาวุธปืนที่ติดตัวอยู่ยิงจำเลยที่ 2 ไป 3 นัด กระสุนปืนถูกโคนแขนจำเลยที่ 2 นัดเดียว ดังนี้ จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่จำเป็นต้องหนีผู้ที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายแก่ตน ในเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้า ไม่แน่ว่าจำเลยที่ 2 จะยิงจำเลยที่ 1 อีกหรือไม่ จำเลยที่ 1 ไม่มีโอกาสคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากยิงเพื่อป้องกันตนให้พ้นอันตรายเฉพาะหน้า เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันอันตรายจากผู้รุกราน
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ก่อเหตุขึ้น รุกรานเข้าไปยิงโดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 1 ถึงในบ้าน (โดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิง 1 นัด จากลานบ้านขึ้นไปบนบ้าน) จำเลยที่ 1 จึงกระโดดจากชานลงไปที่โคนต้นมะม่วง ห่างจำเลยที่ 2 ประมาณ 2 เมตร จำเลยที่ 2 บรรจุกระสุนปืนอีก และจ้องปืนมาที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงชักอาวุธปืนที่ติดตัวอยู่ยิงจำเลยที่ 2 ไป 3 นัดกระสุนปืนถูกโคนแขนจำเลยที่ 2 นัดเดียว ดังนี้จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมายและไม่จำเป็นต้องหนีผู้ที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายแก่ตน ในเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้า ไม่แน่ว่าจำเลยที่ 2 จะยิงจำเลยที่ 1 อีกหรือไม่ จำเลยที่1 ไม่มีโอกาสคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากยิงเพื่อป้องกันตนให้พ้นอันตรายเฉพาะหน้า เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีเช็ค: การยื่นเช็คซ้ำไม่เริ่มนับอายุความใหม่ ความผิดเกิดเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ยื่นเช็คต่อธนาคาร ธนาคารให้ติดต่อผู้สั่งจ่ายเป็นการปฏิเสธการใช้เงินแล้ว อายุความเริ่มนับ โจทก์ยื่นเช็คนั้นต่อธนาคารอีก ไม่ทำให้เริ่มนับอายุความใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากจ้างวาน ศาลยืนโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยดักยิงฆ่าคนตามที่รับจ้างมา เป็นฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าซื้อในการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด แม้ยังไม่ผ่อนชำระครบ
ผู้เช่าซื้อรถยนต์ยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบ เป็นผู้ครอบครองรถตามสัญญา ซึ่งจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยผลของสัญญา มีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดให้รถนั้นเสียหายได้